สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ในกรุงจาการ์ตา เปิดเผยความคืบหน้าเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินศรีวิชัยแอร์ ตกในทะเลชวา นอกชายฝั่งของกรุงจาการ์ตา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เริ่มพบชิ้นส่วนศพผู้เสียชีวิตและสิ่งของเครื่องใช้ของผู้โดยสารบนเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวแล้ว ภายหลังจากกองทัพเรืออินโดนีเซีย ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเรือจำนวนหลายร้อยนาย พร้อมเรือชนิดต่างๆ จำนวนนับสิบลำ ตลอดจนเครื่องบินทางการทหารต่างๆ ออกค้นหาในพื้นที่ที่คาดว่า เป็นจุดเครื่องบินตก และบริเวณใกล้เคียง เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์นี้ โดยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ในกรุงจาการ์ตา เปิดเผยว่า ได้รับถุงจำนวน 2 ถุงจากกองทัพเรือ ซึ่งระบุว่า เป็นถุงสำหรับใส่ชิ้นส่วนศพของผู้โดยสารเครื่องบินฯ 1 ถุง และถุงสำหรับใส่สิ่งของเครื่องใช้ของผู้โดยสารเครื่องบินที่ประสบเหตุตกอีก 1 ถุง ก่อนนำไปตรวจสอบอีกครั้ง รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ทหารเรือของกองทัพเรือ ยังคงเดินหน้าค้นหาในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นบริเวณรอบนอกเกาะลากีและเกาะลันจัง ท่ามกลางความยากลำบากจากฝนตกหนัก และลมแรง กอปรกับย่านนทะเลข้างต้นมีระดับความลึก 20 – 23 เมตร เป็นอุปสรรค สำหรับ เครื่องบินโดยสารสายการบินศรีวิชัยแอร์ เที่ยวบินที่ “เอสเจ182 (SJ182)” ที่ประสบเหตุตกในครั้งนี้ เป็นเครื่องบินโดยสารแบบโบอิง 737-500 มีอายุการใช้งานเกือบ 27 ปี โดยขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารและลูกเรือล้วนเป็นชาวอินโดนีเซียทั้งหมดรวมแล้ว 62 คน อยู่บนเครื่อง ซึ่งเครื่องบินติดต่อครั้งสุดท้ายกับภาคพื้นดินเมื่อเวลาประมาณ 14.40 น. ของวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันเวลาเดียวกับประเทศไทย เดินทางจากท่าอากาศยานกรุงจาการ์ตา ไปยังเมืองเมืองปอนติอานัก บนเกาะบอร์เนียว ใช้เวลาเดินทางราว 90 นาที แต่ได้ประสบเหตุตกเสียก่อน