ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นต้นมา กระแสความคิดต่อต้านโลกาภิวัตน์มีเพิ่มสูงขึ้น ก่อเกิดให้มีการป้องกันการค้าระหว่างประเทศ (Protectionism) และ ลัทธิเอกภาคนิยม (Unilateralism) ในฐานะที่เป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นประเทศขนาดใหญ่ผู้รับผิดชอบ ประเทศจีนได้ริเริ่มร่วมกันสร้าง “โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” โดยมีความร่วมมือแบบพหุภาคีนิยม (Multilateralism) เป็นรากฐาน ซึ่งเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เสมอภาค ยึดมั่นหลักการร่วมกันหารือ ร่วมกันสร้าง และร่วมกันแบ่งปัน แสวงหาการได้ผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อเป็นการปูทางสู่เศรษฐกิจโลกาภิวัตน์รูปแบบใหม่ โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่ทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องหยุดชะงักลง และความร่วมมือระหว่างประเทศต้องประสบกับอุปสรรค “โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” นี้จึงเป็นเวทีและลู่ทางที่สำคัญในการช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และฟื้นฟูการหมุนเวียนเศรษฐกิจในภูมิภาค
“โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เป็นเส้นทางแห่งความร่วมมือของความสามัคคีเพื่อรับมือกับความท้าทาย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งเป็นวิกฤตด้านสาธารณะสุขที่สำคัญ ประเทศจีนและกลุ่มประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ต่างเฝ้าสังเกตการณ์และคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ให้กลายเป็นเส้นทางเพื่อชีวิตและเป็นแถบเชื่อมโชคชะตาของประเทศต่าง ๆ ในการจับมือกันต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้สถานการณ์การขนส่งระหว่างประเทศทั้งทางทะเลและทางอากาศที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเนื่องจากทุกประเทศได้ออกมาตรการล็อคดาวน์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การขนส่งทางบกของ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้ทำการขนส่งทรัพยากรวัสดุในการใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่ประเทศที่อยู่ตามเส้นทางได้อย่างทันท่วงที แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขนส่งระหว่างเทศได้อย่างราบรื่น และเพื่อรับประกันความเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ ตัวอย่างเช่น ขบวนรถไฟด่วนจีน-ยุโรป (China Railway Express) ศุลกากรจีนได้ออกมาตรการ 10 ข้อเพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาขบวนรถไฟดังกล่าว โดยอนุญาตให้ผู้ประกอบการเลือกรูปแบบการผ่านด่านศุลกากรได้ด้วยตนเอง สนับสนุนการดำเนินธุรกิจการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบโดยการขนส่งทางรถไฟเป็นแถบเชื่อมต่อ สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากการขนส่งทางรถไฟด่วนจีน–ยุโรปเพื่อพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross Border e-Commerce) หรือ การทำธุรกรรมการค้าข้ามประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ การขนส่งแบบด่วน และธุรกิจการขนส่งไปรษณียภัณฑ์ ล้วนเป็นแรงสนับสนุนแก่กลุ่มประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
“โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เป็นเส้นทางแห่งการฟื้นตัวของการกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และการดำเนินการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานไปพร้อมกันได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฮังการี-เซอร์เบีย สะพานปัทมาจีน-บังกลาเทศ และอุโมงค์ “มั่นม่ายหมายเลข 1” บนทางรถไฟจีน-ลาว แสดงให้เห็นถึงพลังชีวิตอันแข็งแกร่งของความคิดริเริ่ม “โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ประเทศจีนได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือ 200 ฉบับสำหรับการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับ 138 ประเทศ และ 30 องค์กรระหว่างประเทศ และร่วมกันดำเนินการแล้วมากกว่า 2,000 โครงการความร่วมมือ เมื่อนับถึงเดือน กันยายน ค.ศ. 2020 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2020 ประเทศจีนได้ลงทุนเพื่อความร่วมมือที่ก้าวหน้าอย่างมั่นคงกับกลุ่มประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และบริษัทจีนได้ลงทุนโดยตรงในธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงินของกลุ่มประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นมากร้อยละ 29.7 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน และได้ลงนามในสัญญาโครงการก่อสร้างใหม่กับกลุ่มประเทศดังกล่าวที่มีมูลค่ารวม 83.71 พันล้านเหรียญสหรัฐ และผลประกอบการที่สำเร็จแล้วมีมูลค่ารวมกว่า 53.31 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในประเทศต่าง ๆ มากขึ้นและเป็นแรงผลักดันที่แข็งแกร่งในการส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
“โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” คือเส้นทางแห่งการเติบโตที่ปลดปล่อยศักยภาพในการพัฒนา แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง แต่ก็ทำให้การบริการด้านระบบการแพทย์ทางไกล การเรียนรู้ทางออนไลน์ แพลตฟอร์มการแบ่งปัน ระบบสำนักงานอัตโนมัติ และบริการการทำธุรกรรมการค้าข้ามประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ต่างได้รับการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ในการต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประเทศจีนและกลุ่มประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้ขยายพื้นที่ความร่วมมือ รูปแบบความร่วมมือที่หลากหลาย และขยายช่องทางความร่วมมือ ผ่านรูปแบบการค้าทรัพยากรวัสดุต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบบการแพทย์ทางไกล สร้างการแบ่งปันข้อมูลด้านสาธารณะสุขและเครือข่ายการจัดการเหตุฉุกเฉิน ร่วมมือจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก และสร้าง “เส้นทางสายไหมที่แข็งแรง” ประเทศจีนและกลุ่มประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้เสริมสร้างการประสานงานด้านนโยบายร่วมกัน ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การกลับมาทำงานและการผลิต โดยการระดมทุนในรูปแบบการร่วมกันออกตราสารหนี้พิเศษเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และในรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการ เจรจาต่อรอธุรกิจ และลงนามสัญญาผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อดึงเอาศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ออกมา และเพื่อสร้าง “เส้นทางสายไหมดิจิทัล” หรือ “(Digital Silk Road)” อีกทั้งได้อาศัยกำลังทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วยผลักดันความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ขึ้นไปอีกขั้น และส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างกันทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพ