กีฬาคอซิมบี้เกมส์ตรัง “ระส่ำ” หลังเฟซบุค “กลุ่มคนตรังรักษ์บ้านเกิด”โพสข้อความ ภาคเอกชนถอยไม่ให้การสนบสนุน เหตุปมวางตัวประธานไม่ลงตัว ขณะที่ผู้ว่าฯตรัง ออกโรงแจงต้องแยกระหว่างวิถีวัฒนธรรมกับการเมืองให้ชัด เผยนายชวน ติดภารกิจ “ชง” อธิบดีกรมพลศึกษา เป็นประธานในพิธีเปิด
วันที่ 4 ส.ค.60 ได้มีสื่อโซเซียลเฟซบุคในนาม ““กลุ่มคนตรังรักษ์บ้านเกิด” ได้โพสข้อความเกี่ยวกับปัญหาการจัดการแข่งขัน กรีฑา กีฬา นักเรียน นักศึกษาและประชาชนจังหวัดตรัง “คอซิมบี้เกมส์” ระหว่างวันที่ 11-13 สิงหาคม โดยในป้ายคัตเอ้าท์ประชาสัมพันธ์ระบุว่า นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัยในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเกียรติให้เป็นประธานในพีธีเปิด และมีการเตรียมการจัดการแข่งขันไปมากกว่า 90 % โดยข้อความในเฟซบุคของ “กลุ่มคนตรังรักษ์บ้านเกิด” ระบุว่า “คอซิมบี้เกมส์” ชะงัก! ภาคเอกชนถอยกราวรูด พิธีเปิด-ปิด ส่อเค้ากร่อย ปมวางตัวประธานไม่ลงตัว เหมือนเด็กเล่นข้าวหอยเลียง
โดย “กลุ่มคนตรังรักษ์บ้านเกิด”ให้ความเห็นว่า หากกล่าวถึงการแข่งขันกีฬาในอดีตของจังหวัดตรัง หลายคนจะคิดถึงการแข่งขันกรีฑา กีฬา นักเรียนและประชาชน ที่เคยจัดขึ้นในอดีต และย้อนภาพไปถึงการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ขบวนพาเหรดจากโรงเรียนต่างๆทั่วสารทิศ ที่ต้องเดินรอบตลาดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเห็นบรรยากาศพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ต่างเดินมาชมและเชียรลูกหลาน เป็นภาพแห่งรอยยิ้ม ความประทับใจ การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย การก่อให้เกิดสัมพันธภาพใหม่ให้กับเพื่อนต่างโรงเรียน ทุกสิ่งล้วนหล่อหลอมให้มีนักกีฬา ที่มีชื่อเสียงที่เป็นลูกหลานชาวตรัง ประดับวงการกีฬา เป็นตำนวนแห่งความภาคภูมิใจ และเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการแข่งขันในครั้งนี้
“กลุ่มคนตรังรักษ์บ้านเกิด ยังระบุในเฟซบุคอีกว่า แต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย ที่การแข่งขันได้มีการหยุดชะงักไปเป็นเวลาหลายปีด้วยกัน ที่ผ่านมาทำกันตามยถากรรม ซึ่งจะด้วยเหตุผลกลใดนั้นก็มิอาจจะทราบได้ แต่มาในปี 2560 ทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดตรัง ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะภาคเอกชนต่างก็มีความคิดตรงกันที่จะรื้อฟื้นการแข่งขันกรีฑากีฬานักเรียน นักศึกษา และประชาชน ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเป็นการย้อนตำนานในอดีตและหวังที่จะต่อยอดให้มีการจัดการแข่งขันต่อไปทุกๆปี”
“ทราบว่า ก่อนหน้านี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้มีการประชุมพูดคุยกันหลายครั้งจนการเตรียมงานทุกอย่างลุล่วงมากว่า 90 เปอร์เซ็นต์ คงเหลือแต่เพียงแค่รอวันพิธีเปิดเพียงอย่างเดียวแต่สุดท้ายเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงกลางบ้าน เมื่อทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักลง ภาคเอกชนประกาศถอนตัวจากการสนับสนุนการแข่งขันกีฬาฯ ในครั้งนี้อย่างเป็นทางการ เนื่องจากส่วนราชการที่รับผิดชอบโครงการฯไม่มีความชัดเจนในเรื่องของประธานในพิธีเปิด ทั้งๆที่ มีการพูดคุยกันแบบตกผลึกไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง กลายเป็นหนังเรื่องยาว สร้างความแปลกใจให้กับคณะทำงานและพี่น้องชาวตรัง ถามว่าใครเเตะเบรก สั่งการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง ได้”เฟซบุคระบุ
กลุ่มคนตรังรักษ์บ้านเกิด แสดงความเห็นต่อไปว่า “แน่นอนว่างบประมาณอุดหนุนจากภาครัฐ ที่จะบริหารจัดการในส่วนอื่นไม่เพียงพอ จึงได้มีการระดมทุนจากภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนเพื่อให้การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ยิ่งใหญ่และเป็นอีกสนามหนึ่ง ที่จะเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชนได้แสดงความสามารถทางด้านกีฬา และเมื่อภาคเอกชนในจังหวัดตรัง ทราบว่า ประธานในพิธีเปิดเป็นนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยิ่งทำให้ภาคเอกชนหลั่งไหลกันเข้ามาบริจาคเงินอย่างไม่ขาดสาย ในขณะที่ป้ายประชาสัมพันธ์และป้ายคัทเอ้าท์ต่างๆ ก็ติดไปทั่วเมือง เพื่อเป็นการปลุกกระแสในเรื่องของกีฬาให้กับพี่น้องชาวตรัง ทั้งนี้ทราบว่าในส่วนของภาคเอกชนก็ได้เข้าไปดูแลในเรื่องของค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลา 3 วันของการแข่งขันกรีฑา คือ 11-13 สิงหาคม 2560 ไม่ว่าจะเป็นพิธีเปิดในวันที่ 11 สิงหาคม 2560 และพิธีปิดในวันที่ 13 สิงหาคม 2560 รวมไปถึงการเดินขบวนพาเพรด ค่าอาหารที่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 3,000 กล่องต่อวัน น้ำดื่ม ของนักเรียน นักศึกษา คณะกรรมการผู้ตัดสินทั้งหมด โดยการตั้งงบประมาณเอาไว้กว่า 600,000 บาท” เฟซบุคระบุ
เฟซบุค “กลุ่มคนตรังรักษ์บ้านเกิด” สรุปในตอนท้ายว่า ปีนี้ เมื่อมีการพูดคุยกันในเบื้องต้น ซึ่งทุกฝ่ายที่เป็นระดับผู้อำนวยการ หัวหน้าฯ และภาคเอกชน ก็ได้ตกผลึกกันว่า บุคคลที่จะมาเป็นประธานในพิธีเปิดครั้งนี้น่าจะเป็นบุคคลที่สามารถเล่าความเป็นมาของการแข่งขันกรีฑากีฬานักเรียน นักศึกษา และประชาชน ได้ดี และต้องเป็นบุคคลที่เคยมีส่วนร่วมกับในกิจกรรมดังกล่าว และแล้วก็เห็นชอบกันว่า จะต้องเป็น นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย เนื่องจากท่านเป็นปูชนียบุคคลที่เป็นที่เคารพรักของคนตรัง และท่านก็อยู่ในเหตุการณ์ของตำนานการแข่งขัน ซึ่งท่านก็จะสามารถถ่ายทอดความเป็นให้เด็กรุ่นหลังรู้เรื่องราวได้เป็นอย่างดี
ต่อมา นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง แถลงชี้แจง เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังมาแจ้งว่าท่านมีภารกิจไม่ได้มาเป็นประธาน ซึ่งท่านออกมาพูดเอง อีกประการทุกอย่างต้องดำเนินไปตามระเบียบกฎหมายและเป็นธรรม ยุติธรรม เป็นเรื่องของความปรองดองสมานฉันฺท์ ขณะนี้บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ช่วงของการปรองดอง โดยเฉพาะข้าราชการต้องยึดมาตรฐานและความเท่าเทียมกัน ฝ่ายการเมืองก็จะต้องได้รับการดูแลเท่าๆกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของทางราชการ โดยกรมพลศึกษาเป็นเจ้าของเรื่อง องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังสนับสนุน ในส่วนของภาคเอกชนจะมาสมทบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะฉะนั้นการพิจารณาประธานนะชพิธีเปิด ไม่ควรที่จะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเพื่อมิให้ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาร้องเรียนกับกรมพลศึกษาได้
นายศิริพัฒ ชี้แจงอีกว่า ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด เกี่ยวข้องในเรื่องของการดูแลความเรียบร้อย ไปพร้อมๆกับดูแลนโยบายรัฐบาล ซึ่งไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง เพียงแต่ได้ลงนามในใบประกาศนียบัตรถึง4 พันใบ และไม่ได้รับเป็นประธานต้องเข้าใจด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิถีคนตรังตนเชื่อว่าต้องแยกกัน ถึงวิถีการดำรงชีวิตทางด้านวัฒนธรรมก็เรื่องหนึ่ง แต่ถ้าวิถีในเรื่องหลักราชการต้องยึดหลักการ กฎหมาย ระเบียบ ทั้งนี้นายชวน หลีกภัย เป็นผู้มีหลักการ เมื่อนายชวน ทราบจึงแจ้งว่าว่าท่านติดภารกิจ จึงอยากฝากเรียนให้ทุกคนเข้าใจว่า ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะไปตัดสินอะไรได้ เป็นเรื่องที่ตนดำเนินการประสานไปยังอธิบดีกรมพลศึกษามาเป็นประธานตามระเบียบ
“เรามาทำเพื่อประชาชนดีกว่า จะไปมองว่าใครได้เป็นประธานหรือไม่เป็นจะทำให้ มีผู้สนับสนุนน้อยลงคงไม่ใช่ คนที่มาสนับสนุนไม่ได้คิดว่าใครจะมาเป็นประธาน ประการสำคัญลูกหลานคนตรังเล่นกีฬา ก็มีการสนับสนันกันอย่าเอาเรื่องดังกล่าวไปโยง ต้องแยกให้ชัดระหว่างกีฬากับการเมือง ถ้าเอากีฬามาผสมการเมือง ต้องรอหลังจากการเลือกตั้งไปแล้ว ก็ว่ากันไป ใครเป็นรัฐบาลก็เชิญกันได้ กิจกรรมในครั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่มีการล้มแต่อย่างใด เพราะราชการต้องทำกันอยู่แล้วเพียงแต่ว่าขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่าโน้มเน้าหรือทำอะไรไป เอกชนที่มาให้การสนับสนุนโทรศัพท์มาปรึกษาตนๆก็แจ้งว่าให้ความช่วยเหลือไป จังหวัดตรังต้องเป็นแบบอย่าง วิถีตรัง คือวิถีแห่งหลักการ อย่างทำบิดเบือนหลักการก็เท่านั้น” นายศิริพัฒ ชี้แจง
รายงานข่าวการท่องเที่ยวกีฬาจังหวัดตรัง แจ้งว่า ในส่วนของงบประมาณการจัดกิจกรรมการแข่งขันคอซิมบี้เกมส์จำนวน 1,093,000บาท แยกเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน400,400 บาท ใช้ในการจัดทำเกียรติบัตร จัดเตรียมสนามแข่งขัน เครื่องเสียง รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งสนามแข่งขัน องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง 693,300บาท ใช้ในค่ากรรมการ ถ้วย และ เหรียญรางวัล ในส่วนของการสนับสนุนจากภาคเอกชน อยู่ในส่วนกิจกรรมพิธีเปิด และค่าอาหารแก่นักกีฬา กองเชียร์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน