ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดราม่าข่าวโคมลอยเรื่องซีพีขอย้ายสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาออกจากกลางเมือง ซึ่งแหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เผยว่า พื้นที่โดยรอบสถานีพัทยาตามผลการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) มีพื้นที่ว่างสำหรับการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน(TOD)ประมาณ 200 ไร่เท่านั้น ทำให้หลายคนไปคาดการณ์กันเองว่า ซีพีจะมีการย้ายสถานี เพราะต้องการพัฒนาพัทยาให้เป็นสถานีขนาดใหญ่ และเมื่อไปตรวจสอบราคาซื้อขายที่ดินในปัจจุบันรอบสถานีพัทยา พบว่าปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ไร่ละ 10 ล้านบาท และอยู่ในมือนายทุนท้องถิ่นรายใหญ่ไปหมดแล้ว ทำให้นายหน้าที่ดินในพื้นที่มีการปล่อยข่าวว่าจะมีการย้ายสถานีเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินที่อ้างว่าจะย้ายสถานีออกไป และเป็นการกว้านซื้อที่ดินแบบแผนซ้อนแผน ขณะที่ทางซีพีจะไม่ย้ายสถานี แต่จะพัฒนาสถานีพัทยา ให้เป็นสถานีขนาดใหญ่โดยมีการออกแบบเชื่อมโยงระบบขนส่งรอง ซึ่งจะหารือกับนักลงทุนในพื้นที่ต่อไป ซึ่งการทำระบบ feeder หรือระบบขนส่งระบบรองเชื่อมโยงจากสถานีพัทยาออกไปยังพื้นที่รอบนอก ซีพีต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการเวนคืนเอง ทำให้เริ่มมีข่าวลือว่าจะย้ายสถานี ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือการหาพื้นที่วางระบบ feeder เชื่อมเมืองหลักเมืองรอง ถึงแม้จะยังไม่ระบุสถานที่ แต่ราคาที่ดินก็พุ่งไปตามข่าวลือหลายสิบเท่า จนแทบจะหาซื้อไม่ทัน แต่แน่นอนว่า ซีพีใช้สถานีพัทยาเดิมเป็นหลัก จะลดภาระค่าเวนคืนโดยจะเป็นหน้าที่ของภาครัฐตามที่ตกลงไว้แต่แรก ดังนั้นซีพีย่อมไม่ยอมจ่ายค่าเวนคืนเอง เพราะมีรัฐรับผิดชอบให้อยู่แล้ว หากย้ายสถานีไปยังจุดอื่นก็เท่ากับหาเรื่องเพิ่มต้นทุน แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.เปิดเผยว่า ได้เริ่มกระบวนการเวนคืนไปแล้ว โดยเข้าพื้นที่รังวัด อาจจะเวนคืนเฉพาะแนวเส้นทาง เว้นตรงสถานีไว้ก่อนเพื่อส่งมอบพื้นที่ให้ทันเดือนเมษายน 2564 หรืออย่างช้าคือเดือนสิงหาคม 2564 แต่ไม่เกินกรอบเวลาที่กำหนดไว้ไม่เกิน 2 ปี หรือเดือนตุลาคม 2564 เพื่อออกหนังสือให้เริ่มงานก่อสร้าง จะออกพร้อมกับพื้นที่ TOD สถานีมักกะสันและศรีราชา สำหรับกระแสข่าวเรื่องการย้ายสถานีไฮสปีดจากพัทยา ส่งผลกระทบกับนายหน้าเก็งกำไรที่ดิน ซึ่งยอมรับว่ามีที่ดินติดอยู่ในมือไม่สามารถขายออกจำนวนมากในพัทยา ศรีราชา และสถานีฉะเชิงเทรา ขณะราคาที่ดินขยับสูงขึ้นหลายเท่า โดยเฉพาะที่ดินรอบสถานีศรีราชาที่ขยับจากราคาไร่ละ 2-3 ล้านบาท เป็น 8-10 ล้านบาท เช่นเดียวกับพัทยาที่ราคาที่ดินติดชายทะเล พุ่งทะลุไปถึง 2 แสนบาทต่อตารางวา แหล่งข่าวจากวงการนายหน้าค้าที่ดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้นายทุนท้องถิ่นภาคตะวันออกกำลังตื่นตัวกับกระแสข่าวเรื่องการย้ายสถานีรถไฟความเร็วสูงที่พัทยาของกลุ่มซีพีที่ได้สัมปทานรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โดยมีข่าวลือว่าจะย้ายไปบริเวณใกล้ถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ตอน 7 ถนนเลียบทางรถไฟ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งขณะนี้ทราบว่ากลุ่มซีพียังไม่ย้ายสถานีพัทยาแต่อย่างใด ทั้งนี้แนวพื้นที่เวนคืนบริเวณสถานีพัทยา ครอบคลุมสถานีเดิมขนาดประมาณกว้าง 100 เมตร ยาว 600 เมตร หรือประมาณ 30 ไร่ โดยก่อนหน้านี้ นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยาได้ออกมาเปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินพบว่า ในสัญญาระหว่างผู้ที่ได้รับสัมปทานกับรัฐบาลมีการเปิดช่องสำหรับการเสนอปรับเปลี่ยนและย้ายสถานีจอดได้ ซึ่งเมืองพัทยาได้มีการติดตามเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมความพร้อมในกรณีที่จะมีการย้ายสถานีจอดรถไฟความเร็วสูงในเบื้องต้นไว้แล้ว อย่างไรก็ตามโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินจะส่งผลดีต่อเมืองพัทยาอย่างแน่นอน เพียงแต่เมืองพัทยาจะต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงการรถไฟรางเบา เพื่อให้สอดรับต่อการพัฒนาในอนาคตด้วย