เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 26 พ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถบรรทุกชนท้ายรถโดยสารประจำทาง มีผู้บาดเจ็บหลายคน เหตุเกิดบริเวณหน้า ร.พ.กรุงไทย ถนนติวานนท์ขาออก ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จึงรุดเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์พยาบาลของ ร.พ.กรุงไทย เร่งช่วยเหลือและทยอยนำตัวผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นผู้โดยสารและคนขับร่วมถึงกระเป๋ารถประจำทางจำนวน 10 คนเข้ารักษาตัวที่ ร.พ.กรุงไทย โดยมี 2 คนที่จะต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.คือน.ส.เรณู บัวชูใบ อายุ 45 ปี เป็นพนักงานเก็บเงินหรือกระเป๋ารถประจำทาง และนางกอแก้ว ม่วงยืนนาน อายุ 61 ปีผู้โดยสาร ส่วนอีก 8 คนมีอาการเจ็บปวดแขน ขา คนละเล็กละน้อย โดยทางแพทย์ตรวจรักษาและให้กลับบ้านได้ ในที่เกิดเหตุพบรถประจำทางวิ่งระหว่าง ปากเกร็ด-รังสิต จอดอยู่สภาพด้านท้ายพังเสียหายกระจกแตกร้าว คู่กรณีเป็นรถบรรทุก 6 ล้อยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียน 92-6952 กทม.ด้านหน้ารถพังเสียหายยับเยินส่วนด้านกระบะท้ายบรรทุกเหล็กมาเต็มคัน นายบุญเลิศ คงทอง อายุ 62 ปีคนขับรถประจำทางกล่าวว่าก่อนเกิดเหตุตนเองจอดรถเพื่อรับผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทางหลังจากผู้โดยสารขึ้นรถแล้วและกำลังจะเคลื่อนรถออก จู่ๆก็ถูกรถบรรทุกนั้นพุ่งชนเข้าที่ท้ายอย่างเต็มแรงทำให้ตนเองเจ็บหน้าอกเล็กน้อย เนื่องจากไปกระแทกกับพวงมาลัย นายวัชระ อินธิราช อายุ 31 ปีคนขับรถบรรทุกเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าในขณะที่ขับบรรทุกเหล็กมาจากบางนาและจะนำไปส่งแถวด้านถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด โดยก่อนเกิดเหตุมีรถบรรทุกดินขับนำหน้าอยู่ 1 คันเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถบรรทุกดินนั้นเบี่ยงเลี้ยวมาทางด้านขวาเข้าใจว่าน่าจะเบี่ยงเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถประจำทางที่จอดค่อมเลนอยู่ ในขณะที่ตนเองมองกระจกข้างเพื่อเตรียมเปลี่ยนเลนเช่นกันแต่จังหวะที่รถบรรทุกดินนั้นเลี้ยวออกก่อน หันกลับมาอีกทีก็เบรคไม่ทันแล้วรถก็เกิดพุ่งเข้าไปชนที่ท้ายของรถประจำทางดังกล่าว ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่พยาบาลดูอาการของนางกอแก้ว ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่มากับรถประจำทางพบว่ายังจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ทางแพทย์จึงให้พักรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.ไว้ก่อน โดยทางเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าหลังเกิดเหตุในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ขึ้นไปช่วยเหลือพบว่านางกอแก้ว นั้นไม่ได้สตินอนอยู่ที่พื้นทางเดินบนรถประจำทางคันดังกล่าว ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำคนขับรถทั้ง 2 คันไว้ ส่วนในข้อเท็จจริงจะต้องทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอีกครั้ง