เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.นรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายพยุงศักดิ์หรือชัย กันตรง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 1 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาคดีผลิตและจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อน พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้นดัดแปลงรีวอลเวอร์ ขนาด.38 ไม่มีหมายเลขทะเบียนปืน จำนวน 3 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นดัดแปลงรีวอลเวอร์ ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 179 นัด โม่บรรจุกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 30 โม่ เข็มแทงชนวนจำนวน 30 อัน ลำกล้องจำนวน 40 ลำกล้อง โครงปืนจำนวน 1 โครง นกสับจำนวน 2 อัน ไกปืนจำนวน 1 อัน และอุปกรณ์อื่นๆอีกหลายรายการ
พล.ต.ต.อุทัย กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี ได้ทำการสืบสวนทราบว่านายพยุงศักดิ์เคยถูกจับกุมในคดีครอบครองอาวุธปืนและได้มาหลบซ่อนและดัดแปลงอาวุธปืนอยู่ในพื้นที่ ต.ไร่โคก อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี โดยการนำอาวุธปืน บีบีกัน ซึ่งใช้ยิงด้วยแก๊สมาดัดแปลงเป็นอาวุธให้สามารถบรรจุกระสุนปืนจริงได้ และนายพยุงศักดิ์จะนำอาวุธปืนบรรจุใส่กล่องส่งขายให้แก่ลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมานายพยุงศักดิ์ได้จัดส่งอาวุธปืนที่ดัดแปลงแล้วให้แก่ลูกค้าจำนวยหลายกระบอก เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนทราบว่านายพยุงศักดิ์จะใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 ฒจ 1990 กรุงเทพฯ นำอาวุธปืนไปจัดส่งให้กับลูกค้าในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามจนพบว่านายพยุงศักดิ์ได้ขับรถคันดังกล่าวมาถึงบริเวณริมถนนหน้าโรงเรียนบ้านลาดวิทยา หมู่ 7 ต.บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี จึงได้แสดงตัวเข้าขอตรวจค้นจับกุม
ตรวจสอบภายในรถพบกล่องพัสดุจำนวน 3 กล่อง วางอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ ตรวจสอบภายในกล่องพบอาวุธปืนที่ดัดแปลงแล้วใช้กับกระสุนจริงขนาด .38 และ ขนาด .32 จำนวน 4 กระบอก จากนั้นขยายผลไปตรวจค้นที่โรงเรือนไม่มีเลขที่ หมู่ 6 ต.ไร่โคก อ.บ้านลาด พบอุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการดัดแปลงอาวุธปืนขนาดต่างๆอีกหลายรายการ
สอบสวนนายพยุงศักดิ์รับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ดัดแปลงอาวุธปืนบีบีกันใช้กับกระสุนจริงได้ โดยได้สั่งซื้อเครื่องกระสุน โม่บรรจุกระสุน เข็มแทง ลำกล้องปืนและอุปกรณ์อื่นๆมาจากทางออนไลน์ หลังจากประกอบอาวุธปืนเสร็จจะทดสอบยิงก่อนจะส่งให้กับลูกค้าในราคา 3,800 บาท ทำมาแล้วประมาณ 4 เดือน ก่อนมาถูกจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนหรือสมควรแก่พฤติการณ์ ทำ ประกอบ ซ่อมปซม เปลี่ยนลักษณะ นำเข้า หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยมิไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.อุทัย กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี ได้ทำการสืบสวนทราบว่านายพยุงศักดิ์เคยถูกจับกุมในคดีครอบครองอาวุธปืนและได้มาหลบซ่อนและดัดแปลงอาวุธปืนอยู่ในพื้นที่ ต.ไร่โคก อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี โดยการนำอาวุธปืน บีบีกัน ซึ่งใช้ยิงด้วยแก๊สมาดัดแปลงเป็นอาวุธให้สามารถบรรจุกระสุนปืนจริงได้ และนายพยุงศักดิ์จะนำอาวุธปืนบรรจุใส่กล่องส่งขายให้แก่ลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมานายพยุงศักดิ์ได้จัดส่งอาวุธปืนที่ดัดแปลงแล้วให้แก่ลูกค้าจำนวยหลายกระบอก เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนทราบว่านายพยุงศักดิ์จะใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 ฒจ 1990 กรุงเทพฯ นำอาวุธปืนไปจัดส่งให้กับลูกค้าในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามจนพบว่านายพยุงศักดิ์ได้ขับรถคันดังกล่าวมาถึงบริเวณริมถนนหน้าโรงเรียนบ้านลาดวิทยา หมู่ 7 ต.บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี จึงได้แสดงตัวเข้าขอตรวจค้นจับกุม
ตรวจสอบภายในรถพบกล่องพัสดุจำนวน 3 กล่อง วางอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ ตรวจสอบภายในกล่องพบอาวุธปืนที่ดัดแปลงแล้วใช้กับกระสุนจริงขนาด .38 และ ขนาด .32 จำนวน 4 กระบอก จากนั้นขยายผลไปตรวจค้นที่โรงเรือนไม่มีเลขที่ หมู่ 6 ต.ไร่โคก อ.บ้านลาด พบอุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการดัดแปลงอาวุธปืนขนาดต่างๆอีกหลายรายการ
สอบสวนนายพยุงศักดิ์รับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ดัดแปลงอาวุธปืนบีบีกันใช้กับกระสุนจริงได้ โดยได้สั่งซื้อเครื่องกระสุน โม่บรรจุกระสุน เข็มแทง ลำกล้องปืนและอุปกรณ์อื่นๆมาจากทางออนไลน์ หลังจากประกอบอาวุธปืนเสร็จจะทดสอบยิงก่อนจะส่งให้กับลูกค้าในราคา 3,800 บาท ทำมาแล้วประมาณ 4 เดือน ก่อนมาถูกจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนหรือสมควรแก่พฤติการณ์ ทำ ประกอบ ซ่อมปซม เปลี่ยนลักษณะ นำเข้า หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยมิไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป