ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสูงสุดร่วมกับเครือข่ายความร่วมมือทางกฎหมายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAJust) สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) จัดกิจกรรมฉลองรำลึกครบรอบ 20 ปีของอนุสัญญาสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร (UNTOC) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาพหุภาคีหลักที่นานาชาติใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดกิจกรรม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและเสริมสร้างความสัมพันธ์ ความร่วมมือในการปฏิบัติงานร่วมกันในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้ เนื่องจากสำนักงานอัยการสูงสุดมีบทบาทหลักเป็นผู้ประสานงานกลางในกระบวนการยุติธรรมด้านความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา และเมื่อปี พ.ศ. 2543 อัยการสูงสุดขณะนั้นได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนประเทศไทยไปลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร และในปีนี้ เป็นปีครบรอบ 20 ปี ของอนุสัญญาฯ ดังกล่าว ซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่กำหนดมาตรฐานสำหรับประเทศภาคีสมาชิกด้านความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญาและการดำเนินการเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทำโดยองค์กรอาชญากรรม
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีการประกอบอาชญากรรมร้ายแรงหลายรูปแบบ ทั้งการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ การฟอกเงิน และอาชญากรรมรูปแบบใหม่ เช่น อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ การกระทำผิดเกี่ยวกับเงินดิจิตอล เป็นต้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมของประเทศต่างๆ จะต้องร่วมมือกันในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยการนำตัวอาชญากรข้ามชาติและทรัพย์สินของอาชญากรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อันเป็นการสร้างความสงบให้แก่สังคม ส่งเสริมเสถียรภาพ ความมั่นคงและสิทธิมนุษยชนในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การดำเนินกิจกรรมทางวิชาการ (Conference Session) โดยมีการเสวนาหัวข้อ "ความร่วมมือระหว่างประเทศทางกฎหมายเพื่อต่อต้านองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" โดยมี นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล และ Ms. Kaori Matsumoto ผู้ประสานงานเครือข่ายความร่วมมือทางกฎหมายในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ (SEAJust) เป็นวิทยากรร่วม และการบรรยายพิเศษหัวข้อ "การรำลึกครบรอบ 20 ปี อนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร" โดย Ms. Karen Kramer และ Mr. Luis Francisco De Jorge Meas ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการก่ออาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ กรุงเวียนนา บรรยายผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) โดยมีผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างๆประจำประทศไทย ผู้แทนสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นานาประเทศกว่า 100 คน เข้าร่วมการเสวนา ระหว่างเวลา 14.00 – 16.00 น. ณ ห้องประชุม 120 ปี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถรับชมกิจกรรมทางวิชาการ ได้ทาง www.ago.go.th และทาง www.youtube.com/watch?v=bh-L3vx3NSE หรือ สแกน QR Code ที่ปรากฏด้านท้าย
นอกจากการจัดกิจกรรมทางวิชาการแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ (Social Networking) ระหว่างพนักงานอัยการไทยกับเจ้าหน้าที่สหประชาติและทูตานุทูตที่ประจำในประเทศไทย โดยจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ “ฟุตบอลการทูตเพื่อต่อต้านองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (Football Diplomacy against TOC)” ระหว่างทีมวีไอพีอัยการ นำทีมโดย นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด กับทีมสหประชาชาติ ณ สนามฟุตบอล บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ รวมทั้งมีการสอนโยคะโดยครูฝึกจากอินเดีย การแสดงทางวัฒนธรรมนานาชาติ การตอบปัญหา-เล่นเกมส์ ชิงของรางวัลจากสถานทูตต่างๆ และชิมอาหารนานาชาติจากสถานทูตต่างๆ ที่เข้าร่วมงานอีกด้วย
นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดกิจกรรม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและเสริมสร้างความสัมพันธ์ ความร่วมมือในการปฏิบัติงานร่วมกันในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้ เนื่องจากสำนักงานอัยการสูงสุดมีบทบาทหลักเป็นผู้ประสานงานกลางในกระบวนการยุติธรรมด้านความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา และเมื่อปี พ.ศ. 2543 อัยการสูงสุดขณะนั้นได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนประเทศไทยไปลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร และในปีนี้ เป็นปีครบรอบ 20 ปี ของอนุสัญญาฯ ดังกล่าว ซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่กำหนดมาตรฐานสำหรับประเทศภาคีสมาชิกด้านความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญาและการดำเนินการเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทำโดยองค์กรอาชญากรรม
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีการประกอบอาชญากรรมร้ายแรงหลายรูปแบบ ทั้งการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ การฟอกเงิน และอาชญากรรมรูปแบบใหม่ เช่น อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ การกระทำผิดเกี่ยวกับเงินดิจิตอล เป็นต้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมของประเทศต่างๆ จะต้องร่วมมือกันในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยการนำตัวอาชญากรข้ามชาติและทรัพย์สินของอาชญากรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อันเป็นการสร้างความสงบให้แก่สังคม ส่งเสริมเสถียรภาพ ความมั่นคงและสิทธิมนุษยชนในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การดำเนินกิจกรรมทางวิชาการ (Conference Session) โดยมีการเสวนาหัวข้อ "ความร่วมมือระหว่างประเทศทางกฎหมายเพื่อต่อต้านองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" โดยมี นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล และ Ms. Kaori Matsumoto ผู้ประสานงานเครือข่ายความร่วมมือทางกฎหมายในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ (SEAJust) เป็นวิทยากรร่วม และการบรรยายพิเศษหัวข้อ "การรำลึกครบรอบ 20 ปี อนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร" โดย Ms. Karen Kramer และ Mr. Luis Francisco De Jorge Meas ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการก่ออาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ กรุงเวียนนา บรรยายผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) โดยมีผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างๆประจำประทศไทย ผู้แทนสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นานาประเทศกว่า 100 คน เข้าร่วมการเสวนา ระหว่างเวลา 14.00 – 16.00 น. ณ ห้องประชุม 120 ปี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถรับชมกิจกรรมทางวิชาการ ได้ทาง www.ago.go.th และทาง www.youtube.com/watch?v=bh-L3vx3NSE หรือ สแกน QR Code ที่ปรากฏด้านท้าย
นอกจากการจัดกิจกรรมทางวิชาการแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ (Social Networking) ระหว่างพนักงานอัยการไทยกับเจ้าหน้าที่สหประชาติและทูตานุทูตที่ประจำในประเทศไทย โดยจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ “ฟุตบอลการทูตเพื่อต่อต้านองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (Football Diplomacy against TOC)” ระหว่างทีมวีไอพีอัยการ นำทีมโดย นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด กับทีมสหประชาชาติ ณ สนามฟุตบอล บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ รวมทั้งมีการสอนโยคะโดยครูฝึกจากอินเดีย การแสดงทางวัฒนธรรมนานาชาติ การตอบปัญหา-เล่นเกมส์ ชิงของรางวัลจากสถานทูตต่างๆ และชิมอาหารนานาชาติจากสถานทูตต่างๆ ที่เข้าร่วมงานอีกด้วย