ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย ในช่วงวารดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ผู้เขียนขอนำเสนอหนังสือดีอีกเล่มหนึ่ง ที่ได้รับเป็นอภินันทนาการจากสำนักพิมพ์สำนักนิสิตสามย่าน ภายใต้มูลนิธิเสถียรโกเศศ-นาคะประทีป ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านจนจบในช่วงหยุดยาวนี้ และพบว่าเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระน่าอ่าน และเต็มไปด้วยความจริงที่ออกมาหักล้างมายาคติที่ลัทธิไซออนิสต์ได้พยายามเผยแพร่มาเป็นเวลาหลายปี จนคนทั่วไปเชื่อว่ามันเป็นจริง แต่สำหรับคนที่รู้จริงแล้วจะเข้าใจถึงหัวอกของชาวปาเลสไตน์ ที่ต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ ไม่มีโอกาสจะเดินทางกลับประเทศ ส่วนคนที่อาศัยอยู่ในประเทศก็จะถูกกดขี่ข่มเหง แย่งยึดที่ดินและที่อยู่อาศัย เด็กๆถูกผลักดันให้ออกจากโรงเรียน ขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค ที่ย่ำแย่ไปกว่านั้นถูกกีดกันจากการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยเฉพาะถนนหนทางที่รัฐบาลอิสราเอลจัดสร้าง ที่อยู่อาศัยถูกล้อมรั้วกีดกันจากโลกภายนอกเหมือนสัตว์ในกรง ถูกเหยียดหยามแบ่งแยกเชื้อชาติ ยิ่งกว่าการเหยียดผิวในแอฟริกาใต้หรือที่ใดในโลก ในทางตรงข้ามลัทธิไซออนิสต์ ยังใช้สื่อกระแสหลักที่มีอยู่คือ เครือข่ายสื่อระดับโลกของตะวันตก สร้างข่าวเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อปิดบังความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตน และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนมติขององค์การสหประชาชาติครั้งแล้วครั้งเล่า อนึ่งยิวไซออนิสต์ยังสร้างมายาคติโดยการจัดทำภาพยนตร์จากฮอลลีวูด เพื่อมอมเมาชาวโลกให้เกิดความเห็นคล้อยตาม อย่างไรก็ตามก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยรวมทั้งคนยิวที่เคร่งครัดในศาสนายูดาห์นิกายออร์โธด๊อก มิได้เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว และมีการเคลื่อนไหวเพื่อเปิดโปงการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเหล่านั้น ทั้งนี้รวมถึง Ilan Pappe ซึ่งเป็นชาวยิว ผู้เขียนเรื่องนี้คือ Ten Myths About Israel ที่ได้ค้นคว้ารวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์และงานวิจัยต่างๆออกมาหักล้างขบวนการล้างสมองของลัทธิไซออนิสต์ ส่วนคุณพงษ์ประภัสสร์ แสงสุริยง ผู้แปล แม้จะยอมรับว่าหลังจากแปลแล้วเป็นเวลากว่า 2 ปี ความคิดเห็นและจุดยืนทางการเมืองจะเปลี่ยนไปแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ข้อมูลของ Ilan Pappe เป็นความจริง ดังนั้นผู้เขียน ซึ่งเป็นผู้ยึดมั่นในสัจนิยมและความยุติธรรม จึงประทับใจต่องานเขียนและการแปลในหนังสือเล่มนี้ ทั้งนี้จะได้นำเสนอโดยสรุปเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สนใจใฝ่หาความรู้ได้ติดตามทำความเข้าใจเป็นเบื้องต้น ก่อนที่จะได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มนี้ที่ได้ทำการแปลเป็นภาษาไทย Ilan ได้เริ่มนำเสนอเนื้อหาของสิบมายาคติอิสราเอลในบทนำเพื่อเกริ่นเรื่องโดยกล่าวว่า “ประวัติศาสตร์อยู่ในใจกลางของทุกความขัดแย้ง การทำความเข้าใจอดีตอย่างถ่องแท้และไร้ซึ่งอคติจะนำมาซึ่งความเป็นไปได้ที่จะเกิดสันติภาพ ในทางกลับกันการบิดเบือนและดัดแปลงประวัติศาสตร์ (เหมือนที่หลายประเทศด้อยพัฒนาทำ-ผู้เขียน) รังแต่จะนำมาซึ่งหายนะการบิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่แม้เพิ่งเกิดขึ้นก็สามารถก่ออันตรายมหาศาลได้ ดังที่เราเห็นตัวอย่างในความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความเข้าใจประวัติศาสตร์แบบผิดๆอย่างจงใจสามารถเกื้อหนุ่นการกดขี่และปกป้องระบอบเจ้าอาณานิคมและการยึดครองได้ จึงไม่น่าประหลาดใจว่านโยบายการบิดเบือนดัดแปลงความจริงจะยังดำรงอยู่ในปัจจุบัน และมีบทบาทสำคัญในการเติมฟืนแห่งความขัดแย้งให้ดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆ อย่างไร้ซึ่งความหวังในอนาคต” ด้วยการใช้ตรรกวิบัติ ดัดแปลงความจริง บิดเบือนประวัติศาสตร์ของลัทธิไซออนิสต์ ทำให้หลายคนหลายฝ่าย หลายประเทศ ไม่อาจเข้าใจต้นตอของปัญหา และตกเป็นเหยื่อของมายาคติดังกล่าวไปโดยปริยาย โดยมิได้มีการค้นคว้าหาความจริงอันเป็นความเชื่อที่งมงาย และไม่ยอมรับการโต้แย้งที่เป็นเหตุผล ที่สนับสนุนด้วยความจริง แม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นการเปิดโปงถึงการหลอกลวงที่จัดทำเป็นชุดความคิด แบบมายาคติ ที่กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ แต่ก็สามารถนำมาใช้เป็นบทเรียนของแต่ละประเทศได้ด้วย เพราะหลายประเทศก็มีการจัดทำชุดมายาคติเหล่านี้เพื่อปกป้องระบอบศักดินา หรือชนชั้นปกครอง อันทำให้การแก้ปัญหาที่ต้นตอเป็นไปได้ยากยิ่ง อนึ่งผู้เขียน (Ilan) ได้ให้แนวทางในบทต่างๆเพื่อหักล้างมายาคติของลัทธิยิวไซออนิสต์ตามลำดับดังนี้ บทที่ 1 ดินแดนปาเลสไตน์เป็นดินแดนที่รกร้างเปล่าจนเกือบกลายเป็นทะเลทรายก่อนการมาถึงของชาวยิวอพยพจากยุโรปตะวันออก ที่มีนโยบายเคลื่อนย้ายชาวยิวออกจากประเทศจริงหรือ Ilan ได้โต้แย้งด้วยประวัติศาสตร์ว่าดินแดนแถบนี้เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์มีแหล่งน้ำคือแม่น้ำจอร์แดน และมีการทำการเกษตรปลูกพืชผลต่างๆ เช่น มะเดื่อ มะกอก องุ่น และมีการแปรรูปส่งออกขาย นอกจากนี้ยังมีความเจริญด้วยศิลปวัฒนธรรมก่อนที่จะถูกยึดครองโดยโรมัน สำหรับรายละเอียดพร้อมหลักฐานผู้อ่านคงต้องไปค้นคว้าได้จากหนังสือเล่มนี้ บทที่ 2 ยิวไซออนิสต์พยายามสร้างภาพว่าชาวยิวที่อพยพมาจากยุโรปนั้นคือคนดั้งเดิมในบริเวณนี้ที่กลับมายึดคืนดินแดนตามพันธสัญญาของพระเจ้า แต่ความเป็นจริง Ilan แสดงให้เห็นว่าในแผ่นดินปาเลสไตน์มีคนชาวยิวอาศัยอยู่ร่วมกับชนชาติอาหรับ และชนชาติอื่นๆที่นับถือศาสนาแตกต่างกัน แต่เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม และชาวยิวเหล่านั้นมิได้อพยพไปไหน บทที่ 3 Ilan ได้อธิบายแยกแยะความแตกต่างของลัทธิไซออนิสต์และศาสนายูดาห์ และการอ้างอิงอย่างผิดๆ บทที่ 4 กล่าวถึงบทบาทของลัทธิไซออนิสต์และความเกี่ยวข้องกับลัทธิล่าอาณานิคม ไม่ใช่ขบวนการปลดปล่อยชาตินิยม บทที่ 5 ว่าด้วยเหตุการณ์ปี 1948 ที่อ้างว่าชาวปาเลสไตน์สมัครใจจะต่อสู้ทั้งๆที่ความจริงปรากฏว่าเขาถูกบังคับให้ต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและอิสรภาพ บทที่ 6 กล่าวถึงสงครามปี 1967 หรือสงคราม 6 วัน ที่กลุ่มอาหรับรุมรบอิสราเอล และอิสราเอลได้รับชัยชนะอย่างงดงามนั้น มีเบื้องหน้า เบื้องหลังและเบื้องลึกอย่างไร บทที่ 7 นำมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบันหลังจากปูพื้นทางประวัติศาสตร์ที่อิงอยู่บนความจริงแล้ว โดยเฉพาะระบอบการปกครองของอิสราเอลเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ บทที่ 8 ว่าด้วยแนวทางการแก้ปัญหาที่มีชาติมหาอำนาจและนานาประเทศเข้าร่วมว่ามันมีผลเชิงบังคับหรือไม่เพียงใด บทที่ 9 บรรยายถึงความทุกข์ยากของชาวปาเลสไตน์ในขณะที่ขบวนการต่อต้านการกดขี่ของลัทธิไซออนิสต์และรัฐบาลอิสราเอล กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นขบวนการก่อการร้ายและเป็นผู้เริ่มความรุนแรง สุดท้ายคือบทที่ 10 ได้บรรยายถึงมายาคติของไซออนิสต์ในการสร้างสันติภาพแบบมัดมือชก และความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาด้วยแนวทางสองรัฐ (Two-State Solution) นั้นเป็นเพียงแนวทางเดียวหรืออาจจะมีอีกหลายทางเลือกหรือไม่ Ilan กล่าวไว้น่าฟังว่า “นิสิตนักศึกษาและนักวิชาการจะเข้าถึงหนังสือเล่มนี้ได้ ถ้าพวกเขารักษาหายจากโรคร้ายของโลกวิชาการได้แล้ว โรคร้ายนั้นคือความคิดที่ว่าการยึดมั่นในหลักการของฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง จะทำลายความเป็นเลิศในงานวิจัยเชิงวิชาการ” “สำหรับสาธารณชนทั่วไป หนังสือเล่มนี้เป็นการนำเสนอย่างง่ายเกี่ยวกับประเด็นที่บ่อยครั้งก็ดูซับซ้อนเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นสิ่งที่สามารถอธิบาย และเชื่อมโยงได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ทัศนคติสากลเกี่ยวกับความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ทว่าผู้เขียนมองว่าหนังสือเล่มนี้ยังช่วยให้ผู้อ่านที่มีความละเอียดอ่อนเพียงพอ ได้ยึดเป็นหลักคิดในการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ โดยไม่ติดยึดกับความเชื่อเดิมๆ ที่อาจมีการบิดเบือนปรุงแต่ง แก้ไขความจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ปัจจุบัน ทำให้หลงมัวเมาประดุจทาสที่ปล่อยไม่ไป หากผู้ใดสนใจจะสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ติดต่อได้ที่ [email protected] หรือที่เคล็ดไทย สวัสดีปีใหม่ครับ