สำหรับโครงการใหญ่ที่ประกอบด้วยห้องพัก และพื้นที่สำนักงาน เกือบ 4,200 ยูนิต เพื่อตอบสนองความต้องการที่พักอาศัยที่มีไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่เพิ่มขึ้น ในประเทศเวียดนามระหว่างแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงก์ (NASDAQ:MAR) ที่ทำข้อตกลงสำคัญร่วมกับ มาสเตอร์ไรส์ โฮมส์ (Masterise Homes) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเวียดนาม เพื่อพัฒนาโครงการ Dual-Branded Residential และสำนักงาน ในโฮจิมินห์ ซิตี้ ทั้งนี้ อ้างอิงจากซาวิลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลลอปเมนต์ คอนซัลแทนซี ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นโครงการ hotel-branded residential ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยที่พักอาศัยและพื้นที่สำนักงาน เกือบ 4,200 ยูนิต จากแบรนด์ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล 2 แบรนด์ ประกอบด้วย เจดับบลิว แมริออท และแมริออท โฮเทลส์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2024 ในรูปแบบของมิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์ ที่มีทั้งที่อยู่อาศัย สำนักงาน และร้านค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่ง นายพอล ฟอสคีย์ ประธานฝ่ายบริหารการพัฒนา ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การร่วมงานกับมาสเตอร์ไรส์ โฮมส์ เพื่อแนะนำข้อเสนอระดับพรีเมียมสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในประเทศเวียดนาม ซึ่งกำลังมองหาแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ จนเกิดการเซ็นสัญญาครั้งนี้ขึ้น เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความต้องการของที่พักอาศัยในรูปแบบ branded residential ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ใจกลางกรุงโฮจิมินห์ซิตี้ ประกอบด้วยที่พักอาศัยและสำนักงาน ซึ่งผสมผสานเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้พักอาศัย โดยห้องพักและสำนักงานทุกยูนิต จะอยู่ภายใต้แบรนด์เจดับบลิว แมริออท ได้ถูกออกแบบเพื่อตอบโจทย์การพักผ่อนที่สุขสงบ และการอยู่ร่วมกันกับคนที่รัก พร้อมด้วยความเป็นส่วนตัว และสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวก บริการต่างๆ เช่นเดียวกับมาตรฐานโรงแรม ขณะที่พื้นที่สำนักงานจะถูกออกแบบในลักษณะเดียวกันกับห้องพักอาศัย มีจุดแข็งคือ เป็นพื้นที่สำหรับการใช้งานได้ทั้ง 2 แบบ คือ ทั้งที่พักอาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ด้านนายเจสัน เทิร์นบุล รองกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน มาสเตอร์ไรส์ โฮมส์ กล่าวว่า มาสเตอร์ไรส์ โฮมส์ ได้พัฒนาโครงการที่มีชื่อเสียงในเวียดนามมาแล้วกว่า 6 ปี และมีสถานะที่แข็งแกร่งในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ โดยมีจุดเด่นทางด้านการสร้างระบบนิเวศให้กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยมาตรฐานชั้นนำระดับสากล ดังนั้นจากความเป็นเลิศทางการบริหารงานของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล น่าจะช่วยสร้างมาตรฐานระดับเวิลด์คลาสให้กับผู้พักอาศัยในโครงการใหม่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี “ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนให้โครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส ได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า ทำให้ที่พักอาศัยในรูปแบบ Branded Residences สามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องความหรูหรา และบริการมาตรฐานของโรงแรม ซึ่งช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ และการพักผ่อน ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว” นายเจสัน กล่าว