"เจ้าเหลิม" ธิติสรรค์ ปั้นโหมด นักชกเจ้าของโควตาโอลิมปิก 2020 รุ่น 52 กก. สังกัดสโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงโชว์ฟอร์มแจ่มไล่ตะบัน วุฒิชัย ยุระชัย นักชกทีมชาติชุดบีสังกัดสโมสรกองทัพบก เอาชนะคะแนนขาดลอย คว้าเหรียญทองแดงตุนเอาไว้พร้อมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เช่นเกียวกับ “น้องเมษา”นิลาวัลย์ เตชะสืบ นักชกสาวดีกรีเหรียญทองแดงเอเชี่ยนเกมส์ 2018 กับ เหรียญทองซีเกมส์ 2019 ต้อนเอาชนะคะแนนภูวราภัทร ม้าชัย จากทีมสโมสรพิทักษ์สันติราษฏร์ ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ในการแข่งขัน มวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ณ เวทีมวย โรงยิมฝึกซ้อม 2 ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2563 สำหรับผลการแข่งขัน มวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2563 ณ เวทีมวย โรงยิมฝึกซ้อม 2 ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มีคู่ที่น่าสนใจ ดังนี้ เริ่มคู่แรกรอบ 8 คน "น้องเมษา" นิลาวัลย์ เตชะสืบ นักชกเหรียญทองซีเกมส์ 2019 กับเหรียญทองแดงเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ชกให้ทีมสโมสรราชนาวี พบกับ ภูวราภัทร ม้าชัย อดีตนักชกทีมชาติจากทีมพิทักษ์สันติราษฏร์ เริ่มการชก เป็นนิลาวัลย์ ที่สูงยาวกว่า เป็นฝ่ายยิงหมัดตรงเข้าที่หน้าสลับลำตัวเข้าใส่ ภูวราภัทรไปได้อย่างชัดเจนจะแจ้ง เข้าสู่ยก 2 ยังคงเป็นนิลาวัลย์ ที่ชกเข้าเป้าได้อย่างแม่นยำเนื้อ ๆ เน้น ๆ ก่อนจะคุมเกมการชกเอาไว้ได้หมดจนหมดยกที่ 3 เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปขาดลอย คว้าเหรียญทองแดงตุนเอาไว้พร้อมกับผ่านเข้าไปชกในรอบรองชนะเลิศ ต่อด้วย "เจ้าเหลิม" ธิติสรรค์ ปั้นโหมด นักชกทีมชาติไทยเจ้าของโควตาโอลิมปิก 2020 ชกให้สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบกับ วุฒิชัย ยุระชัย กำปั้นทีมชาติจากสโมสรกองทัพบก เกมการชก ยกแรกเป็นไปอย่างสูสี รอชิงจังหวะออกหมัดเป็น ธิติสรรค์ ที่ชกเข้าเป้าได้อย่างแม่นยำกว่า ผ่านเข้าสู่ยกที่2 ธิติสรรค์ ออกมาเดินไล่ยิงหมัดซ้าย-ขวาเข้าที่หน้าของ วุฒิชัย ได้อย่างจะแจ้งกว่า ยกสุดท้าย ธิติสรรค์เป็นฝ่ายคุมเกมการชกยิงหมัดชุดเข้าลำตัวสลับไปหน้าไปตลอดจนสิ้นเสียงระฆังกรรมการชูมือให้ธิติสรรค์เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปได้อย่างสวยงาม ส่วนผลคู่อื่น รอบ 8 คน (ชิงเหรียญทองแดง) รุ่น 48 กก. หญิง กนกวรรณ ไชยแก้ว(โรงเรียนกีฬาจ.ศรีสะเกษ) แพ้คะแนน ปานประดับ ปลอดสัย(ราชนาวี),ธณวรรณ ทองดวง(กองทัพอากาศ) ชนะอาร์เอสซียก 1 สรรพศิริ แช่มลออ(สโมสรกีฬาจ.ชุมพร),ฐิติมา ศรีบุญเรือง(ภานุรังสี) ศุภ ฟ้าธรณีแสง(ลูกประดู่), รัชนีกร สีกระโดน(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ชนะผ่าน ศิริวรรณ พึ่งปัญญา(ตำรวจ), รุ่น 57 กก. หญิง เนรัญชญา เชื้อคำจันทร์(ภานุรังษี) แพ้คะแนน ธารทิพย์ วรรณพรม(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ),นพเกตุ ศรีสวัสดิ์(โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก) ปรีดากมล ถิ่นทับไทย(ตำรวจ),อภิษฏา ทันท่าหว้า(กองทัพอากาศ) ชนะผ่าน ศิริโสภา ศิริศักดิ์(ผู้ครองฟ้า) รุ่น 49 กก. สมัคร แซ่หาญ (กองทัพบก) ชนะคะแนน สืบพงษ์ พรมเดื่อ(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ),ณัฐวุฒิ บัวใหญ่(โรงเรียนกีฬาจ.อ่างทอง) แพ้คะแนน ฤทธิอมร แสงสว่าง(โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก),ธนรัช แสงเพชร(ตำรวจ) ชนะคะแนน ณัฐพงษ์ ท้วมเจริญ(ราชนาวี),กุลวัชร บุญละ(กองทัพภาค3) แพ้คะแนน พงศกร ไพโรจน์วิรุฬห์(มาบตาพุด),รุ่น 52 กก. วันเฉลิม แซ่หาญ(ราชนาวี) ชนะคะแนน แสนชัย ห้องแก้ว(ภานุรังสี) , ฉลองชัย มีนิลดี(กองทัพภาค 3 ) ชนะผ่าน สุรสิทธิ์ หลวงโปธา(กองทัพภาคที่2), ปฎิภาณ อุทัยดา(ตำรวจ) ชนะคะแนน ขวัญชัย ห้องแก้ว(โรงเรียนกีฬาอ.บ.จ.พิษณุโลก) รุ่น 57 กก. ศราวุฒิ สุขเทศ(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ชนะคะแนน สุทิน มาสุข(กองทัพอากาศ),อมฤต เยาว์ดำ(กองทัพบก) ชนะผ่านอนุชา เกิดปรี(สโมสรกีฬาสิงห์บุรี),พละบดี ผลดิลก(ลูกประดู่)ชนะคะแนน มงคล อาจวิเชียร(กองทัพภาค2) ,รุตชการณ์ จันทร์ตรง(ราชนาวี) ชนะคะแนน พลวัฒ บุญเกิ่ง(สโมสรกีฬาจ.อ่างทอง) รุ่น 63 กก. บรรจง สินศิริ(กองทัพบก) ชนะผ่าน สุธี ชูการ(ราชทัณฑ์),นฤเทพ กลิ่นษร(โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก) แพ้คะแนน ศักดา รวมธรรม(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ),คุณาธิป ปิดนุช (ราชนาวี) แพ้คะแนน สมชาย วงษ์สุวรรณ(กองทัพอากาศ),ศรัณย์ ศรีอ่วมปู่(โรงเรียนกีฬาจ.สุพรรณบุรี) แพ้คะแนน ทิวาจันทะคำภา(กองทัพภาค2)