พบติดเชื้อแล้ว 821 ราย ส่วนใหญ่ 90% ติดเชื้อไม่มีอาการ ยังรอผลตรวจอีกว่า 2,827 ราย ระบุเคสแพกุ้งเชื่อมโยงหลายจังหวัด พบสระบุรี 3 ราชบุรี 3 กทม.2 และนครปฐม 2 ขอความร่วมมือผู้ประกอบการดูแลคนขับและกระบวนการขนส่งในทุกขั้นตอน หากต้องเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติต้องเพิ่มการตรวจแรบบิทเทส เพื่อให้เกิดความมั่นใจ พ่นยาฆ่าเชื้อและสุ่มตรวจ และใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ จะจัดปีใหม่ได้-ไม่ได้รอ ศบค.เคาะ
21 ธ.ค.2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิดไ-19 ว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 382 ราย โดยแบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 14 ราย การค้นหาเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติจำนวน 360 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 5,289 ราย หายป่วยแล้ว 4,053 ราย เสียชีวิตคงที่ 60 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 14 ราย จากการสอบสวนโรคพบบางรายมีความเชื่อมโยงกับเคสตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ส่วนหญิงไทยอายุ 29 ปี อาชีพเสริมสวย ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีประวัติเดินทางมาจากภาคเหนือ และหญิงสัญชาติเมียนมา อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานห้างสรรพสินค้า ที่ อ.แม่สอด อยู่ระหว่างการสอบสวน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการคัดกรองเชิงรุกในชุมชนที่เป็นจุดการแพร่ระบาด จ.สมุทรสาคร พบแรงงานข้ามชาติติดเชื้อเพิ่มอีก 360 ราย ทั้งนี้มากกว่าร้อยละ 90 ติดเชื้อไม่มีอาการ โดยจะมีการตรวจหาเชื้อและรายงานผลกลุ่มที่อยู่โดยรอบพื้นที่เพิ่มเติมอีกประมาณ 2,000 ราย อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขได้มีการติดตามลูกค้าประจำของตลาดกลางกุ้ง ประมาณ 1,000 คน พร้อมขอความร่วมมือผู้ที่ได้เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเข้าตรวจหาเชื้ออีกด้วย ส่วนเรื่องการรับประทานอาหารทะเลในช่วงนี้ยืนยันว่ายังรับประทานได้แต่ขอให้ปรุงสุก และขอความร่วมมือผู้ประกอบการดูแลคนขับและกระบวนการขนส่งในทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้กระทบชีวิตประจำวัน ผู้ประกอบการโรงงานที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติในหลายจังหวัด อาจเพิ่มการตรวจแรบบิทเทส เพื่อให้เกิดความมั่นใจ รวมทั้งการพ่นยาฆ่าเชื้อและสุ่มตรวจ และใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ เพื่อควบคุมโรคได้ดีขึ้น ส่วนสถานศึกษาขอให้ดูแลนักเรียนหลีกเลี่ยงการชุมนุมในช่วงนี้ การใช้แนวทาง Work From Home รวมทั้งใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่ชุมชน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมการหลักเกณฑ์กรณีล็อกดาวน์รายจังหวัด หรือทั้งประเทศ ย้ำว่ายังไม่มีคำสั่ง แต่เป็นการเตรียมการเท่านั้น
สำหรับการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลปีใหม่นั้นอาจจะต้องรอดูตัวเลขผู้ติดเชื้อเพื่อเป็นองค์ประกอบในการตัดสิน หากตัวเลขลดลงก็เป็นข่าวที่ดี แต่หากตัวเลขยังพุ่งขึ้นมาตรการช่วงปีใหม่ก็จะต้องเปลี่ยนไป ซึ่งขณะนี้ที่ประชุมยังไม่สรุปว่าจะงดหรือไม่อย่างไร
ด้านนพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการสุ่มตรวจค้นหาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว จังหวัดสมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อแล้วทั้งสิ้น 821 ราย จากการสุ่มตรวจ 4,688 ราย และทราบผล 1,861 ราย ซึ่งยังเหลือผลอีก 2,827 ราย อย่างไรก็ตามในจำนวน 821 ราย มาจาก 1.การที่ผู้ตรวจไปรักษาตัวในอยู่ในโรงพยาบาล 33 ราย และ 2.ค้นพบได้ในชุมนุม 788 ราย ล่าสุดยังพบว่า มีผู้ป่วยที่เกี่ยวโยงกับตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ที่ยืนยันชัดเจนแล้วว่า มีการกระจายออกไปในจังหวัดอื่นๆ ประกอบด้วย สระบุรี 3 ราย ราชบุรี 3 ราย กทม.2 ราย และ นครปฐม 2 ราย
สำหรับข้อกังวลของประชาชนต่อจำนวนผู้ติดเชื้อจากแรงงานต่างด้าวจะมีมากขึ้นจะดูแลอย่างไร นพ.วิชาญ กล่าวว่า จะมีการนำโมเดลจากประเทศสิงคโปร์มาใช้ในการดูแล เพื่อจำกัดวงระบาด ทั้งนี้จากการตรวจหาเชื้อพบว่าส่วนใหญ่ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ซึ่งหากใครมีอาการมากหรือหนักก็จะเข้าสู่กระบวนการรักษา โดยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลเฉพาะ ส่วนรายที่ไม่มีอาการก็จะคอยสังเกตอาการเป็นระยะๆ
21 ธ.ค.2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิดไ-19 ว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 382 ราย โดยแบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 14 ราย การค้นหาเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติจำนวน 360 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 5,289 ราย หายป่วยแล้ว 4,053 ราย เสียชีวิตคงที่ 60 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 14 ราย จากการสอบสวนโรคพบบางรายมีความเชื่อมโยงกับเคสตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ส่วนหญิงไทยอายุ 29 ปี อาชีพเสริมสวย ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีประวัติเดินทางมาจากภาคเหนือ และหญิงสัญชาติเมียนมา อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานห้างสรรพสินค้า ที่ อ.แม่สอด อยู่ระหว่างการสอบสวน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการคัดกรองเชิงรุกในชุมชนที่เป็นจุดการแพร่ระบาด จ.สมุทรสาคร พบแรงงานข้ามชาติติดเชื้อเพิ่มอีก 360 ราย ทั้งนี้มากกว่าร้อยละ 90 ติดเชื้อไม่มีอาการ โดยจะมีการตรวจหาเชื้อและรายงานผลกลุ่มที่อยู่โดยรอบพื้นที่เพิ่มเติมอีกประมาณ 2,000 ราย อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขได้มีการติดตามลูกค้าประจำของตลาดกลางกุ้ง ประมาณ 1,000 คน พร้อมขอความร่วมมือผู้ที่ได้เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเข้าตรวจหาเชื้ออีกด้วย ส่วนเรื่องการรับประทานอาหารทะเลในช่วงนี้ยืนยันว่ายังรับประทานได้แต่ขอให้ปรุงสุก และขอความร่วมมือผู้ประกอบการดูแลคนขับและกระบวนการขนส่งในทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้กระทบชีวิตประจำวัน ผู้ประกอบการโรงงานที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติในหลายจังหวัด อาจเพิ่มการตรวจแรบบิทเทส เพื่อให้เกิดความมั่นใจ รวมทั้งการพ่นยาฆ่าเชื้อและสุ่มตรวจ และใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ เพื่อควบคุมโรคได้ดีขึ้น ส่วนสถานศึกษาขอให้ดูแลนักเรียนหลีกเลี่ยงการชุมนุมในช่วงนี้ การใช้แนวทาง Work From Home รวมทั้งใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่ชุมชน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมการหลักเกณฑ์กรณีล็อกดาวน์รายจังหวัด หรือทั้งประเทศ ย้ำว่ายังไม่มีคำสั่ง แต่เป็นการเตรียมการเท่านั้น
สำหรับการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลปีใหม่นั้นอาจจะต้องรอดูตัวเลขผู้ติดเชื้อเพื่อเป็นองค์ประกอบในการตัดสิน หากตัวเลขลดลงก็เป็นข่าวที่ดี แต่หากตัวเลขยังพุ่งขึ้นมาตรการช่วงปีใหม่ก็จะต้องเปลี่ยนไป ซึ่งขณะนี้ที่ประชุมยังไม่สรุปว่าจะงดหรือไม่อย่างไร
ด้านนพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการสุ่มตรวจค้นหาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว จังหวัดสมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อแล้วทั้งสิ้น 821 ราย จากการสุ่มตรวจ 4,688 ราย และทราบผล 1,861 ราย ซึ่งยังเหลือผลอีก 2,827 ราย อย่างไรก็ตามในจำนวน 821 ราย มาจาก 1.การที่ผู้ตรวจไปรักษาตัวในอยู่ในโรงพยาบาล 33 ราย และ 2.ค้นพบได้ในชุมนุม 788 ราย ล่าสุดยังพบว่า มีผู้ป่วยที่เกี่ยวโยงกับตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ที่ยืนยันชัดเจนแล้วว่า มีการกระจายออกไปในจังหวัดอื่นๆ ประกอบด้วย สระบุรี 3 ราย ราชบุรี 3 ราย กทม.2 ราย และ นครปฐม 2 ราย
สำหรับข้อกังวลของประชาชนต่อจำนวนผู้ติดเชื้อจากแรงงานต่างด้าวจะมีมากขึ้นจะดูแลอย่างไร นพ.วิชาญ กล่าวว่า จะมีการนำโมเดลจากประเทศสิงคโปร์มาใช้ในการดูแล เพื่อจำกัดวงระบาด ทั้งนี้จากการตรวจหาเชื้อพบว่าส่วนใหญ่ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ซึ่งหากใครมีอาการมากหรือหนักก็จะเข้าสู่กระบวนการรักษา โดยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลเฉพาะ ส่วนรายที่ไม่มีอาการก็จะคอยสังเกตอาการเป็นระยะๆ