เมื่อวันที่ 24 พ.ย. เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง ความรุนแรงต่อเด็กในครอบครัว ซึ่งคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา พิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาที่พบอยู่เสมอ ทั้งในครอบครัวและในสังคม และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นกับบุคคลที่อ่อนแอหรือด้อยโอกาส กรรมาธิการฯ มีข้อเสนอแนะ 3 แนวทางคือ 1.แนวทางการค้นหาข้อเท็จจริง ควรมีการศึกษาเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรงว่าเหตุใดจึงถูกกระทำ หรือถูกกระทำด้วยวิธีการใด 2.แนวทางการช่วยเหลือเยียวยา เมื่อพบเห็นเหตุการณ์กระทำความรุนแรงต่อเด็ก จะต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และทำงานในเชิงรุก โดยใช้กระบวนการจากทีมสหวิชาชีพดำเนินการช่วยเหลือ รวมทั้งควรมีการจัดการเก็บข้อมูลกลางเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวอย่างเป็นระบบ รวมทั้งต้องมีสถานที่รองรับและให้การคุ้มครองผู้ถูกกระทำที่มากเพียงพอ นายวัลลภ กล่าวว่า 3.แนวทางป้องกัน อาทิ การเตรียมความพร้อมของครอบครัวรุ่นใหม่ ส่งเสริมให้ส่วนราชการหรือองค์กรรัฐวิสาหกิจมีเนอร์สเซอรี่เพื่อให้แม่มีโอกาสใกล้ชิดบุตร ผลักดันให้ท้องถิ่นมีแผนและกิจกรรมส่งเสริมครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ผลักดันให้สื่อมวลชนภาครัฐมีพื้นที่การนำเสนอสาระเกี่ยวกับครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องผลักดันการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด อาทิ การบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้กระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 พร้อมทั้งผลักดันให้มีพระราชบัญญัติเพื่อให้สามีสามารถลาเลี้ยงดูบุตรหลังภรรยาคลอดบุตร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2553 โดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 ที่ให้มีสิทธิลาไปช่วยเหลือภรรยาที่คลอดบุตรครั้งหนึ่งติดต่อกันได้ไม่เกิน 15 วันทำการ