"เหนือ-อีสาน"เตรียมรับลมหนาวระลอกใหม่ 15-18 ธ.ค.นี้ อากาศจะเย็นลงอีก 2-3 องศา ส่วน"กรุงเทพฯ"มีหมอกตอนเช้า จับตาลมหนาวระลอกใหม่พัดปกคลุมไทย 15-18 ธ.ค.นี้ ขณะที่ 5 จังหวัดภาคใต้น้ำยังท่วม ประชาชนเดือดร้อนกว่า 6 แสนครัวเรือน เสียชีวิตแล้ว 30 ราย เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.63 กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือ ส่วนยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับภาคอีสาน อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส อนึ่ง ในช่วงวันที่ 15-18 ธ.ค.63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส วันเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด 101 อำเภอ 584 ตำบล 4,220 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 689,792 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 30 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา ระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ