วันที่ 3 ม.ค. 2564 นายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ ปลัดจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่เพื่อตรวจและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการตั้งจุดตรวจอยู่บนทางหลวงหมายเลข 117 พิษณุโลก-พิจิตร-นครสวรรค์ และ บนถนนทางหลวงหมายเลข 11 วังทอง-สากเหล็ก-เขาทราย ซึ่งเป็นถนนสายหลักจากภาคเหนือที่ใช้มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ พบว่าการจราจรหนาแน่น อัตราเฉลี่ยลดวิ่งผ่านจุดตรวจประมาณ 70-100 คัน/นาที สามารถใช้ความเร็ว 60-80 กม./ ชั่วโมง ทำให้การเคลื่อนตัวเป็นไปอย่างราบรื่น
นอกจากนี้ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ที่ประจำจุดตรวจต่างๆ ได้รายงานถึงการเฝ้าระวังโควิด 19 ว่ามีการรับรายงานตัวจากผู้ที่มาจากจังหวัดต่างๆ รวมถึงผู้ที่มาจากจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง โดยผู้ที่เข้ามาในพิจิตรถูกขอความร่วมมือให้ลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค้ด “รักพิจิตรร่วมกันปกป้องพิจิตร” ซึ่งก็พบว่า ในแต่ละตำบลมีผู้มาเยือน เป็นชาวพิจิตรที่ไปทำงานจากสถานที่ต่างๆเดินทางกลับบ้านประมาณตำบลละ 200-300 คน
สำหรับภาพรวมของผู้ที่ลงทะเบียนมีการเก็บสถิติข้อมูลว่า มีประมาณ 9 พันคนเศษ ซึ่งในการลงทะเบียนนี้ทำให้สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นใคร มาจากที่ไหน มีอาการที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิดหรือไม่ มีการพบผู้ที่มีความเสี่ยงสูง นั่นคือ มีอาการเป็นไข้ โดยทาง อสม.ในแต่ละพื้นที่ได้ทำ Swap เพื่อเก็บเชื้อส่งห้องแล็บเพื่อทำการตรวจหาเชื้อแต่ผลยังไม่ออกในขณะนี้ ดังนั้นหลังจากนี้อีก 7-10 วันก็คงต้องลุ้นกันว่าผู้มาเยือนในช่วงเทศกาลปีใหม่ทั้งหลายจะนำเชื้อไวรัสโควิด19 มาเป็นของฝากให้กับญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงที่จังหวัดพิจิตรหรือไม่ อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 63 –วันที่ 2 ม.ค. 2564 รวมระยะเวลา 10 วัน จ.พิจิตร ไม่พบผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด
นอกจากนี้ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ที่ประจำจุดตรวจต่างๆ ได้รายงานถึงการเฝ้าระวังโควิด 19 ว่ามีการรับรายงานตัวจากผู้ที่มาจากจังหวัดต่างๆ รวมถึงผู้ที่มาจากจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง โดยผู้ที่เข้ามาในพิจิตรถูกขอความร่วมมือให้ลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค้ด “รักพิจิตรร่วมกันปกป้องพิจิตร” ซึ่งก็พบว่า ในแต่ละตำบลมีผู้มาเยือน เป็นชาวพิจิตรที่ไปทำงานจากสถานที่ต่างๆเดินทางกลับบ้านประมาณตำบลละ 200-300 คน
สำหรับภาพรวมของผู้ที่ลงทะเบียนมีการเก็บสถิติข้อมูลว่า มีประมาณ 9 พันคนเศษ ซึ่งในการลงทะเบียนนี้ทำให้สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นใคร มาจากที่ไหน มีอาการที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิดหรือไม่ มีการพบผู้ที่มีความเสี่ยงสูง นั่นคือ มีอาการเป็นไข้ โดยทาง อสม.ในแต่ละพื้นที่ได้ทำ Swap เพื่อเก็บเชื้อส่งห้องแล็บเพื่อทำการตรวจหาเชื้อแต่ผลยังไม่ออกในขณะนี้ ดังนั้นหลังจากนี้อีก 7-10 วันก็คงต้องลุ้นกันว่าผู้มาเยือนในช่วงเทศกาลปีใหม่ทั้งหลายจะนำเชื้อไวรัสโควิด19 มาเป็นของฝากให้กับญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงที่จังหวัดพิจิตรหรือไม่ อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 63 –วันที่ 2 ม.ค. 2564 รวมระยะเวลา 10 วัน จ.พิจิตร ไม่พบผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด