ชาวบ้านดอนสว่าง อ.ด่านมะขามเตี้ย เมืองกาญจน์ บุกอำเภอ ทวงถามความถูกต้อง นายทุนรุกที่สาธารณะประโยชน์ เกือบ7 พันไร่ นำไปออกเอกสารสิทธิ์ครอบครองผืนป่าซึ่งเป็นของที่ดินสาธารณะ เคยร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม อบต.และอำเภอ ตั้งแต่ ปี 61 เรื่องเงียบหาย บอกให้ร้องเพลงรอ กำลังดำเนินการอยู่ สุดท้ายทนไม่ไหวอดีตนายทหารบำนาญ ยศร้อยตรีพร้อมชาวบ้านบุกอำเภอทวงถามความชัดเจนและถูกต้อง กรณีกลุ่มนายทุนรุกที่ แถมออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินสาธารณะแห่งชาติกว่า 6 พันไร่ ทำให้กลุ่มชาวบ้านหลายหมู่บ้านที่ใช้พื้นที่สาธารณะเลี้ยงสัตว์ต้องได้รับความเดือดร้อน ร้องเรียน ทวงถามหน่วยงานรัฐเป็นเวลา 3 ปี กลับให้ร้องเพลงรอ คำตอบคือกำลังดำเนินการอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 7 ธ.ค.63 ที่บริเวณหน้าที่ทำการอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี รต.สำราญ วงษ์น้อย อดีตนายทหารข้าราชการบำนาญสังกัดพล ร.9 พร้อมด้วยนายโกวิท ชนะวงษ์ อายุ 62 ปีร่วมกับชาวบ้านผู้สูงอายุ จำนวนกว่า 50-60 คน บ้านดอนสว่าง หมู่ 8 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ได้เดินทางนำหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงและแผนที่เพื่อยืนยันเหตุผลของชาวบ้านหมู่ 8 ที่เดินทางมาครั้งนี้
ไปยืนรวมตัวกันที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอด่านมะขามเตี้ยฯ เพื่อฝากทวงถามหน่วยงานรัฐ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย ในเรื่องกรณีที่มีกลุ่มนายทุนบุกรุกครอบครองที่ดินสาธารณะแห่งชาติ จำนวน 6,982 ไร่เศษ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะที่ ชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะชาวบ้าน หมู่ที่ 8 บ้านดอนสว่างใช้เป็นสถานที่เก็บหาของป่า เลี้ยงวัว และเตรียมที่จะทำฝายกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง แต่กลับพบว่ามีกลุ่มนายทุนได้เข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่าเพาะปลูกมันสำปะหลัง ไร่ยูคาลิปตัส กว่า 2 พันไร่แบ่งออกจำนวนหลายแปลง แถมนำไปออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบด้วย กฎหมายอีกด้วย
ซึ่งในเวลาต่อมานางสาวเพ็ญศรี กลั่นบุศย์ นายอำเภอด่านมะขามเตี้ยฯ ได้มอบหมายให้นายสุรพล จันทร์สุนทรพจน์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ยฯ เดินทางมาพบกลุ่มชาวบ้านเพื่อขอให้ส่งตัวแทนชาวบ้านจำนวน 20 คนเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
โดยทางนายอำเภอด่านมะขามเตี้ยฯ รับปากว่าจะรีบตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลกลอนโด ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เพื่อดำเนินการเพิกถอนสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินสาธารณะต่อไป ทำให้กลุ่มตัวแทนชาวบ้านพอใจเดินทางกลับไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น.กลุ่มตัวแทนชาวบ้านจำนวน 10 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านผู้สูงอายุและเป็นคนพื้นที่ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดอนสว่าง ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย มานานหลาย10 ปี ตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ ย่า ตายาย ได้พาผู้สื่อข่าวไปชี้ป้าย
และที่ดินสาธารณะที่ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกแผ้วถางป่าจำนวนเกือบ 7 พันไร่ ที่ถูกนำไปออกเอกสารสิทธิ์ พบว่าพื้นที่บางแปลงมีการปลูกมันสำปะหลัง บางแปลงปลูกต้นยูคาฯ บางแปลงมีการออกเอกสารสิทธิ์ขายให้กับกลุ่มนายทุนที่เตรียมสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ โดยเส้นทางถนนตลอดทั้งสายเป็นถนนคอนกรีตอย่างดี
ด้าน รต.สำราญ วงษ์น้อย อดีตนายทหารบำนาญ แกนนำกลุ่มชาวบ้านกล่าวว่า "ภายหลังที่ได้เข้าเจรจากับทางนายอำเภอ ซึ่งท่านก็รับปากว่าจะกระตุ้น และติดตามเรื่องนี้ไปทาง อบต.ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ให้ไม่ได้นิ่งดูดายอย่างที่ผ่านมา เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 61เพื่อเรียกร้องความถูกต้องให้ที่ดินสาธารณะประโยชน์กลับมาเป็นของส่วนรวมของชาวบ้าน ของหมู่บ้าน ไม่ใช่เป็นของคนเพียงไม่กี่คน ครั้งสุดท้ายตรวจสอบพบว่า ที่ดินเกือบ 7 พันไร่หายไป โดยมีการครอบครองกว่า 2 พันไร่ โดยมีการออกเอกสารสิทธิ์ ที่ดินแปลงนี้เป็นที่หลวง ที่ นสล. นำไปออกเอกสารสิทธิ์ไม่ได้ เราจึงต้องการให้นำกลับมาเป็นของแผ่นดิน"
ด้านนายโกวิท ชนะวงศ์ 1 ในแกนนำชาวบ้านกล่าวว่า" ผมติดตามทวงถามเรื่องนี้มานานกว่า 2 ปี ตั้งแต่ปี 61 เคยไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ก็แล้ว ที่ อบต.กลอนโด ก็แแล้ว ที่อำเภอฯ ก็แล้ว โยนกันไปโยนกันมา บอกให้รอกำลังดำเนินการอยู่ นี่เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วยังหาข้อยุติไม่ได้ เรื่องก็เงียบหาย เรามีหนังสือสำคัญที่ดินซึ่งออกโดยกรมที่ดิน เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2514
กลุ่มชาวบ้านเขาอยากถามว่า ที่ดินสาธารณะประโยชน์ซึ่งเป็นของหลวง ทำไมหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน บางคน ปล่อยให้กลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกครอบครองที่สาธารณะทำประโยชน์ส่วนตัว แถมมีการออกเอกสารสิทธิ์ได้
ทุกวันนี้ทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนไม่มีที่เลี้ยงวัว เข้าไปหาของป่าก็ไม่ได้ เพราะพื้นที่ป่าธรรมชาติถูกแผ้วถางทำลายไปหมดแล้ว ชาวบ้านนำฝูงวัวไปเลี้ยงก็ห้ามเข้าเป็นเขตหวงห้าม ตอนนี้ทราบข่าวว่า มีการแผ้วถากป่า ออกเอกสารสิทธิ์นำที่ดินไปขายให้กลุ่มนายทุน ชาวบ้านเขาเตรียมทำโครงการสร้างฝาย หรืออ่างเก็บน้ำไว้ใช้ เวลาฝนตกลงมา น้ำไหลลงมาจากภูเขา เราก็สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ แต่ทุกวันนี้ก็ทำไม่่ได้ นายโกวิท 1 ในแกนนำชาวบ้าน กล่าวในตอนท้าย
มีรายงานข่าวว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มีการใช้วิชามาร เล่นแร่แปรธาตุ นำที่ดินสาธารณะประโยชน์ของรัฐ มาออกเอกสารสิทธิ์ขายให้กับกลุ่มนายทุน เป็นจำนวนมาก ไม่ใช่แต่ที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย อำเภอเดียว ยังมีพื้นที่ในอีกหลายอำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 7 ธ.ค.63 ที่บริเวณหน้าที่ทำการอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี รต.สำราญ วงษ์น้อย อดีตนายทหารข้าราชการบำนาญสังกัดพล ร.9 พร้อมด้วยนายโกวิท ชนะวงษ์ อายุ 62 ปีร่วมกับชาวบ้านผู้สูงอายุ จำนวนกว่า 50-60 คน บ้านดอนสว่าง หมู่ 8 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ได้เดินทางนำหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงและแผนที่เพื่อยืนยันเหตุผลของชาวบ้านหมู่ 8 ที่เดินทางมาครั้งนี้
ไปยืนรวมตัวกันที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอด่านมะขามเตี้ยฯ เพื่อฝากทวงถามหน่วยงานรัฐ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย ในเรื่องกรณีที่มีกลุ่มนายทุนบุกรุกครอบครองที่ดินสาธารณะแห่งชาติ จำนวน 6,982 ไร่เศษ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะที่ ชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะชาวบ้าน หมู่ที่ 8 บ้านดอนสว่างใช้เป็นสถานที่เก็บหาของป่า เลี้ยงวัว และเตรียมที่จะทำฝายกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง แต่กลับพบว่ามีกลุ่มนายทุนได้เข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่าเพาะปลูกมันสำปะหลัง ไร่ยูคาลิปตัส กว่า 2 พันไร่แบ่งออกจำนวนหลายแปลง แถมนำไปออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบด้วย กฎหมายอีกด้วย
ซึ่งในเวลาต่อมานางสาวเพ็ญศรี กลั่นบุศย์ นายอำเภอด่านมะขามเตี้ยฯ ได้มอบหมายให้นายสุรพล จันทร์สุนทรพจน์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ยฯ เดินทางมาพบกลุ่มชาวบ้านเพื่อขอให้ส่งตัวแทนชาวบ้านจำนวน 20 คนเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
โดยทางนายอำเภอด่านมะขามเตี้ยฯ รับปากว่าจะรีบตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลกลอนโด ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เพื่อดำเนินการเพิกถอนสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินสาธารณะต่อไป ทำให้กลุ่มตัวแทนชาวบ้านพอใจเดินทางกลับไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น.กลุ่มตัวแทนชาวบ้านจำนวน 10 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านผู้สูงอายุและเป็นคนพื้นที่ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดอนสว่าง ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย มานานหลาย10 ปี ตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ ย่า ตายาย ได้พาผู้สื่อข่าวไปชี้ป้าย
และที่ดินสาธารณะที่ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกแผ้วถางป่าจำนวนเกือบ 7 พันไร่ ที่ถูกนำไปออกเอกสารสิทธิ์ พบว่าพื้นที่บางแปลงมีการปลูกมันสำปะหลัง บางแปลงปลูกต้นยูคาฯ บางแปลงมีการออกเอกสารสิทธิ์ขายให้กับกลุ่มนายทุนที่เตรียมสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ โดยเส้นทางถนนตลอดทั้งสายเป็นถนนคอนกรีตอย่างดี
ด้าน รต.สำราญ วงษ์น้อย อดีตนายทหารบำนาญ แกนนำกลุ่มชาวบ้านกล่าวว่า "ภายหลังที่ได้เข้าเจรจากับทางนายอำเภอ ซึ่งท่านก็รับปากว่าจะกระตุ้น และติดตามเรื่องนี้ไปทาง อบต.ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ให้ไม่ได้นิ่งดูดายอย่างที่ผ่านมา เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 61เพื่อเรียกร้องความถูกต้องให้ที่ดินสาธารณะประโยชน์กลับมาเป็นของส่วนรวมของชาวบ้าน ของหมู่บ้าน ไม่ใช่เป็นของคนเพียงไม่กี่คน ครั้งสุดท้ายตรวจสอบพบว่า ที่ดินเกือบ 7 พันไร่หายไป โดยมีการครอบครองกว่า 2 พันไร่ โดยมีการออกเอกสารสิทธิ์ ที่ดินแปลงนี้เป็นที่หลวง ที่ นสล. นำไปออกเอกสารสิทธิ์ไม่ได้ เราจึงต้องการให้นำกลับมาเป็นของแผ่นดิน"
ด้านนายโกวิท ชนะวงศ์ 1 ในแกนนำชาวบ้านกล่าวว่า" ผมติดตามทวงถามเรื่องนี้มานานกว่า 2 ปี ตั้งแต่ปี 61 เคยไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ก็แล้ว ที่ อบต.กลอนโด ก็แแล้ว ที่อำเภอฯ ก็แล้ว โยนกันไปโยนกันมา บอกให้รอกำลังดำเนินการอยู่ นี่เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วยังหาข้อยุติไม่ได้ เรื่องก็เงียบหาย เรามีหนังสือสำคัญที่ดินซึ่งออกโดยกรมที่ดิน เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2514
กลุ่มชาวบ้านเขาอยากถามว่า ที่ดินสาธารณะประโยชน์ซึ่งเป็นของหลวง ทำไมหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน บางคน ปล่อยให้กลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกครอบครองที่สาธารณะทำประโยชน์ส่วนตัว แถมมีการออกเอกสารสิทธิ์ได้
ทุกวันนี้ทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนไม่มีที่เลี้ยงวัว เข้าไปหาของป่าก็ไม่ได้ เพราะพื้นที่ป่าธรรมชาติถูกแผ้วถางทำลายไปหมดแล้ว ชาวบ้านนำฝูงวัวไปเลี้ยงก็ห้ามเข้าเป็นเขตหวงห้าม ตอนนี้ทราบข่าวว่า มีการแผ้วถากป่า ออกเอกสารสิทธิ์นำที่ดินไปขายให้กลุ่มนายทุน ชาวบ้านเขาเตรียมทำโครงการสร้างฝาย หรืออ่างเก็บน้ำไว้ใช้ เวลาฝนตกลงมา น้ำไหลลงมาจากภูเขา เราก็สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ แต่ทุกวันนี้ก็ทำไม่่ได้ นายโกวิท 1 ในแกนนำชาวบ้าน กล่าวในตอนท้าย
มีรายงานข่าวว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มีการใช้วิชามาร เล่นแร่แปรธาตุ นำที่ดินสาธารณะประโยชน์ของรัฐ มาออกเอกสารสิทธิ์ขายให้กับกลุ่มนายทุน เป็นจำนวนมาก ไม่ใช่แต่ที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย อำเภอเดียว ยังมีพื้นที่ในอีกหลายอำเภอ