"นิกร"หนุนตั้งคณะกก.สมานฉันท์ 7ฝ่าย รับแก้รธน.บางฝ่ายยังติดใจ ค้าน"ส.ว."เสนอทำประชามติ "พปชร." เชื่อ "บิ๊กตู่" เหมาะสมที่สุดนั่งผู้นำต่อในสถานการณ์ขณะนี้ มองแถลงการณ์เน้นจนท.เข้มกฎหมายเป็นไปตามหลักสากล ด้าน "ดร.สุวินัย" ปูด"ปอท." ขอหมายจับผู้อยู่เบื้องหลังม็อบคณะราษฎวันนี้ ส่วน "ซูเปอร์โพล" เผยปชช. กังวลต่างชาติหนุนหลัง"ม็อบ-ไอลอว์" ระบุ 94.8 เชื่อมีขบวนการชักศึกเข้าบ้าน เคลื่อนไหวปั่นกระแส ทำคนไทยแตกแยก จี้ทุกจังหวัดรณรงค์ทำกิจกรรมปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน ขณะที่กลุ่ม "อาชีวะ" รวมพลแน่นอักษะขับไล่เผด็จการ เมื่อวันที่ 22พ.ย.63 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่?) พ.ศ. กล่าวถึงกรณีมีการเสนอชื่อให้ตัวเองเป็นประธาน กมธ.พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้านเสนอก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ เมื่อถามว่า เนื้อหาในร่างแก้ไข รธน.รายมาตรา ในร่างแก้ไขรธน.ร่างที่ 3-7 ซึ่งรัฐสภาไม่ให้ความเห็นชอบจนตกไป จะสามารถผลักดันให้ถูกนำมาบรรจุได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า 1.ตัว กมธ.ต้องหยิบเอามาเสนอในที่ประชุม แต่ประเด็นที่หยิบขึ้นมาเสนอจะต้องอยู่ในหลักการ จะต้องไม่ขัดกับหลักการเดิม 2.สมาชิกที่ไม่ได้เป็นคณะกรรมาธิการ สามารถยื่นคำแปลญัตติเข้ามายัง กมธ.ได้ 3.แต่ตั้งที่ปรึกษาที่มาจากภาคประชาชน และ 4.ถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่าน จะเข้าสู่กระบวนการตั้ง ส.ส.ร. และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดย ส.ส.ร.สามารถพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้ ด้าน นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เตรียมนัดตัวแทนพรรคการเมืองเพื่อหารือถึงการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ 7 ฝ่าย และการส่ง ตัวแทนเข้าร่วมในสัปดาห์หน้าว่า ตนยังไม่ทราบ แต่พรรคพร้อมสนับสนุนเพราะเชื่อว่าเป็นการเปิดพื้นที่ให้เกิดการพูดคุย ทั้งนี้ในสถานการณ์ปัจจุบันที่เหมือนจะดี หลังจากที่รัฐสภารับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อตั้งสภาร่างรัฐ ธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แต่พบว่ายังมีความติดใจระหว่างกัน ดังนั้นเชื่อว่ากรรมการสมานฉันท์จะเป็นพื้นที่ที่ได้พูดคุยกัน โดยพรรคพร้อมให้ความร่วมมือในการหารือดังกล่าว เมื่อถามถึงกรณีที่ส.ว.ยังเสนอให้ทำประชามติก่อนแก้รัฐธรรมนูญ นายนิกร กล่าวว่าไม่เห็นด้วย เพราะขณะ นี้รัฐสภาตั้งกมธ. เพื่อพิจารณาเนื้อหาแล้ว ควรต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนที่มีบุคคลเตรียมเสนอเรื่องให้ทำประชามติ หรือเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วย น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.โฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมในขณะนี้ ว่า เป็นสิ่งที่กระทำได้แต่ต้องไม่ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมืองเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศ จากอาวุธแต่การชุมนุมในระยะหลังมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่อาจพัฒนาไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงได้จึงจำเป็นต้องออกแถลงการณ์ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการตามกฎหมายเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่วนที่มีการขยายความว่าจะใช้มาตรา112เพื่อจัดการนั้นเห็นว่า แถลงการณ์ของนายกฯ เน้นให้ใช้กฎหมายทุกมาตราตามความผิดที่เกิดขึ้นจริง ไม่มีการเน้นที่มาตราใดมาตราหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ "พรรคยังเชื่อมั่นในบทบาทผู้นำประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ได้ดำเนินการด้วยความจริงใจ และเชื่อมั่นว่านายกฯจะไม่ถอดใจและเดินหน้าเพื่อการปฏิรูปประเทศรวมถึงฟื้นฟูประเทศเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนทุกคน และเทิดทูนไว้ซึ่งชาติศาสนาพระมหากษัตริย์" ขณะที่ ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ด่วน!! มีพรายกระซิบมาอีกแล้วว่าวันที่ 23 พ.ย. จะมีการพิจารณาของกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีกรณีขอให้ศาลออกหมายจับผู้อยู่เบื้องหลัง ม็อบคณะราษฏร" ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมแถลงถึงแนวทางการดูแล และการจัดการจราจร กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมที่นัดรวมตัวกันทำกิจกรรมนิทรรศการงานเฟสติวัล รวมพลังประชาธิปไตย บริเวณถนนอัก ษะ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ตั้งแต่เวลา 15.00น.เป็นต้นไป โดย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า วันนี้มีแจ้งการชุมนุม 2 กลุ่ม คือ 1.ภาคีนักศึกษาศาลายา แจ้งการชุมนุมกับ สน. ธรรมศาลา เพื่อจัดการชุมนุมที่ถนนอักษะถึงถนนอุทยานซอย 13 เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00น.เป็นต้นไป โดยตำรวจกำ หนดเงื่อนไขการชุมนุมดังนี้คือ 1.ให้ควบคุมผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่แจ้งชุมนุมเท่านั้น 2.ห้ามเคลื่อนย้ายพื้นที่ชุมนุมเด็ดขาด 3.ห้ามใช้ป้ายข้อความดูหมิ่นปลุกระดมยุยง 4.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปจุดอื่นที่ไม่ได้แจ้งไว้ 5.ห้ามใช้เครื่องเสียงตามที่กฎหมายกำหนดค่าสูงสุด 115 เดซิเบล และค่าเฉลี่ยตลอดการชุมนุมไม่เกิน 70 เดซิเบล และ 6.ให้ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่กระทบต่อความเรียบร้อยของบ้านเมืองและศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั้งนี้ การชุมนุมที่ถนนอักษะ ห้ามชุมนุมเกินระยะ 150 เมตร จากเขตพระราชฐานเด็ดขาด นอกจากนี้ยังมีม็อบกลุ่มเลือกข้าง ประชาธิปไตย ที่ได้เข้าแจ้งขอจัดกิจกรรมการชุมนุม กับ สน.พระราชวัง ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึงเวลา 19.00 น. โดยพบปะพูดคุยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องชาวย้าย ที่บริเวณด้านหน้าร้านแม็คโดนัลด์ ก่อนเดินไปแยกคอกวัว โดยกำหนดเงื่อนไขคือ ให้อยู่บนทางเท้าร้านแม็ค และเดินไปแยกคอกวัวบนทางเท้า โดยไม่ให้ลงผิวจราจรเด็ดขาด นอกนั้นเงื่อนไขเดียวกับกลุ่มแรก พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรที่แยกวังแดง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ได้ประชุมเตรียมการเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ขอศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวต่อแกนนำผู้ชุมนุมบางส่วน ส่วนการแจ้งข้อหาผิด ม.112 ยังต้องดูตามพฤติ การณ์และบริบทของผู้ชุมนุมหากเข้าข่ายก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามนั้น ยืนยันว่าตำรวจต้องให้ความเป็นธรรม และการแจ้งข้อกล่าวหานี้จะต้องพิจารณาระดับกองบัญชาการเท่านั้น ส่วนการเตรียมออกหมายเรียกผู้ชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย และหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น สน.บางโพ สน.เตาปูน และสน.ปทุมวัน กำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล จะมีคนผิดมากกว่า 30 ราย หรือไม่ ตัวเลขไม่สำคัญ สำคัญที่คนกระทำผิด เชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เบื้องต้นความผิดแบ่งเป็นหลายส่วน สำหรับผู้ชุมนุม เข้าข่ายผิดฐานจัดการชุมนุมโดยมิชอบ บางส่วนสมคบกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อย ส่วนที่ปราศรัยที่พาดพิงผิดฐานหมิ่นประมาท อีกส่วนที่ทำลายสิ่งของและกล้องวงจรปิด ฐานทำให้เกิดความเสียหายซึ่งทรัพย์สินเอกชน ทรัพย์สินราชการ และทรัพย์สินสาธารณะ เมื่อถามความคืบหน้าการที่มีชายเสื้อฝนชมพูรายหนึ่งออกมาแสดงตัวว่าไม่ใช่คนที่ทำท่าเล็งปืนตามในข่าว พล.ต.ต.ปิยะ ตอบว่า หากมั่นในว่าตัวเองไม่ใช่คนผิด ก็ให้ไปพบตำรวจเตาปูนเพื่อเป็นพยานในคดี เพราะในม็อบมีคนชุดชมพูเยอะ จึงต้องพิสูจน์ทราบว่าเป็นคนเดียวกันจริงหรือไม่ เรื่องการตามตัวตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว อีกทั้ง พฐ.ยังตรวจพบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุหลายชนิด จุดแรกตรงรถบัส ตชดใกล้แยกเกียกกาย อีกจุดที่พบมาก อยู่เลยทางเข้าวัดใหม่ทองเสน ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่เกิน 400 เมตร ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีกลุ่มมวลชนทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่องพร้อมทำกิจกรรมอย่างคึกคัก ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย นอกจากนี้ที่ถนนอุทยานฝั่งมุ่งหน้าพุทธมณฑลสาย 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจรทุกช่องเลน ส่วน "ซูเปอร์โพล"สำได้รวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่องฝรั่ง ท่อน้ำเลี้ยง ไอลอว์ โดยถามถึงความเชื่อและความเห็นเกี่ยวกับฝรั่งหนุนหลังม็อบและไอลอว์ พบว่า ร้อยละ 97.3 ระบุ รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ เอาข้อมูลความจริง แสดงเส้นทางการเงินจาก ฝรั่ง ถึงไอลอว์ และเครือข่ายให้คนทั้งประเทศรู้ รองลงมาคือ ร้อยละ 94.8 เชื่อว่ามีขบวนการชักศึกเข้าบ้านเคลื่อนไหวปั่นกระแส ทำคนไทยแตกแยก ส่วนร้อยละ 94.7 ระบุ ไม่สบายใจต่อข่าว ไอลอว์ รับเงินจาก ฝรั่ง เคลื่อนไหวแก้รัฐธรรมนูญแตะต้องสถาบันหลักของชาติ ส่วนร้อยละ 93.5 ระบุ กลุ่มทุนฝรั่ง จ้องจะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ชาติ หลังคนไทยแตกแยกและสูญเสีย และร้อยละ 91.5 ระบุ เชื่อว่ามี กลุ่มทุนฝรั่ง สนับสนุนไอลอว์ แก้รัฐธรรมนูญ แตะต้องสถาบันหลักของชาติ ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.3 ระบุ ทุกจังหวัดควรรณรงค์ทำกิจกรรมต่อเนื่องชูประเด็น รู้ รัก สามัคคี ปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน ปกป้องสถาบันหลักของชาติ รองลงมาคือ ร้อยละ 97.3 ระบุ เอาผิดตามกฎหมาย จัดการขบวนการรับเงิน ฝรั่ง ปลุกปั่นคนไทยแตกแยก ร้อยละ 96.5 ระบุ กังวล รัฐบาลปล่อยปละละเลยความแตกแยกของคนในชาติกระจายไปพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศจนยากจะควบคุม