แจงทุกประเด็นข่าวลือข่าวลวง ระบุแม้สายพันธุ์ G จะแพร่ได้เร็วแต่ไม่รุนแรง ขณะปัจจุบันกว่า 80% ล้วนเป็นสายพันธุ์นี้ วอนโซเชียลหยุดแชร์ข่าวลือ ข่าวลวง บาร์โฮสต์เชียงใหม่มาทำงานกทม.แพร่โควิด ยันผลตรวจออกแล้ว 56 คนเป็นลบหมด ทั้งข่าวรพ.BNH มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อแล้ว 24 ราย ไม่เป็นจริง พบมีบุคลากรการแพทย์เพียง 6 รายเท่านั้นตามข่าว
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.63 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการแชร์ข่าวบาร์โฮสต์ที่ จ.เชียงใหม่ มาทำงานที่ กทม.แล้วนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งกรณีนี้ข้อมูลตรงกับผู้ป่วยหญิงรายหนึ่งที่มาจากท่าขี้เหล็ก และได้ไปเที่ยวบาร์โฮสต์ที่เชียงใหม่ ในบาร์โฮสต์แห่งนั้นมีทั้งหมด 56 คน และได้ผลตรวจผลออกมาแล้วว่าเป็นลบ คือไม่ติดเชื้อ จึงไม่ใช่ข้อมูลจริงว่ามีการกระจายของเชื้อเข้าสู่กทม.อย่างไรก็ตาม สถานที่มืดๆ อับๆ อากาศถ่ายเทไม่สะดวก มีการทำกิจกรรมร่วมกัน หรือต้องอยู่ใกล้ชิดกันมากๆ ถือว่ามีความเสี่ยงสูง หากไม่จำเป็นก็ขอให้งดเข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้
ส่วนเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์ G จะส่งผลต่อการผลิตวัคซีนหรือไม่ หรือจะทำให้เกิดการติดเชื้อเร็วทำให้เกิดความล่าช้านั้น โดยธรรมชาติของเชื้อไวรัสจะมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งจากข้อมูลพบว่าสายพันธุ์ปัจจุบันที่มีการระบาดทั่วโลกต่างกับสายพันธุ์ที่มีการระบาดครั้งแรกที่อู่ฮั่นในประเทศจีน ปัจจุบันเรียกว่าสายพันธุ์ G พบว่ามากกว่าร้อยละ 80 พบทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในระยะหลังที่พบผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศเกือบทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ G ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เมื่อเกิดการติดเชื้อในเซลล์มนุษย์จะสามารถสร้างไวรัสตัวลูกขึ้นมาแพร่ได้เร็วขึ้น แต่ความรุนแรงของโรคลดน้อยลงอัตราการเสียชีวิตทั่วโลกต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม ในการผลิตวัคซีนก็จะมีสายพันธ์ุ G รวมอยู่ด้วย และในการทดสอบในภาคสนามหรือการทดสอบในมนุษย์เฟส 3 ซึ่งทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อ และประสิทธิภาพในการป้องกันแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งความปลอดภัยก็จะเป็นการทดสอบในประเทศที่มีการติดเชื้อจากสายพันธุ์ G รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าพันธุ์ G ไม่ได้มีผลกระทบต่อการผลิตวัคซีนที่เรากำลังทำอยู่ในปัจจุบันประชาชนไม่ต้องกังวล
ส่วนกรณีมีการแชร์ข่าวว่ารพ.BNH มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อแล้ว 24 ราย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า จากการที่มีการตรวจค้นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ จะมีเพิ่มเติมเพียงแค่ 5 ราย รายแรกที่พบทำให้มีการค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและก็มีการตรวจไปแล้ว 851 คน พบเพียง 5 คน และรวมกับรายแรกด้วยก็เป็น 6 คนเท่านั้น ที่เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ ดังนั้นข่าวที่มี 24 ราย จึงไม่เป็นความจริง
สธ.เคลียร์ชัดเจน โควิดบาร์โฮสต์ระบาดกทม.-BNH ติดเชื้อ 24-วัคซีนไม่รองรับสายพันธุ์ G