ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผกก.สภ.บางคล้าพร้อมด้วย พ.ต.ท.อรรถการ กองสุผล รอง ผกก . สส. สภ.บางคล้า เจ้าหน้าที่ตำ รวจชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวสืบเนื่องจากที่มีชาวบ้านเจ้าของบ่อกุ้งในพื้นที่ ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้แจ้งความร้องทุกข์ตามกฎหมายไว้ที่ สภ.บางคล้า เมื่อช่วงต้นปี 2564 ว่ามีแก๊งค์โจรได้ออกอาละวาดขโมยลักเครื่อง ยนต์สำหรับใช้ในการเกษตรตีน้ำบ่อกุ้งจนนำไปสู่การขอหมายจับจากศาลโดยสั่งการให้ชุดสืบสวนออกหาข่าวและตามล่าแก๊งโจรแสบที่ออกอาละวาดเข้าไปลักขโมยเครื่องยนต์สำหรับตีน้ำในบ่อกุ้ง จำนวน 4 เครื่อง ที่บ่อกุ้งในพื้นที่ ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนนำเครื่องยนต์ที่ลักมาทั้ง 4 เครื่อง ขึ้นรถยนต์กระบะไปขายที่ร้านขายของเก่าในพื้นที อ. บ้าน สร้าง จ.ปราจีนบุรี ผกก. สภ.บาง คล้าผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสายตรวจ สภ.บางคล้า นำหมายจับจากศาลออกล่าแก๊งโจรแสบขโมยเข้าไปลักเครื่องแยนต์สำหรับทำการเกษตรตีน้ำในบ่อกุ้ง จำนวน 4 เครื่อง ที่ได้ไปขโมยจากบ่อกุ้ง ใน ต.เสม็ดใต้อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนนำเครื่องแยนต์ที่ลักมาทั้ง 4 เครื่อง ขึ้นรถยนต์กระบะไปขายที่ร้านขายของเก่าในพื้นที่ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และได้นำเงินที่ขายเครื่อง ยนต์มาแบ่งกันซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบทราบจนนำมาสู่การจับกุมยกแก๊งค์ได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่เขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะแสดงหมายศาล พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของผู้มีอาชีพเลี้ยงกุ้ง พร้อมติดตามเครื่องยนค์กลับคืนมาได้ครบ ทั้งนี้ พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผกก. สภ. บางคล้า พร้อมด้วยพ.ต.ท.อรรถการ กองสุผล รอง ผกก.สส.สภ.บางคล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวจากการที่มีชาวบ้านเจ้าของบ่อกุ้งในพื้นที่ ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้แจ้งความร้องทุกข์ตามกฎหมายไว้ที่ สภ.บางคล้า เมื่อช่วงต้นปีใหม่ 2564 ว่ามีแก๊งค์โจรได้ออกอาละวาดขโมยลักเครื่องยนต์สำหรับการ เกษตรตีน้ำในบ่อกุ้งจนนำไปสู่การขอหมายจับจากศาลออกล่าแก๊งโจรแสบขโมยเข้าไปลักเครื่องยนต์สำหรับการเกษตรตีน้ำในบ่อกุ้ง จำนวน 4 เครื่อง ที่บ่อกุ้ง ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนนำเครื่อง ยนต์ที่ลักมาทั้ง 4 เครื่องขึ้นรถยนต์กระบะ ไปขายที่ร้านขายของเก่าในพื้นที่ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ชุดสืบสวนจับกุมได้รับแจ้งจากสายแจ้งว่า นายทมิฬ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ ของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ.8/2564 ลงวันที่ 11 ม.ค.2564 ได้หลบหนีมาอยู่ที่ ห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 8 ต.บางไผ่ อ.เมืองจ.ฉะเชิงเทรา จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบพบตัวนายทมิฬฯ ยืนอยู่หลังห้องเช่าดังกล่าวซึ่งมีตำหนิรูปพรรณ ตรงตามหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับให้ดูและอ่านให้ฟังแล้ว ผู้ต้องหารับว่าเป็นบุค คลตามหมายจับจริงจึงได้เข้าควบคุมตัวนายทมิฬ อินทร์ถา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ 9 ต.ร่วมจิตร อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้อง หาให้การรับสารภาพพร้อมนำตรวจค้นได้ของกลางมี รถจักรยานยนต์(พ่วงข้าง) ยี่ห้อ ฮอนด้า สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ซึ่งนายทมิฬฯ ให้การว่าได้ร่วมกับนายอุดมพร หรือเบิร์ด แก้วพิลึก ขับขี่รถจักรยานยนต์(พ่วงข้าง) ของกลาง ไปลักเครื่องยนต์ของ ผู้เสียหายที่ ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา โดยเมื่อวันที่ 5-6 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 18.00 น.-19.00 น. ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกใช้รถมอเตอร์ ไซค์พ่วงข้าง ของกลาง เป็นยานพาหนะ เข้าไปลักเครื่องยนต์สำหรับทำการเกษตรจำนวน 2 เครื่อง ของนายอาคม วงษ์ภักดี ซึ่งฝากเก็บไว้ที่บ้านญาติ ในหมู่ที่ 4 ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา แล้วนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดมาเป็นของกลางไว้ได้ ตำรวจชุดสืบสวนได้ขยายผลการจับกุมผู้ร่วมแก๊งค์อีกรายที่เพิงพักไม่มีเลขที่ ริมถนนในหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.คลองจุกเฌอ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีไปก่อนหน้า จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบเพิงพักดังกล่าว พบเพียงมอเตอร์ไซค์ จากการสอบสวนนายทมิฬสารภาพว่าเครื่องยนต์ของผู้เสียหาย อีก 2 เครื่อง รวมทั้ง หมด 4 เครื่อง ได้นำไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า ในเขตพื้นที่ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี จากนั้นได้นำเงินที่ขายเครื่องยนต์ได้มาแบ่งกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ของกลาง ไว้เป็นพยานหลักฐาน ประกอบการสอบสวนดำเนินคดีและควบคุมตัวนาทมิฬฯ มาที่ สภ.บางคล้า บันทึกจับกุม นำตัว นายทมิฬฯ พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางคล้าพร้อม ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเครื่องยนต์สำหรับทำการเกษตรตีน้ำในบ่อกุ้ง จำนวนทั้งหมด 4 เครื่อง จากร้านรับซื้อของเก่ากลับมาได้ ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป