เอ่ยถึง “ไฟป่า” ต้องถือว่า เป็นหนึ่งในหายนะพิบัติภัยทำลาย “ป่าไม้” โดยในแต่ละปี ก็ขยี้พื้นที่ป่าไม้ในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ในหลายภูมิภาคของโลกเรา รวมแล้วหลายสิบล้านเอเคอร์ (1 เอเคอร์ เท่ากับประมาณ 2.53 ไร่ หรือกว่า 2 ไร่ครึ่ง) เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เผชิญภัยพิบัติไฟป่าอย่างรุนแรงกันทุกปีเป็นประจำ ปรากฏว่า ในปี 2020 ที่ใกล้จะผ่านพ้นไปอีกไม่กี่เพลานี้ ผืนป่าก็ถูกเพลิงเผาผลาญไปมากกว่า 8 ล้านเอเคอร์ หรือมากกว่า 20 ล้านไร่ สำหรับ หายนะจากไฟป่าที่สหรัฐฯ เผชิญในปีนี้ ถูกเผาผลาญไปเป็นจำนวนมากกันแต่ละปีในลักษณะเช่นนี้ ก็สร้างความปริวิตกให้แก่นักสิ่งแวดล้อมด้านป่าไม้กันว่า ผืนป่าจะหมดไปเข้าให้สักวัน ว่าแล้ว บรรดากูรู ต่างนั่งขบคิดพิจารณาถึงวิธีการแนวทางที่จะปลูกป่าขึ้นมาทดแทนผืนป่าที่ถูกเพลิงเผาผลาญจนมอดไม้ไปเป็นประการต่างๆ หนึ่งในวิธีการที่บรรดากูรูหลายคน แสดงทรรศนะเห็นว่า น่าจะได้ผลดี หรือเวิร์ก กันก็คือ การใช้ “อากาศยานไร้คนขับ” หรือ “โดรน” ซึ่งถูกยกให้เป็น “อากาศยานแห่งยุค” หรือที่หลายคนพูดว่า มันคือ หุ่นยนต์ หรือโรบอต ปัญญาประดิษฐ์ที่บินได้ น่าจะสามารถนำมาใช้ด้านการปลูกป่าทดแทนอย่างได้ผล โดยใช้ “โดรน” ช่วยหว่านเมล็ดพันธุ์พืชที่ใช้ปลูกตามป่า ซึ่งเจ้าโดรนที่ว่า สามารถทะยานบินขึ้นฟ้า หว่านเมล็ดพืชพันธุ์ลงบนดินได้ในระยะไกล ด้วยอุปกรณ์ควบคุมบังคับ แม้อยู่ห่างไกลกันก็ตาม ซึ่งโดรนข้างต้น สามารถบังคับให้บินไปในพื้นที่ห่างไกล มีอันตราย และเกินกว่าทรรศนะวิสัยสายตามนุษย์เราจะมองเห็นในพื้นที่นั้น จากการที่มันบินขึ้นไปเป็นมุมสูง เรียกชื่อโดรนชนิดนี้ว่า “โดรนซีด (Drone seed)” อันหมายถึง โดรนสำหรับการหว่านเมล็ดพันธุ์พืชตามคำศัพท์ภาษาอังกฤษ นั่นเอง มีรายงานว่า ทางบริษัท ซึ่งใช้ชื่อว่า “โดรนซีด” อันเป็นชื่อเดียวกับโดรนชนิดนี้ รับหน้าที่ปลูกป่าทดแทน ด้วยวิธีการใช้โดรนหว่านเมล็ดพืชพันธุ์ดังกล่าวไป สำหรับ บริษัทโดรนซีดข้างต้น มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน อันเป็นรัฐชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศสหรัฐฯ โดย “โดรนซีด” ได้รับการอนุมัติจาก “สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ” หรือ “เอฟเอเอ” ให้ดำเนินการดังกล่าว ในอันที่จะปลูกป่าในพื้นที่ผืนป่าของ “รัฐวอชิงตัน” ซึ่งเป็นในรัฐที่ประสบกับหายนะไฟ ป่า เผาผลาญผืนป่าจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก การปฏิบัติการ “โดรนซีด” ซึ่งมีขนาด 8 ฟุต ก็จะบรรทุกเมล็ดพันธุ์พืชชนิดต่างๆ น้ำหนักราว 57 ปอนด์ หรือ 25.65 กิโลกรัม บินทะยานขึ้นฟ้า ก่อนโปรยหว่านตามพื้นที่จุดหมาย โดยมีอุปกรณ์กล้องตรวจการณ์แบบ 3 มิติ ซึ่งถูกติดตั้งไว้ในโดรน หาจุดหมายที่จะโปรยเมล็ดพันธุ์พืชได้อย่างแม่นยำ ตามแต่ผู้ควบคุมบังคับต้องการ ซึ่งโดรนซีดพวกนี้ จะทะยานบินขึ้นไปเป็นฝูง ฝูงละ 5 ลำ “แกรนต์ คานารี” ซึ่งดำรงตำแหน่ง “ซีอีโอ” หรือ “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” ของ “โดรนซีด” เปิดเผยว่า โดรนของพวกเขา สามารถหว่านเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อปลูกป่าได้ถึงวันละ 50 เอเคอร์ (ราวกว่า 126.5 ไร่) พร้อมกับย้ำว่า โดรนซีดเหล่านี้ทำงานได้คุ้มค่ายิ่งกว่าการใช้แรงงานคนปลูกเสียอีก พร้อมกันนั้น ทางโดรนซีด ยังย้ำว่า นอกจากที่รัฐวอชิงตัน ที่พวกเขากำลังดำเนินการปลูกป่าทดแทนอยู่นี้ ก่อนหน้านั้น พวกเขาก็ประสบความสำเร็จปลูกป่าทดแทนได้เป็นจำนวนมากมาแล้ว ในปฏิบัติการซึ่งมีขึ้นที่ประเทศนิวซีแลนด์ แดนกีวีที่มีขึ้นก่อนหน้า