วารินทร์ พรหมคุณ
76 ปีกับปริญญาแรกของอาชีวศึกษา
76 ปีของการเป็นการอาชีวศึกษาไม่เคยมีปริญญาเป็นของตนเอง แต่ปัจจุบันเมื่อมีการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาเกิดขึ้น โดยการจัดการศึกษาในระดับปริญญาตรี ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เป็นการจัดการศึกษาในรูปแบบอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ที่จัดการศึกษาร่วมกับสถานประกอบการชั้นนำที่ได้มาตรฐาน ใช้หลักสูตรที่แตกต่างจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วไป นั่นคือ หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต (Bachelor of Technology) ผู้ที่จบการศึกษาจะได้รับวุฒิการศึกษา สายเทคโนโลยีบัณฑิต อักษรย่อ ทล.บ. ซึ่งผู้ที่จบการศึกษาจะเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ มีสมรรถนะในการปฺฏิบัติ และพัฒนางานในระดับเทคโนโลยี สามารถปฏิบัติงานและเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติงานได้ หรือประกอบอาชีพอิสระ และพัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้าทางวิชาการและวิชาชีพ รวมทั้งเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชีพ และมีจิตอาสาในการช่วยเหลือสังคมด้วย
ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า สอศ.เป็นองค์กรภาครัฐ ที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตบุคลากร ตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ถึงระดับปริญญาตรี ที่มีความรู้ ทักษะฝีมือและความเชี่ยวชาญทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ซึ่งบุคลากรเหล่านี้ จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและยกระดับการพัฒนาประเทศ ให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ที่สมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยี จากสถาบันการอาชีวศึกษา ทั้ง 23 แห่ง
...และผลสำเร็จในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากแผนยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาด้านวิชาชีพของอาชีวศึกษา ให้ดำเนินการจัดการศึกษาต่อเนื่องได้ถึงระดับปริญญาตรี โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 ให้สถาบันการอาชีวศึกษา เป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิชาชีพและเทคโนโลยี มีเป้าหมายหลักในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้เป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม เป็นบัณฑิตนักเทคโนโลยีสายปฏิบัติการ ที่สอดคล้องกับความต้องการของกำลังคนของประเทศ
"สังคมดำรงอยู่ได้ด้วยการกระทำประโยชน์เกื้อกูลกัน และทุกคนที่อยู่ร่วมกันย่อมเป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ประโยชน์ บัณฑิตในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และเป็นบุคคลที่สังคมยอมรับในความรู้ความสารมารถ จึงควรประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์แก่สังคมทุกเมื่อ"
พระบรมราโชวาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดิทรเทพยวรางกูร
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2550

วันที่ 4 สิงหาคม 2560 นับเป็นวันประวัติศาสตร์ของการอาชีวศึกษา ที่บัณฑิตสายเทคโนโลยี จากสถาบันการอาชีวศึกษา 23 แห่งทั่วประเทศ ได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนิน เพื่อพระราชทานปริญญา แก่ผู้สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 ถึงปีการศึกษา 2559 จำนวนกว่า 3,000คน ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จังหวัดปทุมธานีโดยบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาทั้ง3ปีการศึกษา มีงานทำ 99% และ 1% ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น สร้างความภาคภูมิใจให้แก่บัณฑิตสายเทคโนโลยีทุกผู้ทุกนาม ทั้งนี้ "พิธีสำเร็จการศึกษา" เป็นพิธีการพิเศษซึ่งสถาบันอุดมศึกษาจัดขึ้นเพื่อมอบปริญญาบัตรแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มจัดให้มีขึ้นในต่างประเทศมาก่อน เช่นสหรัฐอเมริกา หรือหลายประเทศในทวีปยุโรป ต่อมาประเทศไทย จึงเริ่มรับเอาพิธีการดังกล่าวเข้ามา โดยกราบบังคมทูลเชิญพระมหากษัตริย์ เพื่อเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเป็นประธาน จึงบัญญัติศัพท์ให้เรียกว่า "พิธีพระราชทานปริญญาบัตร" และตั้งแต่ปี 2542จนถึงปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศ์ เสด็จฯ แทนพระองค์...แต่ภายหลังมีสถาบันอุดมศึกษา จัดพิธีอย่างเดียวกันโดยมิได้กราบบังคมทูลเชิญพระมหากษัตริย์ หรือกราบทูลเชิญพระบรมวงศ์เสด็จพระราชดำเนิน หรือทูลเชิญพระอนุวงศ์เสด็จไปทรงเป็นประธาน จึงบัญญัติเป็นศัพท์เรียกขึ้นใหม่ว่า "พิธีประสาทปริญญาบัตร"
