สันนิบาตสหกรณ์ฯ เปิดประชุมใหญ่ฯ ยันเดินหน้าดูแลสหกรณ์ทั่วประเทศ “เราจะไม่ทิ้งสหกรณ์ใดไว้ข้างหลัง” พร้อมมอบมอบโล่เชิดชูบุคลากรผู้ทรงคุณค่า
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคลากรที่ทรงคุณค่าต่อกระบวนการสหกรณ์ โดยมีนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการ สสท. และผู้แทนสหกรณ์สมาชิกเข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการ สสท. กล่าวว่า คณะกรรมการ สสท. ชุดที่ 25 มุ่งมั่น พัฒนา สหกรณ์ทั่วประเทศ และช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องข้อกฎหมายกับสหกรณ์ที่มีปัญหา พร้อมผลักดัน แก้ไขกฎกระทรวงและเรื่องหนี้เผื่อสงสัยจะสูญให้สหกรณ์สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของสหกรณ์ทั่วประเทศ โดยจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา เราได้กระจายอำนาจไปสู่สันนิบาตสหกรณ์จังหวัด จัดกิจกรรมพบปะสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดเพื่อรับทราบปัญหาและสำรวจความต้องการของสหกรณ์สมาชิก โดยมีคณะกรรมการ ที่ปรึกษาสันนิบาตสหกรณ์ฯ เดินทางไปประชุมหารือและออกตรวจเยี่ยมสหกรณ์สมาชิก พร้อมการจัดตั้งสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดในรอบปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สสท. ยังได้ส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้แก่บุคลากรของสหกรณ์ในแต่ละจังหวัด ดำเนินการจัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรสหกรณ์ในหลักสูตรต่างๆกว่า 22 จังหวัด มีผู้เข้าอบรมสัมมนา รวมทั้งสิ้น 2,463 คน อาทิ หลักสูตรรู้เท่าทันบัญชีสหกรณ์ในยุค 5 G หลักสูตรผู้ตรวจสอบกิจการขั้นพื้นฐาน (หลักสูตร 1) หลักสูตรเพิ่มศักยภาพคณะกรรมการดำเนินการและฝ่ายจัดการ หลักสูตรตลาดออนไลน์ หลักสูตรกฎหมายที่ผู้บริหารสหกรณ์ควรรู้ หลักสูตรกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.สหกรณ์ฉบับใหม่ หลักสูตรกฎหมายสินเชื่อและกฎหมายติดตามหนี้
รวมทั้งให้การต้อนรับองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ ประเทศเนปาล เมียนมาร์ และประเทศญี่ปุ่น ที่เข้ามาศึกษาดูงานในสันนิบาตสหกรณ์ฯ มีการประสานความร่วมมือจัดฝึกอบรมร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ จำนวน 3 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร “Fostering Leaders for Management” หลักสูตรการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคตคนรุ่นใหม่ต่อไปที่ยั่งยืน ที่จัดโดย องค์กร ICA AP หลักสูตร “Fostering Leaders for Management and Development of Agricultural Cooperatives in Asia” โดยมีผู้เข้าอบรม เป็นผู้แทนสหกรณ์องค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ ประเทศภูฎาน กัมพูชา คีร์กิชสถาน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เนปาล และศรีลังกา
“ในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ เรายังได้เข้าร่วมประชุมหารือแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์โดยรวม ร่วมกับชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศและกรมส่งเสริมสหกรณ์ เกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ 2542 มาตรา 89/2 ได้แก่ การกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินการ คณะอนุกรรมการของ สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน การดำรงเงินกองทุน การจัดทำบัญชีและการเปิดเผยงบการเงิน การรายงานผล และการกำหนดอัตราเงินปันผล การรับฝากเงินและการลงทุน การก่อหนี้ การสร้างภาระหนี้ผูกผัน การกู้ยืมและการค้ำประกัน การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง รวมทั้งให้การช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่สหกรณ์ ในด้านอรรถคดีต่างๆที่เกี่ยวกับการบริหารงานสหกรณ์ กฎหมายแรงงานและอื่นๆ เป็นต้น โดยเราจะไม่ทิ้งสหกรณ์ใดสหกรณ์หนึ่งไว้ข้างหลัง”นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานฯ สสท. กล่าว
ทั้งนี้ การประชุมใหญ่ฯ ครั้งนี้ สสท. ได้มีการเชิดชูประกาศเกียรติคุณแก่บุคลากรที่ทรงคุณค่าต่อกระบวนการสหกรณ์ ซึ่งปีนี้ ได้กำหนดหลักเกณฑ์และคัดเลือกบุคลากรผู้ทรงคุณค่า โดยเน้นมิติด้านคุณค่าว่าเป็นผู้นำที่มีคุณค่าต่อการสหกรณ์สะท้อนอยู่ในตัวบุคคลที่สมควรเป็นแบบอย่าง และมีกระบวนทัศน์ ที่แสดงคุณสมบัติว่าเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มองการณ์ไกล และมีหลักการดำเนินงานมีผลงานเชิงประจักษ์ในการผลักดันที่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการสหกรณ์ โดยสามารถนำมาปฏิบัติ มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีความมุ่งมั่นในการผลักดันให้มีแนวปฏิบัติตามหลักการสหกรณ์เป็นแบบอย่างที่ดี
โดยปีนี้ สสท. ได้ทำการคัดเลือกผ่านขั้นตอนวิธีการดำเนินงานและคณะทำงานจนได้บุคลากรที่ทรงคุณค่าต่อกระบวนการสหกรณ์จำนวน 3 ท่าน เพื่อโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ 1.นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ 2.รองศาสตราจารย์จุฑาทิพย์ ภัทราวาท ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการด้านสหกรณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ3.นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ อดีตอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ซึ่งทั้ง 3 ท่าน มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้ง 4 มิติ คือ มีความ เป็นผู้นำที่มีคุณค่า มีกระบวนทัศน์ มีหลักการดำเนินงานและมีแนวปฏิบัติที่ดี สันนิบาตสหกรณ์ จึงได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อไป