ถือเป็นวัคซีนที่จำเป็นต้องฉีดกันทุกปี กับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเพจ FDA Thai ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุ เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้เกิดเชื้อใหม่ขึ้น ภูมิคุ้มกันเดิมอาจไม่สามารถป้องกันโรคได้ และภูมิคุ้มกันของร่างกายคนเราที่มีต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่นั้นมักจะลดต่ำลงเรื่อยๆ และผู้ที่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ควรเข้าใจว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ถึงแม้จะได้รับวัคซีนแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถป้องกันการเกิดโรคได้ 100% ดังนั้น ผู้รับวัคซีนนี้ยังคงต้องดูแลตนเองให้แข็งแรง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ คือ 1.กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการที่จะเกิดอาการแทรกซ้อน หลังจากป่วย - ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป - ผู้ที่เข้ารับการบำบัดอยู่ใน nursing home และสถานที่รับดูแลโรคเรื้อรัง - ผู้ใหญ่ และเด็กที่มีโรคปอดเรื้อรัง โรคระบบหัวใจ และหลอดเลือดรวมทั้งเด็กที่เป็นโรคหอบหืด - ผู้ใหญ่หรือเด็กที่ต้องเข้ารับการรักษา เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำด้วยโรคเรื้อรังคือ โรคเบาหวาน โรคไต โรคเลือด หรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ที่ได้รับยากดระบบภูมิคุ้มกัน - เด็กหรือวัยรุ่น (6 เดือน – 18 ปี) ที่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาด้วยแอสไพรินเป็นประจำจะมีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยเป็น Reye's Syndrome หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 2.บุคลากรทางการแพทย์ หรือบุคคลที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้เป็นโรค 3.ประชาชนทั่วไปที่ต้องการฉีด อาการที่อาจเกิดหลังจากได้รับวัคซีน เช่น ปวดเมื่อยตามตัว ปวดบวมบริเวณที่มีการฉีดวัคซีน บางรายอาจพบอาการท้องเสีย อ่อนเพลีย มีห้อเลือด หรือคันบริเวณที่ฉีด แต่อาการจะสามารถหายเองได้ภายใน 1 – 2 วัน หากอาการดังกล่าวไม่ทุเลาลง ควรรีบไปพบแพทย์ อย่างไรก็ตาม วัคซีนไข้หวัดใหญ่ยังห้ามให้ใน 1.ผู้ที่แพ้ยา/แพ้วัคซีน หรือส่วนประกอบของวัคซีนนี้ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้ไข่ โปรตีนจากไก่ ยาปฏิชีวนะที่ใช้ในกระบวนการผลิตวัคซีน เช่น ยานีโอมัยซิน (Neomycin) และยาโพลีมัยซิน (Polymyxin) 2. ผู้ที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน 3.ผู้ป่วยโรคกิลเลน-บารร์เร่ ซินโดรม (Guillain-Barre Syndrome) หรือโรคที่ความผิดปกติของเส้นประสาทส่วนปลาย 4.ผู้ที่มีไข้ เจ็บป่วย หรือไม่สบายในวันที่จะรับวัคซีนนี้ ควรเลื่อนนัดออกไปก่อน และกลับมาฉีดเมื่ออาการดีขึ้น 5.strong> ผู้ที่เพิ่งหายจากการเจ็บป่วยมาไม่เกิน 1 สัปดาห์หรือเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์”