หลังจากละคร นาคี ที่ฉายจบไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ก็ทำให้ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จและขึ้นแท่นเป็นละครดีเด่นแห่งปี จนส่งผลให้คนดูถามถึงกันอย่างหนาหูว่าจะมีภาคสองหรือไม่ จนวันนี้การรอคอยของคนดูก็สมดั่งใจหวัง และเมื่อช่วงสายของวันนี้ได้มีการจัดงานบวงสรวงภาพยนตร์ “นาคี 2” ที่ เมตตาธรรมสถานนอกจากนี้ในระหว่างทำพิธียังเกิดอัศจรรย์พระอาทิตย์ทรงกลดอีกด้วยเราจึงไม่พลาดที่จะสอบถามความรู้สึกจาก ผกก. อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง และเหล่าบรรดานักแสดงและเก็บภาพบรรยากาศมาฝากอีกเช่นเคย “จริงๆแล้วคงต้องเรียนตรงๆว่าสืบเนื่องมาจากในละคร ที่ได้รับการตอบรับและได้รับความกรุณาจากท่านผู้ชมที่ดูกันเยอะ และก็อยากให้ทำภาคสอง จริงๆแล้วไม่ได้มีไอเดียแต่ว่าคุณตาเทพ คือคุณตาตรี อภิรุมท่านเขียนภาคสองขึ้นมา ก็เลยมีไอเดียว่าน่าจะทำเป็นภาพยนตร์ได้ ลองปรึกษากันดูแล้วเลยเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา ทำไมต้องเป็น ณเดชน์-ญาญ่า ตอนแรกว่าจะเล่นเองกับเมีย แล้วว่าพอดีมันไม่เหมาะนะ (หัวเราะ) ผมไม่ได้สนใจว่านี่คือ ณเดชน์หรือญาญ่า ผมไม่ได้สนใจว่านี่คือ แต้ว หรือ เคน ผมไม่ได้สนใจใครเลยเอางี้ดีกว่า เราสนใจนักแสดงท่านนึงที่เดินเข้ามาแล้วทำงานกับเราทุกเรื่องตั้งแต่ทำงานมา เพราะฉะนั้น ณเดชน์-ญาญ่าก็คือคนที่เราจะปั้นขึ้นเป็นตัวละครในภาพยนต์เรื่องนั้นในละครเรื่องนั้น หรือ เคน-แต้วเหมือนที่ผ่านมาทุกๆครั้ง คือเห็นว่าเค้าเหมาะสมกับตัวละคร ณเดชน์เหมาะสมกับตัวละครที่เป็นพระเอกของเรื่อง ญาญ่าเหมาะสมกับตัวละครที่เป็นนางเอกของเรื่อง” ผกก.อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ กล่าว อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ยังกล่าวต่อว่า “จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องของชะตากรรมของมนุษย์ ลิขิตของแต่ละคน ซึ่งกรรมทั้งหมดเราเป็นคนสร้างกันเองทั้งหมด บนโลกใบนี้มนุษย์มีกรรมติดตัวมาทุกภพทุกชาติ พวกเราทุกคนก็มี และทั้งหมดนี้เกิดจากตัวเราเองทั้งสิ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังพูดถึงกรรมที่เกิดจากการอาฆาตมาดร้ายของตัวละครบางตัว ซึ่งต้องการต่อกรรมต้องการยืดกรรม ด้วยความอาฆาตมาดร้ายของตัวเองต่อไป ทั้งหมดมันก็เลยกลายเป็นทุกข์ และก็มีผลกับตัวละครตัวอื่น เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันก็เป็นการแก้แค้น โดยสร้างเรื่องราวให้เกิดความเสื่อมเสียจากตัวละครตัวเก่า ซึ่งก็คือ “เจ้าแม่นาคี” และนอกจากนี้ตัวละครในภาคอดีตมีครบหมด” “เมื่อไหร่จะได้ชม งั้นเอาอย่างนี้นะครับ ในขั้นตอนการสร้างเนี่ย เดือนหน้าเราต้องเปิดแน่นอน คงใช้เวลาในการถ่ายจริงๆคงไม่เกิน 2 เดือน ประมาณสัก 2 เดือนกว่าๆก็คงต้องจบแล้ว แต่ว่าขั้นตอนหลังจากนั้นคือพอเข้าสู่ขั้นตอนของโพสต์และก็ของ CGอาจจะยืดไปนิดนึง นานนะครับนานนะ แต่ว่าอยากทำให้ดีที่สุด เพราะว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือในภาพยนต์เรื่องนี้ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญนอกจากนักแสดงแล้ว ก็ยังมีเรื่องของตัวละคร ซึ่งเราวาดขึ้นมาทั้งหมดนะครับ ก็คือ CG อันนี้สำคัญ ต้องให้เวลาเค้านิดนึง” พงษ์พัฒน์กล่าว “มาในส่วนของแต้วและเคนบ้าง ในฐานะต้นกำเนิดนาคีรู้สึกอย่างไร แต้วก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่แล้วค่ะ แล้วก็รู้สึกว่าจะเป็นยังไงต่อไป และจะเป็นยังไงต่อจากนี้ ส่วนเคนก็รู้สึกตื่นเต้น และก็อยากรู้เหมือนกับทุกคนเหมือนกันครับ” “แล้วณเดชน์กับญาญ่า รู้สึกยังไงบ้าง ที่มาเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ ญาญ่าก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะหนูก็เป็นแฟนคลับนาคี และได้มาเป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ ก็ถือว่าเป็นโชคดีของหนู ด้านณเดชก็รู้สึกดีใจมากครับ ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กับทุกคนครับ และก็อยากฟังพี่อ๊อฟเล่าเนื้อเรื่องอีกหลายๆครั้ง เพราะฟังแล้วรู้สึกมีพลังและก็ขนลุกครับ” “สุดท้ายนี้ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ได้ฝากถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ว่า มาดูความรัก ความรักที่สวยงาม ความรักที่อยู่คู่กับโลกใบนี้อยู่ตลอดไป และก็อยู่อีกนานแสนนานนะครับ และก็ผมมั่นใจว่าความรักในภาพยนต์เรื่องนี้สวยงามครับ”