“หมอสุกิจ” หวั่นสภาฯ งดประชุมทำงานไม่ทัน หลังโควิดลาม เตรียมหาแนวทางแก้ “วิษณุ” ชี้เลื่อนประชุมสภาฯ ไม่กระทบแก้รธน. แต่อาจกระทบกฎหมายทำแท้งคลอดไม่ทัน 12 ก.พ. ส่วน“แรมโบ้”สวนกลับ“คุณ หญิงหน่อย” หยุดวาทะตีกินทางการเมือง ยัน“นายกฯ-รบ.”ทำงานเชิงรุก ด้าน“ประมวล”ซัดรัฐบาลดีแต่พูด เมินเชือดคนทุจริต ถามนายกฯ ด่านักการเมืองเลวแต่กลับใช้บริการอยู่ข้างกาย ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 4 ม.ค.64 นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวยืนยันว่า พื้นที่ของสภาฯ มีมาตรการคัดกรองบุคคลที่ผ่านเข้าออกอาคารตามมาตรการของสาธารณสุขเพื่อป้อง กันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อย่างสูงสุด และเข้มข้น ส่วนนการประกาศให้พื้นที่ กทม. เป็นพื้นที่เสี่ยงสูงและมีมาตการให้งดการประชุมนั้นทางสภาฯต้องรอฟังมติจากที่ประชุมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามแนวทางที่เคยปฏิบัติมาในการระบาดระลอกแรกคือ สภาฯขอขยายเวลาการปิดสมัยประชุมสภาฯ ออกไปอีก 1 สัปดาห์ หรืออาจขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อสะสางงานเร่งด่วนที่คั่งค้างได้ ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีสภาฯ มีแนวโน้มที่จะเลื่อนการประชุมจะส่งผลกระทบต่อการพิจารณากฎหมายของรัฐบาลหรือไม่ว่า อาจมีผลกระทบ โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 และมาตรา 305 ความผิดฐานทำให้แท้งลูก หรือกฎหมายทำแท้ง เนื่องจากเป็นกฎหมายที่เร่งรีบ ซึ่งตนเชื่อว่าเสร็จไม่ทันวันที่ 12 ก.พ. ซึ่งเป็นวันประกาศใช้ ส่วนจะมีผลกระทบหรือไม่นั้น อย่าเพิ่งคิด ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีอะไร เพราะสามารถเลื่อนการประชุมได้ อย่างไรก็ตามหากมีการเลื่อนการประชุมสภาฯ จริง ก็ไม่สามารถประชุมสภาฯแบบออนไลน์ได้ เพราะมีข้อยกเว้นเอาไว้ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ กล่าวถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้งสถาบันสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ประชาชนไม่ได้เป็นคนทำการ์ดตกแต่รัฐบาลที่การ์ดตก รัฐบาลต้องเลิกทำผิดพลาดซ้ำซาก โดยระบุว่าต้องขอขอบคุณคุณหญิงสุดารัตน์ที่มีคำแนะนำให้นายกฯ และรัฐบาลแต่ขอให้คุณหญิงสุดารัตน์ อย่ากล่าวหานายกฯ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่านายกฯและรัฐบาลได้ทำงานอย่างหนักแค่ไหนในการแก้ไขปัญหา และตั้งแต่เกิดการระบาดอีกครั้ง นายกฯ ได้มีนโยบายทันทีที่ต้องทำงานเชิงรุก ตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และนำไปรักษาทันที “รัฐบาลไม่ได้ทำผิดอะไร และไม่ได้การ์ดตก และที่มีการปล่อยให้แรงงานลักลอบเข้าประเทศไทย เป็นการกระทำของคนที่ทำผิดกฎหมายเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งนายกฯย้ำให้สอบสวนและนำคนกระทำความผิดมาลงโทษแล้วไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะชีวิตคนและความเป็นอยู่ของประชานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ เวลาเช่นนี้แทนที่คุณหญิงสุดารัตน์จะต้องให้กำลังใจนายกฯ รัฐบาลบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชน แต่กลับมาซ้ำเติมกัน ในเวลานี้เป็นช่วงที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์คลี่คลายพร้อมกันนี้ยังอยากให้คุณหญิงเห็นใจนายกฯและรัฐบาลที่ได้ทำงานอย่างหนัก เลิกกล่าวหา ต่อว่านายกฯ และหันหน้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาจะดีกว่า การพูดจากล่าวหาเพื่อหวังดูดีท่าทีสวย หมดยุคสมัยที่จะใช้วาทะกรรมเช่นนั้น และคุณหญิงเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่ในสายตาประชาชนจับตามองตลอด พึงควรระวังการ กล่าวหาใส่ความต่อนายกฯและรัฐบาลอันเป็นเท็จ และควรหยุดการใช้วาทะตีกินทางการเมืองได้แล้วครับ” ด้าน นายประมวล เอมเปีย หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ เกิดจากการเห็นแก่ตัวของเจ้าหน้าบ้านเมืองบางคน รวมถึงหลายๆ ฝ่ายที่เห็นแก่เงิน โดยรัฐบาล ก็ทำงานรูปหน้าปะจมูกบอกว่าจะจัดการกับพวกผิดกฏหมาย และคอร์รัปชั่น แต่ก็ไม่เห็นจัดการอะไร พูดแล้วไม่ทำ จะพูดทำไม จึงขอฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ท่านด่านักการเมืองเลว ชั่ว แต่ท่านก็ยังใช้นักการเมืองเหล่านั้นมาอยู่ข้างกาย ทำความเสื่อมเสียทำลายระบบการเมืองทั้งหมด จนประชาชน เขาเกลียดนักการเมืองกันหมดแล้ว แล้วคิดว่าท่านเป็นฮีโร่หรือ ซึ่งก็ไม่ เพราะชาวบ้านก็คิดว่าท่านเป็นนักการเมืองประเภทเดียวกันแล้ว ถ้าจะให้ดี เอาคนพวกนั้นออกไป แล้วหาคนดีๆ มาทำงานสร้างความนิยมที่ดีๆ ยังมีเวลาอีกเกือบ2ปี ถ้าไม่ทำ อะไรก็เกิดขึ้นได้ การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน แต่ที่แน่ๆ ประชาชนอดอยากกันทั่วหน้า ปัญหาใหญ่ก็จะตามมา