เมื่อเวลา​ 19.00 น.วันที่​ 28​ พ.ย.63​​ ที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์มูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​ประจำจังหวัดกาญจนบุรี​ พ.ต.อ.กฤติชัย​ ท​องอยู่ รอง​ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี​ ได้เป็นประธานกล่าวให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​จุดรอรับเหตุต่างๆ​ จำนวนกว่า​ 200​ คนใน​ 77 จุดรอรับเหตุ​ พร้อมยานพาหนะรถพยาบาล​ รถกู้ชีพ-กู้ภัย​ รถเคลื่อนที่​เร็ว​ รถอุปกรณ์ตัดถ่าง​ และรถอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง​ จำนวน​ 200​ คัน​ ใน​ 4​ อำเภอ​ ไม่ว่าจะเป็น​อำเภอท่ามะกา​ อำเภอท่าม่วง​ อำเภอพนมทวน​ และอำเภอห้วยกระเจา โดยมีนายชัยยุทธ​ วัฒโน​ กรรมการฝ่ายประสานงานของมูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟฺฯ​ นายอดิศักดิ์​ รุงโรจน์​ธนกุล ประธานบริหารกู้ชีพ-กู้ภัยมูลนิธิขุนรัตนาวุธ​ และนายกฤษฎ์​ มาศวงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการเขต​ 1. อ.ท่าม่วงฯ​ นายเจริญ​ ปานนิล​ ผู้อำนวยการเขต​ 3​อ.ท่ามะกาฯ และนายจารุวัฒน์ คล้ายสินธุ์ ผู้อำรวยการเขต​ 1​ ห้วยกระเจาฯ การปล่อยแถวเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครรอรับเหตุครั้งนี้​ เพื่อปฎิบัติหน้าที่ดูแลช่วยเหลือประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดประจำปี​ 2563​ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่​ 27​ พฤศจิกายน 2563​ื​ -​วันที่​ 6​ ธันวาคม​ 2563​ รวมไปถึงงานเทศกาลวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ประจำปี​ 2564​ อีกด้วย ซึ่งภาระกิจการปล่อยแถวจุดรอรับเหตุของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของมูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ก็คือ​เพื่อเป็นจัดเตรียมความพร้อมในยามค่ำคืนช่วงงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกำชาดของจังหวัดกาฯจนบุรี สืบเนื่องจากในที่ประชุมเมื่อวันที่​ 22​ ตุลาคมทึ่ผ่านมา​ นายจีระเกียรติ​ ภูมิสวัสดิ์​ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี​ พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและประชุมกับคณะกรรมการฝ่ายผู้บริหารของมูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​เพื่อขอความร่วมมือเกี่ยวกับการจัดกำลังพลเจ้าหน้าและอาสาสมัครของมูลนิธิฯ​ ตามจุดรอรับเหตุต่างๆ​ ให้ช่วยกำกับดูแลความปลอดภัยของประชาชนและนักท่อวเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี​ รวมทั้งงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาด ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวใช้รถใช้ถนนเดินทางมาเป็นจำนวนมากจึงได้กำหนดการวางแผนให้มีการเตรียมความพร้อมในพื้นที่แต่ละเขตรับผิดชอบ​ 4​ อำเภอ​ รวมทั้งสิ้น​ 77​ จุดรอรับเหตุ​ในพื้นที่รับผิดชอบตามที่เคยปฎิบัติมาเป็นประจำทุกปี​โดยทางมูลนิธิจะจัดส่งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกว่า​ 200​​ นาย​ พร้อมรถพยาบาล​ รถสนับสนุน​ รวมทั้งรถเคลื่อนที่เร็ว​จำนวนกว่า​ 200​ คัน​หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันตลอด​ 24​ ชม.ออกปฎิบัติหน้าที่ในการเตรียมพร้อมการออกปฎิบัติงานยังจุดรอรับเหตุต่างๆ​ ทันที