ทุบสถิติ โควิด 19 ระบาดหนักที่แปดริ้ววันเดียวพุ่งพรวด 8 ราย หลังหยุดชะงักผ่านมาได้แค่เพียง 2 วัน ขณะ ปชช. นักช้อปเดินตระเวนห้างฯ ดัง แห่พากันเดินทางมาตรวจหาเชื้อเพิ่มตามประกาศ สสจ. อีกเป็นจำนวนมากถึงกว่า 400 ราย จากวันเมื่อวันวานมีผู้สมัครใจเดินทางมาขอเข้าตรวจหาเชื้อเพียง 200 ราย ผงะพบข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจคัดกรองโควิด 19 กลายเป็นผู้ติดเชื้อเสียเองด้วย
วันที่ 14 ม.ค.64 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางเข้ามาตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่บริเวณศาลาจตุรมุข (ศาลาไทย) ด้านหน้าศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา ของประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา ตามประกาศของสำนักงานสาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทรา ที่ขอให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือเดินทางเข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้า ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านทางสามแยกโรงเรียนเทศบาล 2 ริมถนนสิริโสธร (314) อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 5-8 ม.ค.64 เดินทางเข้ามาตรวจหาเชื้อ
เนื่องจากเป็นผู้มีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคโควิด 19 จากการระบาดระลอก 2 ในครั้งนี้ สาเหตุจากมีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากสถานบริการกึ่งผับในเขตพื้นที่บางนา กรุงเทพฯ เดินทางเข้ามาทำงานยังภายในห้างฯ ดังกล่าว และทำให้มีผู้ติดเชื้อจากภายในห้างฯ แห่งนี้ เพิ่มเป็นจำนวนมากถึง 3 รายแล้วนั้น ล่าสุดในวันนี้ได้มีประชาชนเดินทางเข้ามาขอรับการตรวจหาเชื้อเพิ่มขึ้นจากวันวานถึง 2 เท่าตัว หรือมีจำนวนมากถึง 400 ราย จากเดิมเมื่อวันวานมีประชาชนเดินทางมาเข้ารับการตรวจหาเชื้อเพียงกว่า 200 ราย
สอบถาม นางวริษา ทิพย์อัมพร อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/214 ม.12 ต.บางขวัญ อ.เมือง จ.ฉะชิงเทรา ผู้ที่เดินทางเข้ามาตรวจหาเชื้อ เล่าว่า ได้มีโอกาสเสี่ยงเข้าไปสัมผัสเชื้อยังภายในห้างสรรพสินค้าแห่งดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 ม.ค.64 ที่ผ่านมา โดยได้เข้าไปเดินวนเวียนอยู่ในบริเวณแถบย่านร้านขายข้าวไข่เจียว ใกล้ประตูเข้าออกของห้าง ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้ติดเชื้อทำงานอยู่เป็นเวลานานหลายรอบ และยังได้เข้าไปใช้ห้องน้ำรวมภายในห้างด้วย
หลังจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อจากภายในห้างดังกล่าว จำนวนหลายราย จึงรู้สึกเกิดความกังวลใจขึ้นมาเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางเข้ามาตรวจหาเชื้อตามประกาศของทาง สสจ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งในช่วงระหว่างที่ทราบข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อมาก่อนหน้า ได้พยายามกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านแล้ว และไม่ได้มีอาการผิดปกติหรือป่วยแต่อย่างใด นอกจากนี้ตนเองยังอยู่บ้านเพียงลำพังเนื่องจากคนในครอบครัวได้แยกกันไปอยู่ยังที่อื่นด้วย ซึ่งหากตรวจพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อจึงไม่กังวนว่าจะนำเชื้อไปแพร่ให้ใคร นางวริษา กล่าว
ขณะที่ พลทหารธนัท คุ้มอุดมทรัพย์ พลฯ อาสาจากกองพันสารวัตรทหาร (สห.) มทบ.12 ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมาช่วยราชการในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และเป็นเจ้าหน้าที่จากฝ่ายทหารที่เข้าสนธิกำลังร่วมกันกับเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ในการเข้ามาตั้งด่านตรวจที่จุดสกัดโควิด 19 บนถนนวสุวินทวงศ์ ใน ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การเดินทางเข้ามาตรวจหาเชื้อในวันนี้
สาเหตุจากได้ทราบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจคัดกรองสกัดโรคโควิด 19 ที่มาเข้าเวรทำงานร่วมกัน ในด่านเดียวกัน ถูกตรวจพบเชื้อโควิด 19 ด้วย จึงได้เดินทางเข้ามาตรวจหาเชื้อในวันนี้ พร้อมกับเจ้าหน้าที่อีกหลายนาย จากหลายหน่วยงานที่มาเข้าเวรร่วมกันในวันนั้น พลทหารธนัท กล่าว
ขณะเดียวกันในวันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลถึงสถานการณ์ของโรคติดเชื้อโควิด 19 ประจำวันที่ 14 ม.ค.64 ว่าในวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนถึง 8 รายในวันเดียว จึงทำให้มีผู้ป่วยสะสมจากการระบาดของโรคระลอก 2 จากเดิมที่มีเพียง 18 รายเพิ่มขึ้นเป็น 26 รายในทันที โดยที่มีผู้ได้รับการรักษาจนหายแล้ว จำนวน 9 ราย และยังอยู่ระหว่างการรักษา 17 ราย แต่ยังไม่มีผู้ใดเสียชีวิตจากการระบาดระลอกนี้