ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ร่วมกับริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนอเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอกองทุนเปิดใหม่ล่าสุด “อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด โกลบอล ไดนามิค ดิวิเดนด์ ฟันด์” (Aberdeen Standard Global Dynamic Dividend Fund) เป็นการลงทุนในตราสารทุนทั่วโลกที่จะมาช่วยนักลงทุนสามารถได้รับปันผลที่สม่ำเสมอ เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นของบริษัทหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมโดยเน้นน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยียุคใหม่ ธุรกิจเกี่ยวกับการเงิน และด้านสุขภาพที่มีศักยภาพเติบโตสูงทั่วโลก ถือเป็นอีกหนึ่งกองทุนรวมที่จะมาช่วยตอบโจทย์การลงทุนท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดการลงทุนทั่วโลกช่วงท้ายปี แม้จะมีเหตุการณ์การเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่ทำให้หลายฝ่ายจับตามองถึงผลกระทบที่อาจตามมา นักวิเคราะห์ซิตี้ยังคงมีมุมมองบวกต่อหุ้นวัฎจักรที่คาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่อง แนะนำให้การกระจายการลงทุนในกลุ่มหุ้นวัฎจักรในหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น รวมถึงลดการกระจายน้ำหนักในกลุ่มตราสารหนี้และทองคำแต่ยังคงให้มีอยู่เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตในระยะยาว นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทยเปิดเผยว่า ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ร่วมกับริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนอเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอกองทุนเปิดใหม่ล่าสุดสำหรับลูกค้าซิตี้โกลด์ “อเบอร์ดีน สแตนดาร์ดโกลบอล ไดนามิค ดิวิเดนด์ ฟันด์” (Aberdeen standard Global Dynamic Dividend Fund) โดยกองทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนในตราสารทุนทั่วโลกที่คัดเลือกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปั่นผลสม่ำเสมอพร้อมกับโอกาสในการทำกำไรจากการเติบโตของมูลค่าการลงทุนเพื่อจะมาช่วยให้นักลงทุนสามารถรับผลตอบแทนที่มั่นคงและอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจโดยมีประวัติการจ่ายปันผลในอดีตสูงถึง 6-7% ต่อปี โดยกองทุนนี้เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นของบริษัทเทคโนโลยียุคใหม่ กลุ่มการเงินหรือกลุ่มสุขภาพชั้นนำที่มีศักยภาพเติบโตสูงทั่วโลก ถือเป็นอีกหนึ่งกองทุนรวมที่จะมาช่วยตอบโจทย์การลงทุนท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน โดยจากข้อมูลกองทุนสามารถจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอเป็นประจำมาตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปัจจุบัน ตลอดจนมีนักวิเคราะห์จากอเบอร์ดีนที่เชี่ยวชาญในการคัดสรรหุ้นเพื่อลงทุนกว่า 140 คนทั่วโลก ในขณะเดียวกันซิตี้โกลด์ยังนำเสนอการบริการความมั่งคั่งในการกระจายการลงทุนได้ทั่วโลกกว่า 200 กองทุน จากพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่หลากหลายกับ 5 บลจ.ในประเทศและ 13 บลจ.ต่างประเทศ โดยมีความหลากหลายของกองทุนทั้งประเภทของสินทรัพย์ และภูมิภาคของการลงทุน ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ซิตี้โกลด์ได้อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า โดยมีผู้ดูแลบัญชีที่พร้อมให้บริการคำแนะนำและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ธุรกรรมการลงทุนผ่านทางโทรศัพท์ รวมถึงการจัดประชุมทางวิดิโอ คอลล์ อีกทั้งลูกค้ายังสามารถตรวจสอบการเคลื่อนไหวของพอร์ตโฟลิโอการลงทุนของตัวเอง โอนเงินผ่านทางพร้อมเพย์ไปยังต่างธนาคาร หรือโอนเงินไปยังบัญชีต่างประเทศได้ง่ายๆ รวมถึงสามารถเปิดบัญชีสกุลเงินต่างประเทศได้ทันที ผ่านทางซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจเปิดบัญชีซิตี้โกลด์ที่มีเงินฝากและ/หรือเงินลงทุนเริ่มต้นตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป รับโปรโมชั่นพิเศษเวลคัมโบนัส และดับเบิ้ลอัพคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ดสูงสุด 230,000 คะแนน พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์และการลงทุนต่างๆมากมาย นอกจากนี้พิเศษสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีซิตี้โกลด์ใหม่พร้อมมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรซิตี้ครบตามเงื่อนไขที่ธนาคารฯ กำหนด รับเพิ่ม Afternoon Tea จากโรงแรมพาร์ค ไฮแอท แบงค็อก มูลค่ากว่า 4,950 บาททันที ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.citibank.co.th/th/newcitigoldcustomer/index.htm ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รวมถึงการดำเนินงานของธุรกิจต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมากมายไปทั่วโลก ยังส่งผลให้ตลาดเงินและตลาดการลงทุนมีความผันผวนสูงตลอดช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดในช่วงท้ายปีมีแนวโน้มที่ดีขึ้นทั้งข่าวดีจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ โจ ไบเดนจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ของสหรัฐอมเมริกาและเรื่องพัฒนาการของวัคซีนโควิด-19 ที่มีอย่างสม่ำเสมอ นักวิเคราะห์ซิตี้ยังคงแนะนำให้ลงทุนต่อเนื่องโดยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นทั่วโลกและให้การกระจายน้ำหนักการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมมาก โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มวัฎจักรและหุ้นกลุ่มการแพทย์ที่คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักในหุ้นเอเชียและยุโรปซึ่งเป็นผลบวกจากการที่นโยบายทางการค้าระหว่างประเทศของอเมริกาที่จะเป็นไปในทิศทางที่ประนีประนอมมากยิ่งขึ้นรวมถึงลดการกระจายน้ำหนักในกลุ่มตราสารหนี้ทั้งในตลาดเกิดใหม่และตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในอเมริกาและทองคำแต่ยังคงให้มีอยู่เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตในระยะยาว นายดอน กล่าวทิ้งท้าย