เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ธ.ค.2563 ที่โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเต็ล จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ปีนี้เดิมจังหวัดได้ประมาณการสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและใช้จ่ายด้านต่างๆในพื้นที่รวมประมาณ 6,000,000 คน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบในด้านต่างๆ ทำให้ขณะนี้ขอนแก่นมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ที่ประมาณ 2,000,000 คนและด้วยการกำหนดจัดกิจกรรมต่างๆทั้งการประชุมสัมมนา,การจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดประจำปี 2563 รวมไปถึงการกำหนดจัดกิจกรรมในด้านต่างๆจะส่งผลให้ขอนแก่นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ในปีนี้ที่ประมาณ 2,800,000 คน ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างเข้มงวด ดังนั้นแผนงานที่ชัดเจนคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่รัฐ และเอกชน รวมทั้งหน่วยงานต่างๆที่เราจะมาวางแผนร่วมกันนำของดี ของเด่น ในพื้นที่มาเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดความสนใจและความไว้ใจให้นักท่องเที่ยวไทยนั้นเดินทางเข้ามาในจังหวัดของเรานั้นให้มากที่สุด
“ของดี ของเด่น ของจังหวัดเรานั้นมีอยู่อย่างมาก คู่ขนานกับการเป็นเมืองแห่งการประชุมสัมมนา ทำให้สิ่งแรกที่ทุกหน่วยงานนั้นได้นึกถึงคือการใช้ขอนแก่นเป็นสถานที่จัดการประชุมและสัมมนา ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ รวมทั้งระดับนานาชาติผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวันนี้ทุกภาคส่วนเราจะเดินหน้าไปด้วยกัน เราจะสู้ในทุกวิถีทางเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคส่วนต่างๆหากสถานการณ์คิด-19 นั้นได้คลี่คลายลงจึงมีการกำหนดแผนรับมือและเตรียมการหากสถานการณ์ทุกอย่างลงตัวและคลี่คลายลง โดยเฉพาะกับการที่จังหวดเป็นศูนย์กลางการบริการทางการแพทย์ ที่มีบุคลากรทางการแพทย์เป็นอันที่ 2 ของประเทศ มีศักยภาพในการรองรับการบริการทางการแพทย์และด้านสุขภาพได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์แบบที่สุด จึงเป็นสิ่งที่จังหวัดจะนำมาเป็นเส้นทางหรือแพจเกจทัวร์สุขภาพที่ดีที่สุดในราคาย่อมเยาว์ด้วยมาตรฐานสากลที่อยากให้มาสัมผัส ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้มีการหารือกันแล้วและเตรียมที่จะดำเนินการแต่มาประสบกับสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้ทุกอย่างนั้นชะงักลง”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า เมื่อน่านฟ้าเปิด สถานการณ์ต่างไกลับเข้าสู่สภาวะปกติการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในการให้บริการทางการแพทย์ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ขณะนี้ได้ประสานงานมาเพื่อขอรับบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีการเปิดพรมแดน ชาว สปป.ลาว จำนวนมากก็จะเดินทางมาใช้บริการทางการแพทย์กับโรงพยาบาลของเราที่มีอยู่เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกันกับเวียดนามและสิงคโปร์ ดังนั้นแผนการเปิดเที่ยวบินตรง ระหว่างขอนแก่น-เวียตนาม และ ขอนแก่น-สิงคโปร์ จึงจะถูกนำมากำหนดในแผนงานหลักของเราเป็นทันที
ขณะเดียวกันการกำหนดจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ในทุกไตรมาส คู่ขนานกับการจัดกิจกรรมขนาดกลางและงานอีเว้นท์ งานประชุมสัมมนาต่างๆในทุกเดือนจะเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมรายได้และกระตุ้นภาพรวมทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดตลอดตั้งแต่เดือนสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปีหน้า รวมทั้งการเตรียมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมและท้องเที่ยวระดับโลกในปี 2565 ซึ่งขณะนี้คณะทำงานได้เริ่มเตรียมแผนงานดังกล่าวเพื่อแข่งขันกันกับอีกหลายประเทศอีกด้วย


