วันนี้ (24 ธ.ค.63) ที่ ห้องประชุม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ร่วมกับ นพ.อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา ร่วมให้ข่าวกรณีพบแรงงานต่างด้าว (เมียนมา) เดินทางกลับจากจังหวัดสมุทรสาครและการเตรียมความพร้อมรับมือโควิดระลอกใหม่ ********นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากกรณีสถานการณ์และการระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดสมุทรสาคร ในส่วนของจังหวัดยะลา เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ โดยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และให้ อสม.ช่วยฝ่ายปกครองสอดส่องผู้ที่มาจาก จ.สมุทรสาคร ให้รายงานตัวและประเมินความเสี่ยง โดยไม่จำเป็นต้องกักตัว หากมีความเสี่ยงสูงจะตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากเสี่ยงต่ำอาจให้แยกตัวเฝ้าระวังอาการ ทั้งนี้ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ได้รับแจ้งจากผู้จัดหางานในกลุ่มแรงงานต่างด้าวในจังหวัดยะลา ว่ามีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา เดินทางไปพิสูจน์สัญชาติ ที่ จ.สมุทรสาครระหว่างวันที่ 13-19 ธันวาคม 2563 จำนวน 31 คน และกลับเข้ามาทำงานในพื้นที่ อ.เมืองยะลา และอ.บันนังสตา ทีมสอบสวนโรคในพื้นที่ ได้ทำการสำรวจติดตาม ค้นหาแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาตามรายชื่อที่ได้รับแจ้ง 31 คน เพื่อคัดกรองสุขภาพ พบอาศัยในแคมป์พื้นที่ อ.เมืองยะลา 26 คน* อ.บันนังสตา 6 คน (ตามรายชื่อ 5+บุตรแรงงาน 1 คน) รวม 32 คน ซึ่งทุกคนมีอาการปกติ และได้ทำการแยกแคมป์ที่พักอาศัยของ 32 คน ให้อยู่แยกจากแรงงานพม่าคนอื่นๆ พร้อมทั้งให้คำแนะนำการล้างมือและการสวมหน้ากากอนามัย
“ทีมสอบสวนโรค มีแผนทำการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2563ที่ผ่านมายังไม่พบการติดเชื้อ ถึงแม้ว่าผลการตรวจฯไม่พบเชื้อ แต่บุคคลเหล่านี้ต้องเฝ้าระวังตนเองอยู่ในที่พักเป็นเวลา 14 วัน และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด อีกทั้งจังหวัดยะลามีมาตรการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ และมาตรการเชิงรุก ค้นหาผู้ติดเชื้อครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง (ผู้ที่มีอาการเข้าข่ายสงสัย (PUI)/ปอดอักเสบ/ก่อนผ่าตัด/ค้นหาเชิงรุก/LQ/กลุ่มอาชีพเสี่ยง/แรงงานต่างด้าว/กลุ่มผู้สัมผัส) ซึ่งในกลุ่มแรงงานต่างด้าวในจังหวัดยะลา มีจำนวนประมาณ 3,000 คน เป้าหมายสุ่มตรวจเชิงรุกจำนวน 1,000 คน (1 ใน 3) ซึ่งดำเนินการตรวจไปแล้ว 2 ครั้ง จำนวน 400 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ เหลือ 600 คนที่คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ อีกทั้งมีการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง อสม.และประชาชนในชุมชน ต้องร่วมกันสอดส่อง เฝ้าระวัง พบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เข้าสู่การดูแลตามระบบควบคุมโรคและในส่วนของผู้ที่เดินทางกลับจากจังหวัดหรือพื้นที่เสี่ยง/พื้นที่พบผู้ป่วยติดเชื้อ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ ประชาชนควรตื่นตัว ยกการ์ดสูง ไม่ตระหนกและติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่น ข่าวสารจากกรมควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขทุกแห่ง หน่วยงานภาครัฐฯ” นพ.สาธารณสุขยะลา กล่าว
ด้าน นพ.อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า โรงพยาบาลยะลามีศักยภาพเตรียมความพร้อมในเรื่องของห้องแยกผู้ป่วย (ผู้ป่วย/ผู้สงสัยป่วย) มีจำนวนกว่า 70 ห้องและมีเครื่องตรวจแลป 2 เครื่อง ซึ่งตรวจได้เต็มที่วันละ 300 ราย ถือว่าเพียงพอต่อการรองรับ อีกทั้งมีมาตรการในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยลดความแออัดในโรงพยาบาล งดเยี่ยม (ญาติเฝ้าได้เพียง 1 คน) ห้ามพาเด็กปกติมาโรงพยาบาลและโรงพยาบาลเป็นพื้นที่สวมหน้ากาก 100%
“ทีมสอบสวนโรค มีแผนทำการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2563ที่ผ่านมายังไม่พบการติดเชื้อ ถึงแม้ว่าผลการตรวจฯไม่พบเชื้อ แต่บุคคลเหล่านี้ต้องเฝ้าระวังตนเองอยู่ในที่พักเป็นเวลา 14 วัน และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด อีกทั้งจังหวัดยะลามีมาตรการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ และมาตรการเชิงรุก ค้นหาผู้ติดเชื้อครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง (ผู้ที่มีอาการเข้าข่ายสงสัย (PUI)/ปอดอักเสบ/ก่อนผ่าตัด/ค้นหาเชิงรุก/LQ/กลุ่มอาชีพเสี่ยง/แรงงานต่างด้าว/กลุ่มผู้สัมผัส) ซึ่งในกลุ่มแรงงานต่างด้าวในจังหวัดยะลา มีจำนวนประมาณ 3,000 คน เป้าหมายสุ่มตรวจเชิงรุกจำนวน 1,000 คน (1 ใน 3) ซึ่งดำเนินการตรวจไปแล้ว 2 ครั้ง จำนวน 400 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ เหลือ 600 คนที่คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ อีกทั้งมีการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง อสม.และประชาชนในชุมชน ต้องร่วมกันสอดส่อง เฝ้าระวัง พบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เข้าสู่การดูแลตามระบบควบคุมโรคและในส่วนของผู้ที่เดินทางกลับจากจังหวัดหรือพื้นที่เสี่ยง/พื้นที่พบผู้ป่วยติดเชื้อ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ ประชาชนควรตื่นตัว ยกการ์ดสูง ไม่ตระหนกและติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่น ข่าวสารจากกรมควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขทุกแห่ง หน่วยงานภาครัฐฯ” นพ.สาธารณสุขยะลา กล่าว
ด้าน นพ.อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า โรงพยาบาลยะลามีศักยภาพเตรียมความพร้อมในเรื่องของห้องแยกผู้ป่วย (ผู้ป่วย/ผู้สงสัยป่วย) มีจำนวนกว่า 70 ห้องและมีเครื่องตรวจแลป 2 เครื่อง ซึ่งตรวจได้เต็มที่วันละ 300 ราย ถือว่าเพียงพอต่อการรองรับ อีกทั้งมีมาตรการในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยลดความแออัดในโรงพยาบาล งดเยี่ยม (ญาติเฝ้าได้เพียง 1 คน) ห้ามพาเด็กปกติมาโรงพยาบาลและโรงพยาบาลเป็นพื้นที่สวมหน้ากาก 100%