นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานปล่อยขบวนรถลำเลียงลำไยสดช่อจากเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด กระจายสู่มือผู้บริโภคในจังหวัดเป้าหมายที่สั่งซื้อลำไย เพื่อช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกผู้ปลูกลำไยในภาคเหนือ โดยมีนายคำรณ พวงมณี ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ เขต 15,16 นายจิรศักดิ์ เงินเส็ง ผู้อำนวยการกองพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร และนายสุชาติ แก้วสอาด สหกรณ์จังหวัดลำพูน ร่วมปล่อยขบวนรถลำไย ณ สหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด จังหวัดลำพูน
นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า จากปัญหาผลผลิตลำไยของเกษตรกร 8 จังหวัดภาคเหนือ ถึงเวลาเก็บเกี่ยวพร้อมกัน ทำให้ช่วงเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่มีปริมาณลำไยออกสูงตลาดมากที่สุด โดยในปีนี้ คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดกว่า 600,000 ตัน อาจก่อให้เกิดปัญหาราคาลำไยตกต่ำ ดังนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงผลักดันให้สหกรณ์เป็นกลไกในการรวบรวมและกระจายลำไย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ขณะนี้ สามารถกระจายผลผลิตลำไยได้แล้วกว่า 1,162 ตัน แบ่งเป็นลำไยสดช่อ จำนวน 532 ตัน มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท ผ่านห้างสรรพสินค้า บริษัทไปรษณีย์ไทย ส่งออกต่างประเทศ และผ่านเครือข่ายสหกรณ์ 49 จังหวัดทั่วประเทศ และลำไยสดร่วง สหกรณ์ได้รวบรวมส่งให้พ่อค้า จำนวน 630 ตัน
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ มุ่งหวังให้ขบวนการสหกรณ์ เข้ามาเป็นกลไกสำคัญ ในการช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกผู้ปลูกลำไย ซึ่งสหกรณ์จะรับซื้อลำไยจากเกษตรกรสมาชิกในราคาที่สูงกว่าตลาด โดยลำไยสดช่อเกรด AA จะรับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 22-25 บาท ส่วนลำไยสดร่วงเกรด AA อยู่ที่กิโลกรัมละ 12 บาท นอกจากสหกรณ์ฯ จะเข้ามาช่วยยกระดับราคาผลผลิตให้สูงขึ้น และช่วยเพิ่มช่องทางการกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด ยังส่งผลต่อราคารับซื้อผลผลิตของพ่อค้าคนกลาง ซึ่งขยับราคาสูงขึ้นตามมาด้วย
"ทั้งนี้ สหกรณ์ได้มีการกำหนดมาตรฐานผลผลิตลำไย โดยมาตรฐานลำไยสดช่อ 1 กิโลกรัม จะต้องมีลำไยขนาด AA มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ และขนาด A ไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ นับแล้วต้องไม่เกิน 90 ลูก เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อถือทั้งด้านคุณภาพลำไยและด้านราคาที่เป็นมาตรฐานทั้งผู้บริโภคและเกษตรกรสมาชิก" นายประยูร กล่าว
นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า จากปัญหาผลผลิตลำไยของเกษตรกร 8 จังหวัดภาคเหนือ ถึงเวลาเก็บเกี่ยวพร้อมกัน ทำให้ช่วงเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่มีปริมาณลำไยออกสูงตลาดมากที่สุด โดยในปีนี้ คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดกว่า 600,000 ตัน อาจก่อให้เกิดปัญหาราคาลำไยตกต่ำ ดังนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงผลักดันให้สหกรณ์เป็นกลไกในการรวบรวมและกระจายลำไย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ขณะนี้ สามารถกระจายผลผลิตลำไยได้แล้วกว่า 1,162 ตัน แบ่งเป็นลำไยสดช่อ จำนวน 532 ตัน มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท ผ่านห้างสรรพสินค้า บริษัทไปรษณีย์ไทย ส่งออกต่างประเทศ และผ่านเครือข่ายสหกรณ์ 49 จังหวัดทั่วประเทศ และลำไยสดร่วง สหกรณ์ได้รวบรวมส่งให้พ่อค้า จำนวน 630 ตัน
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ มุ่งหวังให้ขบวนการสหกรณ์ เข้ามาเป็นกลไกสำคัญ ในการช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกผู้ปลูกลำไย ซึ่งสหกรณ์จะรับซื้อลำไยจากเกษตรกรสมาชิกในราคาที่สูงกว่าตลาด โดยลำไยสดช่อเกรด AA จะรับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 22-25 บาท ส่วนลำไยสดร่วงเกรด AA อยู่ที่กิโลกรัมละ 12 บาท นอกจากสหกรณ์ฯ จะเข้ามาช่วยยกระดับราคาผลผลิตให้สูงขึ้น และช่วยเพิ่มช่องทางการกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด ยังส่งผลต่อราคารับซื้อผลผลิตของพ่อค้าคนกลาง ซึ่งขยับราคาสูงขึ้นตามมาด้วย
"ทั้งนี้ สหกรณ์ได้มีการกำหนดมาตรฐานผลผลิตลำไย โดยมาตรฐานลำไยสดช่อ 1 กิโลกรัม จะต้องมีลำไยขนาด AA มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ และขนาด A ไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ นับแล้วต้องไม่เกิน 90 ลูก เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อถือทั้งด้านคุณภาพลำไยและด้านราคาที่เป็นมาตรฐานทั้งผู้บริโภคและเกษตรกรสมาชิก" นายประยูร กล่าว