ต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสกลนคร นครพนม พบว่า พื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้มี 5 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครพนม มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร ซึ่งอยู่ในแถบบริเวณเทือกเขาภูพาน ในโอกาสนี้ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ร่วมคณะ พร้อมสั่งการให้สหกรณ์จังหวัดทั้ง 5 จังหวัด สำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ประสบภัย พบว่า มีสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม 300 แห่ง สมาชิกสหกรณ์ประมาณ 50,000-60,000 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำท่วมบ้านเรือน และพื้นที่ทำการเกษตรได้รับความเสียหาย
กรมส่งเสริมสหกรณ์ มีความห่วงใยเกษตรกร และสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ดังกล่าว ในเบื้องต้นได้ระดมความช่วยเหลือจากขบวนการสหกรณ์ในภาคต่าง ๆ ทั้งภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคกลาง ส่งเครื่องอุปโภคบริโภค ถุงยังชีพและอาหารให้กับสหกรณ์ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมนำไปแจกจ่ายให้สมาชิกและครอบครัวผู้ประสบภัย อาทิ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดยะลา จำกัด ได้บริจาคปลากระป๋อง 1,000 กระป๋อง เพื่อช่วยผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดสกลนคร นครพนมและจังหวัดใกล้เคียง ขบวนการสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช บริจาคน้ำดื่ม 1,200 ขวด และยังมีสหกรณ์หลายแห่งได้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือมอบให้สหกรณ์ที่มีสมาชิกได้รับความเดือดร้อนน้ำท่วม นำไปจัดซื้ออาหาร เครื่องดื่มและอาหารปรุงสุก เพื่อนำไปมอบให้กับสมาชิกสหกรณ์และชาวบ้าน ขณะนี้ยังมีการส่งมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นและเงินบริจาคไปให้กับสหกรณ์ในพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีกันของขบวนการสหกรณ์ทั่วประเทศที่ส่งความช่วยเหลือไปให้สหกรณ์ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ในระยะยาว โดยเตรียมจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) จำนวน 300 ล้านบาท ให้สหกรณ์กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ นำไปช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ที่ประสบปัญหาอุทกภัย เพื่อฟื้นฟูอาชีพของตนเอง หลังจากที่สถานการณ์ดีขึ้นและปริมาณน้ำลดลง ซึ่งอาจนำไปลงทุนอาชีพระยะสั้น เช่น ปลูกผัก เพื่อสร้างรายได้ระหว่างการรอปรับสภาพพื้นที่การเกษตรให้พร้อมที่จะประกอบอาชีพหลัก โดยขณะนี้ มีวงเงินพร้อมให้กู้ จำนวน 10 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้จัดสรรงบประมาณอีก 5 ล้านบาท สำหรับตั้งหน่วยบริการเคลื่อนที่ ส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดจุดให้บริการซ่อมแซมเครื่องจักรกลการเกษตร และอุปกรณ์อื่นๆ แก่สมาชิกสหกรณ์ รวมทั้งจะประสานขอความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคนิคในพื้นที่ เพื่อเข้ามาอบรมซ่อมเครื่องจักรกลการเกษตรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งทางกรมฯ เคยดำเนินการสำเร็จจากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคใต้มาแล้วเมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา
สำหรับหนี้สินที่สมาชิกสหกรณ์มีอยู่กับสหกรณ์ ทางกรมฯ จะขอความร่วมมือจากสหกรณ์ที่มีสมาชิกประสบอุทกภัย พิจารณาลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือในยามที่สมาชิกสหกรณ์ขาดรายได้ เนื่องจากพื้นที่ประกอบอาชีพการเกษตรเสียหายจากน้ำท่วม อาจจะลดดอกเบี้ยลง 0.5-1 % เป็นระยะเวลา 3-6 เดือน เพื่อให้สมาชิกสามารถยังชีพอยู่ได้ในระยะหนึ่งจนกว่าจะกลับคืนสู่สภาพปกติ สามารถประกอบอาชีพจนมีรายได้นำมาชดใช้หนี้สินคืนสหกรณ์ได้เหมือนเดิม ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือที่สหกรณ์สามารถทำได้โดยตรงกับสมาชิกของสหกรณ์เอง
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการในการช่วยเหลือด้านหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์ที่ไม่สามารถส่งชำระหนี้คืนสหกรณ์ได้ โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาพักชำระหนี้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยรัฐบาลจะจ่ายชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้สหกรณ์แทนสมาชิก ส่วนหนี้สินของสหกรณ์ที่มีอยู่กับกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ก็ดำเนินการได้ทันทีตามระเบียบกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ที่กำหนดไว้ คือ กรณีสหกรณ์ที่อยู่ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยหากมีความจำเป็น กรมฯ จะพิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไป 1 ปีด้วยเช่นกัน
สำหรับขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดอื่นๆ ที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคสิ่งของหรือเงินช่วยเหลือแก่สหกรณ์ที่ประสบภัยน้ำท่วม สามารถบริจาคผ่านศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยของทำเนียบรัฐบาล หรือติดต่อกับสำนักงานสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ได้โดยตรง ซึ่งทางกรมฯ พร้อมจะเป็นตัวกลางประสานความช่วยเหลือส่งต่อไปยังผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง พร้อมกันนี้ กรมฯได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ประสบภัย เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์อย่างทันท่วงที และลงพื้นที่ติดตามสอบถามความต้องการจากสมาชิกสหกรณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ที่ประสบภัยน้ำท่วมให้สามารถดำเนินชีวิตและกลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยเร็วต่อไป





