เมื่อเร็วๆนี้ งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ (CIIE) ครั้งที่ 3 ของจีน ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 6 วัน สิ้นสุดลงแล้ว และประสบผลสำเร็จอย่างอุดมสมบูรณ์ งานครั้งนี้มีพื้นที่จัดแสดงเกือบ 360,000 ตารางเมตร ขยายกว้างขึ้นจากครั้งก่อนเกือบ 30,000 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการจากหลายประเทศและภูมิภาคนำสินค้า เทคโนโลยีและการบริการใหม่ เข้าร่วมจัดแสดงเป็นครั้งแรกจำนวนมาก ในงานยังจัดกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้อง 101 งาน มีผู้สนใจสมัครลงทะเบียนเข้าชมเกือบ 400,000 คน มีการบรรลุข้อตกลงหรือมีแผนที่จะบรรลุข้อตกลงการซื้อขายมูลค่า 72,620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว ซึ่งภายใต้สถานการณ์ที่ทั่วโลกยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือว่าประเทศจีนได้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศที่มีความปลอดภัย ความยอดเยี่ยมและประสบผลสำเร็จอย่างชัดเจน งาน CIIE ครั้งที่ 3 สิ้นสุดลงและประสบผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์ “จีนจะยืนหยัดแนวคิดที่เปิดประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือ ความสามัคคี และบรรลุผลสำเร็จร่วมกันต่อไป ขยายการเปิดประเทศอย่างรอบด้านด้วยความแน่วแน่ จะพยายามช่วยให้ตลาดทั้งในและนอกประเทศมีการเชื่อมโยง และแบ่งปันทรัพยากรร่วมกันด้วยประสิทธิภาพสูงขึ้น ให้ตลาดจีนเป็นตลาดของโลก เป็นตลาดแห่งการแบ่งปัน และตลาดของธุรกิจทุกประเทศ พร้อมเพิ่มกำลังทางบวกมากขึ้นให้กับประชาคมโลก” สุนทรพจน์ของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่กล่าวในพิธีเปิด ได้ตอกย้ำจุดยืนที่ชัดเจนและแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า จีนจะเปิดประเทศอย่างต่อเนื่อง จะสนับสนุนการสร้างประชาคมโลกทางเศรษฐกิจอย่างแน่วแน่ และจะสร้างคุณูปการเพื่อฟื้นเศรษฐกิจโลกและสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตสวยงามยิ่งขึ้นร่วมกันของมนุษยชาติ เสียงจากตะวันออก :เรียกร้องเปิดประเทศต่อกัน เมื่อเผชิญกับผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีเพียงการจับมือกัน สมานสามัคคี และร่วมทกข์ร่วมสุขกัน จึงจะสามารถพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปได้ นายสี จิ้นผิง เน้นว่า ประเทศต่างๆ ควรจับมือกันมุ่งผลักดันการเปิดประเทศเพื่อบรรลุผลสำเร็จร่วมกัน ร่วมกันแบกรับหน้าที่ และบริหารจัดการ ซึ่งเป็นความปรารถนาในใจของผู้ร่วมงานทั้งหลาย นายเซบาสเตียน พิเนรา ประธานาธิบดีชิลี กล่าวในพิธีเปิดของงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติว่า โควิด-19 ทำให้เราเห็นคุณค่าของความสามัคคีและการประสานงาน จึงต้องส่งเสริมการประสานงานด้วยกำลังที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งเสริมการค้าเสรีและแนวคิดพหุภาคี พร้อมยังระบุว่า ประเทศต่างๆควรรักษาการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกันปกป้องความราบรื่นทางการค้าระหว่างประเทศและกลไกแก้ไขข้อขัดแย้งขององค์การการค้าโลก มุ่งสร้างระบบการค้าที่เปิดกว้าง ไม่เลือกปฏิบัติและมีความโปร่งใส จีนมีความพยายามในการผลักดันให้ประเทศต่างๆ ส่งเสริมความเข้าใจกันและกระชับความร่วมมือกันมาโดยตลอด หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องมุ่งรับมือกับการท้าทายด้วยความสามัคคีและประสานงานกัน จึงจะทำให้เศรษฐกิจโลกพ้นจากสภาพซบเซา และพัฒนาก้าวหน้าต่อไปด้วยความแข็งแกร่ง แนวคิดเอกภาคีนิยมและกีดกันทางการค้าไม่เคยเป็นทางออกของปัญหาการรับมือกับความท้าทายที่ทั่วโลกประสบ โควิด-19 ทำให้มนุษย์ตระหนักอย่างลึกซึ้งว่า โชคชะตาของประชาชนชาติต่างๆ เกี่ยวข้องใกล้ชิดกันเพียงไหน การสนับสนุนช่วยเหลือกันระหว่างจีนกับนานาประเทศ และได้รับผลสำเร็จร่วมกันในการต้านโควิด-19 พิสูจน์ให้เห็นอย่างมีพลังว่า ความสามัคคีเป็นหนทางสู่อนาคตสดใสที่ถูกต้องเพียงทางเดียว นายเจมส์ มาราเป นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี กล่าวว่า ปีนี้ จีนอาจจะเป็นประเทศเศรษฐกิจสำคัญที่มีการเติบโตเพียงประเทศเดียว การจัดงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติในวาระอันสำคัญเช่นนี้ ทำให้ทั่วโลกร่วมแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีน ขณะเดียวกัน ก็ได้นำมาซึ่งแรงบันดาลใจให้กับการค้าโลกที่ตกอยู่ในสภาวะยากลำบากยิ่ง การจัดงานมหกรรมครั้งนี้ช่วยให้สินค้าที่ดีของประเทศต่างๆ ได้เปิดประตูสู่จีน เป็นการจัดงานที่มีขึ้นอย่างทันเวลา และเป็นแบบอย่างที่มีส่วนช่วยในการสร้างอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ ที่มีทั้งความมั่นคง แข็งแรงและเจริญรุ่งเรือง ด้านดร.มูคิสะ คิทูอิ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) เห็นว่า เมื่อเผชิญกับโควิด-19 ทั่วโลกมีความต้องการนำเข้ามากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เศรษฐกิจในภูมิภาคต้องเผชิญกับแรงกดดันที่การเติบโตชะลอตัวลง แต่จีนมีกำลังที่ช่วยให้เศรษฐกิจโลกมีความมั่นคง ความต้องการสินค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนประเทศต่างๆ มีความมั่นใจและความหวัง ทำให้ทั่วโลกมีความหวังที่จะฟื้นตัวขึ้นด้วยวิธีที่ยิ่งยั่งยืนมากขึ้น ระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายนปีนี้ จีนมีการใช้ทุนต่างชาติจริง 103,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว (ประมาณ 718,810 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.2%) เป็นครั้งแรกที่ทั้งสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินหยวนเพิ่มขึ้นเป็นบวกพร้อมกัน แสดงให้เห็นแนวโน้มการเติบโตภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้าย นอกจากนี้ การใช้มาตรการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศของจีนในปีนี้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ตลาดจีนที่มีขนาดใหญ่มากยังมีแรงดึงดูดต่อทุนต่างชาติไม่เปลี่ยน การสนับสนุนในภาคอุตสาหกรรม ทรัพยากรด้านบุคคล โครงสร้างพื้นฐานและปัจจัยอื่นๆ ก็ยังมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันอย่างรอบด้านเหมือนเดิม และนักธุรกิจต่างชาติยังมีการคาดการณ์และความมั่นใจในการลงทุนและดำเนินงานในประเทศจีนดังเดิม ระหว่างจัดงานมหกรรมครั้งนี้ ได้มีการจัดประชุมด้านการลงทุนในจีนด้วย นายจง ฉางชิง ผู้อำนวยการสำนักงานกำกับดูแลทุนต่างชาติของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า จีนได้กลายเป็น “เครื่องรักษาสมดุล” และ “ท่าเรือหลบคลื่นลมแรง” ของผู้ลงทุนข้ามแดนของทั่วโลกแล้ว นายอู๋ เฉียวเหวิน (จอห์น เอ็ดเวิร์ด) ทูตฝ่ายพาณิชย์ของอังกฤษประจำประเทศจีน กล่าวว่า จีนเป็นหุ้นส่วนอันดับ 3 ของอังกฤษ เมื่อปีที่แล้ว ยอดการค้าระหว่างสองประเทศทะลุ 100,000 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง ส่วนความร่วมมือระหว่างจีนกับอังกฤษ ไม่เพียงมีการติดต่อกันทางการค้า ยังรวมถึงการจับมือกันผลักดันให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างยั่งยืนในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งในงานมหกรรมครั้งนี้ กว่า 100 บริษัทจากทุกพื้นที่ของอังกฤษเข้าร่วมงาน โดยมีธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมาก ซึ่งต่างหวังว่าเปิดโอกาสการเชื่อมโยงความร่วมมือกับตลาดจีนในงานมหกรรมครั้งนี้ คุณประโยชน์แห่งตะวันออก:ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอันอุดมสมบูรณ์ การจับมือ แลกเปลี่ยนข้อตกลงสัญญา และถ่ายภาพหมู่กลายเป็นขั้นตอนมาตรฐานที่เห็นได้บ่อยครั้งในงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ โดยถ้ามีการจัดประชุมการค้าและการลงทุนขนาดใหญ่ จะใช้วิธีออนไลน์และออฟไลน์ผสมกัน เสนอการบริการแบบมืออาชีพให้กับผู้เข้าร่วมงาน 674 รายและฝ่ายจัดซื้อ 1,351 ราย ได้บรรลุข้อตกลงหรือมีแผนจะบรรลุข้อตกลงกันรวม 861 โครงการ นอกจากนี้ ยังจัดงานประชาสัมพันธ์การลงทุน 10 ครั้ง อีกทั้งการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของอิตาลี เทศบาลและธุรกิจของมณฑลเสฉวน กุ้ยโจว และเจ้อเจียง เป็นต้น นายซ่ง ไห่เหลียง ประธานคณะกรรมการบริหาร เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ของบริษัท ไชน่า เอ็นเนอร์จี้ เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป (ceec) กล่าวว่า บริษัทซีอีอีซีเปิดกว้างให้ต่างประเทศเข้ามาร่วมมือกันมาโดยตลอด เพราะมีการใช้มาตรการพัฒนาในต่างประเทศเร็วกว่าบริษัทอื่นๆ ของจีน ทำให้มีกิจการครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางในต่างประเทศ มีความเป็นสากลในการพัฒนาและการดำเนินงาน และมีหุ้นส่วนความร่วมมือจำนวนมากในทั่วโลก ได้มีการแลกเปลี่ยนกับฝ่ายต่างๆ ในหลายขอบเขตและหลายระดับอย่างลึกซึ้ง ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญของบริษัท ในกระบวนการขยายการเปิดประเทศในศักราชใหม่ของจีน งานมหกรรมครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญยิ่งของบริษัทที่จะเร่งพัฒนาความเป็นสากลให้สูงขึ้นอีกขั้น และได้แสดงสินค้าและความสามารถของตัวเองอย่างแข็งขัน บริษัทซีอีอีซีมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในโครงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานทางพลังงานทั่วโลก ช่วงหลายวันมานี้ ก็ได้ลงนามข้อตกลงจัดซื้อกับบริษัทต่างชาติหลายราย อาทิ บริษัท ซีเมนส์ เอ็นเนอร์จี เอจี จำกัด , บริษัท ฮิตาชิ เอบีบี พาวเวอร์ กริดส์ (ประเทศจีน) จำกัด และบริษัท เอ็มทียูฮ่องกง จำกัด เป็นต้น โดยจะจัดซื้อโรงไฟฟ้าหมุนเวียนก๊าซธรรมชาติ สวิตช์ไฟฟ้าแรงสูง เครื่องยนต์ อะไหล่เดิม และอื่นๆ ปีนี้เป็นปีครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและอิตาลี จึงเป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสนับไม่ถ้วนในการพัฒนาการค้าของสองประเทศภายใต้กรอบ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ในงานมหกรรมครั้งนี้บริษัทซูหนิงของจีนได้ลงนามกับคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของอิตาลี (ITA) โดยวางแผนจะสร้างเวทีออนไลน์เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าต่างประเทศให้กับผู้บริโภคจีน และนำเข้าสินค้าที่มีคุณภาพที่ดีของอิตาลีให้กับประชาชนจีน นายจาง จิ้นตง ประธานคณะกรรมการบริหารของซูหนิง โฮลดิ้ง กรุ๊ป กล่าวว่า ซูหนิงจะพยายามช่วยให้ประเทศรายทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าโลก แบ่งปันผลประโยชน์จากการพัฒนาของจีน อาศัยงานมหกรรมครั้งนี้เป็นเวทีเชื่อมโยงกับหุ้นส่วนความร่วมมือและทรัพยากรที่ดีทั้งในจีนและต่างประเทศ แสดงบทบาทเป็นสะพานระหว่างผู้บริโภคจีนกับสินค้าที่ดีของทั่วโลก งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ ครั้งที่ 3 ของจีน มีความคึกคักเหมือนกับงานครั้งแรกและครั้งที่ 2 โดยมีการจำหน่ายและจัดซื้อสินค้าจากทั่วโลก เป็นบทพิสูจน์ที่ทรงพลังว่า ภายใต้สถานการณ์พิเศษที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด รัฐบาลและบริษัทประเทศต่างๆมีความเชื่อมั่นในประเทศจีน ส่วนจีนก็ได้ใช้มาตรการที่เป็นจริงเพิ่มความมั่นใจให้กับเศรษฐกิจโลก นายโหยว เต๋อเหลียง (Andrzej Juchniewicz) หัวหน้าผู้แทนสำนักงานกรมการค้าการลงทุนโปแลนด์ประจำจีน แนะนำว่า การเข้าร่วมงานมหกรรมครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญในแผนงานปีนี้ของกรมการค้าการลงทุนโปแลนด์ บริษัทโปแลนด์ให้ความสนใจต่อตลาดจีนมากขึ้นทุกวัน นักธุรกิจโปแลนด์เห็นว่า ตลาดจีนมีศักยภาพมาก เมื่อปี 2019 ยอดการค้าระหว่างจีนกับโปแลนด์มีมูลค่าถึง 27,800 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.4% แม้ว่าในช่วงการระบาดของโควิด-19 อาหารโปแลนด์ก็มีปริมาณจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน ในจำนวนนี้ ผลิตภัณฑ์นมมียอดการส่งออกไปยังจีนเพิ่มขึ้น 70% กรมการค้าการลงทุนโปแลนด์หวังว่าจะสามารถขยายสัดส่วนในตลาดจีนอย่างเต็มที่มากขึ้น และหวังว่าบริษัทโปแลนด์สามารถใช้โอกาสจากงานมหกรรมครั้งนี้ สัมผัสถึงบรรยากาศทางการค้าที่เป็นมิตรของจีน นายโหยว เต๋อเหลียง กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจยิ่งที่เห็นบริษัทที่ดีของโปแลนด์ได้ลงนามข้อตกลงจัดซื้อกับบริษัทจีนในงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาตินี้ ทั้งผลิตภัณฑ์นม แอลกอฮอล์ และผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ มากมาย คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 100 ล้านหยวน คำมั่นจากตะวันออก : เจอกันใหม่ปีหน้า ช่วงเวลา 3 ปีการจัดงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติของจีน มีบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับสากลจำนวนไม่น้อยเข้าร่วมต่อเนื่องกัน 3 ปี เช่น ฟอร์ดมอเตอร์ของสหรัฐอเมริกา หลุยส์เดรย์ฟัสของฝรั่งเศส โรชของสวิตเซอร์แลนด์ และบริษัทอื่นๆที่เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกและบริษัทชั้นนำทั้งหลาย ล้วนเป็นขาประจำที่เข้าร่วมออกบูธในงาน ข้อมูลถึงตอนปิดงานปีนี้ ได้มีบริษัทหลายร้อยแห่งสมัครและลงนามเข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ ครั้งที่ 4 แล้ว และยังมีหลายสิบรายได้จองบูธ 3 ปีข้างหน้าไว้แล้วด้วย เมื่อ 3 ปีก่อน จีนยังไม่มีงานมหกรรมสินค้านำเข้า ปัจจุบันงานนี้ได้จัดมาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ถือเป็นสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์การจัดงานมหกรรมระหว่างประเทศของโลก ปีนี้ภายใต้เงื่อนไขที่งานป้องกันการแพร่ระบาดดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ จีนได้จัดงานมหกรรมการค้าระหว่างประเทศตามกำหนดเวลา แสดงให้เห็นความรับผิดชอบและพร้อมแบกรับหน้าที่ของจีน ร่วมแบ่งปันโอกาสใหม่ทางการค้า การลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจกับทั่วโลก ดานอนกรุ๊ป ได้ลงนามเข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ ครั้งที่ 4 ของจีน โดยนายเซี่ย เหว่ยโป๋ (Bruno Chevot) รองประธานบริษัทดานอนกรุ๊ป กล่าวว่า ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ดานอนได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้าของจีน โดยนำสินค้าเกือบ 40 ประเภทจากสาขาในเยอรมนี ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆเข้าตลาดจีน โดยเฉพาะสินค้าเรือธงที่จัดแสดงในงานครั้งนี้ ก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค ดานอนนำสินค้า 50 ประเภทร่วมออกบูธเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมปีนี้ พร้อมตัดสินใจจะลงทุน 100 ล้านยูโร เพื่อตั้งศูนย์ศึกษาวิจัยการเปิดตลาดเซี่ยงไฮ้ และวางแผนจะสร้างฐานการผลิตของบำรุงสุขภาพพิเศษที่เมืองชิงเต่าของมณฑลซานตง และเมืองอู๋ซีของมณฑลเจียงซู นายเซี่ย เหว่ยโป๋ ยังกล่าวว่า ในงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ สามารถพบพันธมิตรทางการค้า ขยายช่องทางการประกอบการ และเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคจีนมากขึ้น ดานอนจะเพิ่มการลงทุนในตลาดจีนต่อไป สภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจของจีนปรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีศักยภาพทางตลาดผู้บริโภคที่ยิ่งใหญ่ มียุทธศาสตร์การเปิดประเทศอย่างต่อเนื่องและแน่วแน่ ทำให้ดานอนมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ต่อการเพิ่มการลงทุนในประเทศจีน นอกจากนี้ ชิเซโด้ แบรนด์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเข้าตลาดจีนมา 39 ปีแล้ว ได้จองบูธจัดแสดง 3 ปีข้างหน้าไว้แล้ว โดยนายมาซาฮิโกะ อุโอทานิ ซีอีโอของชิเซโด้ กล่าวว่า งานมหกรรมครั้งนี้ ชิเซโด้เห็นศักยภาพยิ่งใหญ่ในตลาดเครื่องสำอางของจีน อย่างที่นายสี จิ้นผิง กล่าวในพิธีเปิดว่า จีนมีประชากร 1,400 ล้านคน กลุ่มผู้มีรายได้ในระดับปานกลางมากกว่า 400 ล้านคน เป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพมากที่สุดของโลก จีนเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของชิเซโด้ต่อเนื่องกัน 3 ปีแล้ว ต่อไป ชิเซโด้จะเข้าเวทีที่เปิดกว้างนี้ต่อไป พร้อมจะนำแบรนด์ใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ และเทคโนโลยีใหม่เข้าตลาดจีน เมื่อเร็วๆนี้ การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 5 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 19 ปิดฉากลง ได้วางแผนการพัฒนาอย่างรอบด้านในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปีฉบับที่ 14 ของจีน โดยเสนอว่า จะสร้างสถานการณ์การพัฒนาใหม่ที่ถือระบบหมุนเวียนในห่วงโซ่ภายในประเทศเป็นหลัก ให้ห่วงโซ่ภายในและภายนอกประเทศมีการส่งเสริมกัน “นี่ไม่ใช่เป็นห่วงโซ่ที่ปิด แต่จะเป็นระบบหมุนเวียนของทั้งจีนและต่างประเทศที่เปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงสอดคล้องกับความต้องการด้านการพัฒนาของจีนเอง ยังจะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนประเทศต่างๆทั่วโลกด้วย” ดั่งคำกล่าวของนายสี จิ้นผิง ที่ว่า งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติของจีนได้เสนอเวทีและโอกาสต่อการเชื่อมห่วงโซ่จีนกับต่างประเทศ จีนยินดีร่วมมือกับประเทศต่างๆทั่วโลก ร่วมกันผลักดันให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น นี่เป็นเจตนารมณ์ที่แน่วแน่และไม่เคยเปลี่ยนแปลงของจีน เขียนโดย จาง เฝ่ยเย่ แปลโดย หาน ฉู่ ตรวจแก้โดย รพีพรรณ วงษ์กรวรเวช