“วัดเทพคันธาราม” หรือ “วัดท่าราบ” ตั้งอยู่ที่บ้านท่าราบ หมู่ 5 ตำบลโพธิ์เอน อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดจำนวน 53 ไร่ 94 ตารางวา ตามประวัติจัดสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2326 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โดยมีการบูรณะสิ่งปลูกสร้างภายในวัดสืบต่อกันมาจนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2341 บนพื้นที่ตั้งวัดซึ่งมีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมแม่น้ำแควป่าสัก มีอาคารเสนาสนะต่างๆ ประกอบด้วยอุโบสถกว้าง 17 เมตร ยาว 22 เมตร ศาลาการเปรียญกว้าง 14 เมตร ยาว 20 เมตร หอสวดมนต์ กว้าง 7 เมตร ยาว 10 เมตร มีกุฏิสงฆ์ 9 หลังเป็นอาคารไม้ ขณะที่ปูชนียวัตถุมีพระประธานปางมารวิชัยในอุโบสถ นามว่า “หลวงพ่อหลวง” สร้างด้วยศิลาแลง และ “ไอ้เขียว” จระเข้ปูนปั้นขนาดมหึมา นอนตระหง่านขวางอยู่ด้านหน้าวิหารติดริมแม่น้ำ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าจระเข้ตัวดังกล่าวเป็นเรือหรือยานพาหนะคู่บารมีของ หลวงพ่อหลวง พระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่มีการสร้างขึ้นนั่นเอง ตำนาน “ไอ้เขียว” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บารมี หลวงพ่อหลวง นั้นผู้เฒ่าผู้แก่ย่านนี้เล่าขานต่อกันมานานว่า มักจะมีผู้พบเห็นจระเข้ตัวใหญ่แหวกว่ายไปมาอยู่ในแม่น้ำแควป่าสัก วนเวียนอยู่หน้าวิหารหลวงพ่อหลวง ให้ชื่นชมบารมีอยู่เป็นประจำโดยเฉพาะช่วงวันเพ็ญเดือนสิบสองในคืนเทศกาลลอยกระทงของทุกๆ ปี ที่สำคัญจระเข้ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ไม่เคยจู่โจมทำร้ายใคร แต่ถ้าหากมีขี้เมาคนไหนปากพล่อยพูดจาลบหลู่ หรือมีชาวบ้านรายใดประพฤติตัวไม่เหมาะสมภายในอาณาบริเวณวัด รับรองไม่นานมันเหล่านั้นจะต้องโดนดีเข้าจนได้ หลายรายเกิดเสียสติมีอาการคล้ายถูกมนต์ดำบันดาลให้ทำกิริยาท่าทางไม่ต่างกับจระเข้ในอิริยาบทเลื้อยคลาน ล้มลงเกือกกลิ้งตัวจากบนบกลงไปสู่ผืนน้ำ ร้อนถึงพระสงฆ์องค์เจ้าอาวาสและญาติโยมต้องทำพิธีจุดธูปอธิษฐานถวายเครื่องเซ่นเป็นมะกอกหรือไข่ต้ม เพื่อยื้อชีวิตเรียกคืนสติไอ้พวกอยากลองของเหล่านั้นให้กลับมาอยู่ร่ำไป สำหรับรายนามพระสงฆ์ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพคันธาราม ตามประวัติตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีทั้งสิ้น 14 รูป ประกอบด้วย 1.พระอธิการขำ 2.พระอธิการเปี่ยม 3.พระอธิการใย 4.พระอธิการบุญมี 5.พระอธิการแดง 6.พระอธิการดำ 7.พระอธิการเฉย 8.พระครูใบฎีกาโพธิ์ 9.พระอธิการภู่ 10.พระอธิการไว 11.พระอธิการตี๋ กวิวงฺโส 12.พระอธิการชอุ่ม ปุญญกาโม 13.พระอธิการเสนาะ และเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ “พระอาจารย์ณรงค์ชัย ชิตวงฺโส” หรือที่ชาวบ้านคุ้นเคยเรียกกันว่า “พระอาจารย์พนม ชิตวงฺโสภิกขุ” จากอดีตจนล่วงเลยมาสู่เพลานี้“วัดเทพคันธาราม” หรือ “วัดท่าราบ” ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านริมแม่น้ำแควป่าสัก มานานกว่า 234 ปีแล้ว ดังนั้นทั้งอาคารเสนาสนะ และปูชนียวัตถุต่างๆ ย่อมชำรุดทรุดโทรมไปตามวิถีแห่งกาลเวลา แม้บางส่วนจะเคยผ่านการพัฒนา การซ่อมแซม มาบ้างตามอัตภาพ ทว่าความเสียหายจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2554 ยังทำให้สภาพอารามแห่งนี้คงอยู่ในสถานะรอการบูรณะปฏิสังขรณ์ รอการแปลงโฉมทั้งอาคารเสนาสนะและปูชนียวัตถุให้กลับมาสมบูรณ์งดงามตามแบบอย่างที่ควรจะเป็น จากการสำรวจสภาพโดยรอบของวัดเวลานี้สิ่งที่ต้องการได้รับการบูรณะมากที่สุดอันดับแรกเห็นจะเป็นกุฏิสงฆ์ และหอสวดมนต์ที่มีน้ำรั่วเวลาฝนตก ยังมีบริเวณพระอุโบสถโดยเฉพาะประตูโบสถ์ที่ได้รับความเสียหายเพราะปลวกกินหลังเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้มีสัตว์ต่างๆ นานาสามารถเล็ดลอดเข้าไปได้ นอกจากนั้นทราบว่าทางวัดยังรับอุปการะนักเรียนทั้งระดับอนุบาลและประถมศึกษาของโรงเรียนวัดเทพคันธาราม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ด้วยการจัดหาข้าวสารเดือนละ 2 กระสอบ สงเคราะห์แก่เด็กๆ และจัดหาทุนการศึกษาให้เด็กยากไร้ในวันสำคัญต่างๆ อาทิ วันไหว้ครูของทุกปี ทำให้ยังขาดแคลนปัจจัยเพื่อนำมาใช้เป็นทุนทรัพย์ในการพัฒนาและการสาธารณกุศลมากอยู่พอสมควร พระอาจารย์ณรงค์ชัย หรือพระอาจารย์พนม ชิตวงฺโส เจ้าอาวาสวัดเทพคันธาราม รูปปัจจุบันซึ่งเป็นหนึ่งในลูกศิษย์เอกสายพุทธาคมของ พระครูประยุตนวการ ฐานยุตโต หรือ หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม และ พระอธิการเกษม เขมจาโร หรือ หลวงพ่ออั๊บ วัดท้องไทร สองเกจิชื่อดังประจำจังหวัดนครปฐม จึงถือโอกาสเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานพิธีไหว้ครูประจำปี 2560 ซึ่งจะจัดขึ้นเต็มรูปแบบในวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณครูบาอาจารย์ ครอบเศียรครูให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา และนำรายได้จากการเช่าบูชาวัตถุมงคลไปช่วยบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถานภายในวัดเทพคันธาราม ตลอดจนนำมาเป็นทุนการศึกษาและจัดหาข้าวสารให้เด็กนักเรียนผู้ยากไร้ สำหรับวัตถุมงคลไฮไลต์ที่ผ่านการประจุอาคมอย่างเข้มขลังนอกจากแหวนหน้าพระพุทธหลวงพ่อหลวง รูปหล่อพระพิราพ มหาเทพบรมครู รูปหล่อ หนุมานชนะศึก และ รูปหล่อบรมครู ปู่เสือ แล้ว ยังมีพระเครื่อง เครื่องราง ของขลัง ตามตำรับสำนัก วัดสามง่ามและวัดท้องไทร ให้เช่าบูชาไปเป็นมงคลแก่ชีวิตอีกมากมาย อาทิ พระขุนแผนว่านมงคล พระสีสะแลงแงง แม่นางพิม ตะกรุดเมตตา ตะกรุดกันมนต์ดำ ตะกรุดจักรแก้ว ตะกรุดสะท้อน เบี้ยกัน ตุ๊กตาทอง มีดกัดกรด ฯลฯ งานรำลึกพระคุณครูพร้อมร่วมบุญใหญ่แบบนี้มีแค่ปีละหน ของดีที่วัดเทพคันธาราม ไม่ต้องสาธยายสรรพคุณให้มาก เอาเป็นว่าที่ผ่านมาเซียนพระต่างชาติ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย จีน และไต้หวัน มาเหมาขึ้นเครื่องกลับประเทศไปช่วยเผยแผ่ความขลังกันหลายต่อหลายรุ่นแล้ว ท่านใดสนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊กชื่อ “วัดเทพคันธาราม(ท่าราบ) ต.โพธิ์เอน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา” อย่าปล่อยให้ของดีของไทยไปอยู่แต่ในมือคนต่างชาติ อยากบอกว่างานนี้ถ้าพลาดแล้วจะเสียใจ...