เมื่อวันที่ 15 ม.ค.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา สว.กก.3 บก.ป. ร.ต.อ.โกญจนารถ ชาวยามกา รอง สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ศิริญยา หรือเข็ม อายุ 21 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดบึงกาฬ เลขที่ 69/63 ลงวันที่ 2 มิ.ย.63 ในข้อหาว่า สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) เกินกว่ายี่สิบกรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาเสพติด กัญชา ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ที่กระท่อมสวนยาง หมู่บ้านผาทอง หมู่ 10 ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี
สืบเนื่องมาจากเมื่อเดือนมี.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหล่าหลวง ได้จับกุมตัวนายปิยะศักดิ์ กับพวก 2 คน ยึดของกลางยาบ้า 3,858 เม็ด และกัญชาอัดแท่ง 2 กิโลกรัม โดยนายปิยะศักดิ์ ได้ให้การซัดทอดว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายประพัฒน์พงศ์ หรือยอด และน.ส.ศิริญยา หรือเข็ม แฟนนายยอด ซึ่งทั้งคู่เป็นเอเย่นต์รายใหญ่ลักลอบจำหน่ายยาบ้าในเขตพื้นที่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ว่าจ้างตนให้มารับยาบ้าที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณบ้านหนองฮู ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดยให้ค่าจ้างในการมารับยาบ้าครั้งละจำนวน 10,000 บาท
ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ขยายผลเพิ่มเติม โดยทำการนัดหมายให้นายประพัฒน์พงศ์ และน.ส.ศิริญยา มารับยาบ้าที่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ เมื่อถึงเวลานัดหมายนายประพัฒน์พงศ์ และน.ส.ศิริญยา เดินทางมายังจุดนัดพบด้วยตนเองแต่เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนได้ขับรถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับต่อศาล
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สืบสวนทราบว่า น.ส.ศิริญยา ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณกระท่อมในสวนยาง บริเวณท้ายหมู่บ้านผาทอง หมู่ 10 ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี จึงได้ไปตรวจสอบพบ น.ส.ศิริญยา อยู่ภายในกระท่อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวนำส่ง สภ.เหล่าหลวง จ.บึงกาฬ ดำเนินคดี จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่า ตนเองเคยเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าในเขตพื้นที่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร จริงแต่ภายหลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามตัวจึงได้หลบหนีไปพักอาศัยกับแฟนคนใหม่ ตามกระท่อมในสวนยางตามต่างจังหวัด จนมาถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุมตัวได้ในที่สุด
สืบเนื่องมาจากเมื่อเดือนมี.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหล่าหลวง ได้จับกุมตัวนายปิยะศักดิ์ กับพวก 2 คน ยึดของกลางยาบ้า 3,858 เม็ด และกัญชาอัดแท่ง 2 กิโลกรัม โดยนายปิยะศักดิ์ ได้ให้การซัดทอดว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายประพัฒน์พงศ์ หรือยอด และน.ส.ศิริญยา หรือเข็ม แฟนนายยอด ซึ่งทั้งคู่เป็นเอเย่นต์รายใหญ่ลักลอบจำหน่ายยาบ้าในเขตพื้นที่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ว่าจ้างตนให้มารับยาบ้าที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณบ้านหนองฮู ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดยให้ค่าจ้างในการมารับยาบ้าครั้งละจำนวน 10,000 บาท
ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ขยายผลเพิ่มเติม โดยทำการนัดหมายให้นายประพัฒน์พงศ์ และน.ส.ศิริญยา มารับยาบ้าที่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ เมื่อถึงเวลานัดหมายนายประพัฒน์พงศ์ และน.ส.ศิริญยา เดินทางมายังจุดนัดพบด้วยตนเองแต่เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนได้ขับรถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับต่อศาล
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สืบสวนทราบว่า น.ส.ศิริญยา ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณกระท่อมในสวนยาง บริเวณท้ายหมู่บ้านผาทอง หมู่ 10 ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี จึงได้ไปตรวจสอบพบ น.ส.ศิริญยา อยู่ภายในกระท่อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวนำส่ง สภ.เหล่าหลวง จ.บึงกาฬ ดำเนินคดี จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่า ตนเองเคยเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าในเขตพื้นที่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร จริงแต่ภายหลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามตัวจึงได้หลบหนีไปพักอาศัยกับแฟนคนใหม่ ตามกระท่อมในสวนยางตามต่างจังหวัด จนมาถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุมตัวได้ในที่สุด