สัปดาห์พระเครื่อง / ราม วัชรประดิษฐ์
พระมงคลบพิตร วัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นที่เคารพสักการะของชาวพระนครศรีอยุธยาและพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เป็นพระพุทธรูปหุ้มทองสัมฤทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประ เทศไทย สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในพระวิหารข้างกำแพงวัดพระศรีสรรเพชญ์ ด้านใต้ของพระราชวังโบราณกรุงศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา
ย้อนไปหลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในปี พ.ศ.2310 วัดวาอารามต่างๆ ถูกเผาทำลายแทบทั้งสิ้น รวมทั้งพระวิหารพระมงคลบพิตร พม่าเอาไฟเผาเพื่อจะลอกเอาทอง แต่ด้วยอภินิหารขององค์พระ แม้พระวิหารจะพังเสียหายหมด แต่พระมงคลบพิตรยังคงประดิษฐานอยู่เหมือนเดิม ชำรุดเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากนั้นก็ถูกปล่อยรกร้างเรื่อยมา
การจัดสร้าง
ในปี พ.ศ.2460 พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์) เทศาภิบาลมณฑลอยุธยาในสมัยนั้น ได้ดำริให้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระมงคลบพิตร ซ่อมพระเมาลี พระกรข้างขวา และซ่อมแซมพระวิหาร ในครานั้นได้มีการจัดสร้าง “เหรียญพระพุทธ” ขึ้น เพื่อแจกเป็นที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์ เรียกว่า “เหรียญปั๊มรูปเหมือนพระมงคลบพิตร” อันนับเป็นเหรียญรุ่นแรก
ประกอบพิธีปลุกเสกในพระวิหารหลวงพ่อพระมงคลบพิตร โดยมี หลวงพ่อพระมงคลบพิตร เป็นองค์ประธาน พร้อมนิมนต์สุดยอดพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นมาร่วมพิธีอธิษฐานจิต อาทิ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง หลวงพ่อชม วัดพุทไธศวรรย์ และพระญาณไตรโลกนาถ (ฉาย) วัดพนัญเชิง เป็นต้น จึงนับว่าเป็นเหรียญพระพุทธที่ทรงพุทธคุณและทรงคุณค่าเป็นที่นิยมสะสมอย่างสูงเหรียญหนึ่งของเมืองไทย และได้รับการยกย่องให้หนึ่งในเบญจภาคีที่สุดแห่งเหรียญพระพุทธ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน หาดูหาเช่าได้ยากยิ่ง
เนื้อหามวลสาร-พุทธลักษณะพิมพ์ทรง
มีการจัดสร้างเป็นเนื้อเงิน และเนื้อทองแดง โดยจำนวนการสร้างไม่มากนัก ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ หูเชื่อม ยกขอบเป็นเส้นลวดนูนทั้งหน้าและหลัง ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปจำลองพระมงคลบพิตร ประทับนั่ง ปางมารวิชัย เหนือแท่นอาสนะ โดยรอบมีอักษรไทยจารึกเรียงโค้งตามขอบเหรียญว่า “พระปฏิมากร มงคลบพิตร์ ศรีอยุธยา” ส่วนด้านหลัง ตรงกลางเป็น “ยันต์เฑาะว์” สะบัดยอดอย่างงดงาม บนพื้นเรียบยกขอบ เหรียญพระมงคลบพิตรรุ่นแรกนี้ เป็นเหรียญพระพุทธที่นิยมกันมาก ปัจจุบันหาได้ยากยิ่ง สนนราคาสูง
พุทธคุณ
พุทธคุณดีครอบจักรวาล ทั้งแคล้วคลาด ปลอดภัยจากภยันตรายนานัปการ และเสริมความเป็นสิริมงคล ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองครับผม
ย้อนไปหลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในปี พ.ศ.2310 วัดวาอารามต่างๆ ถูกเผาทำลายแทบทั้งสิ้น รวมทั้งพระวิหารพระมงคลบพิตร พม่าเอาไฟเผาเพื่อจะลอกเอาทอง แต่ด้วยอภินิหารขององค์พระ แม้พระวิหารจะพังเสียหายหมด แต่พระมงคลบพิตรยังคงประดิษฐานอยู่เหมือนเดิม ชำรุดเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากนั้นก็ถูกปล่อยรกร้างเรื่อยมา
การจัดสร้าง
ในปี พ.ศ.2460 พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์) เทศาภิบาลมณฑลอยุธยาในสมัยนั้น ได้ดำริให้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระมงคลบพิตร ซ่อมพระเมาลี พระกรข้างขวา และซ่อมแซมพระวิหาร ในครานั้นได้มีการจัดสร้าง “เหรียญพระพุทธ” ขึ้น เพื่อแจกเป็นที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์ เรียกว่า “เหรียญปั๊มรูปเหมือนพระมงคลบพิตร” อันนับเป็นเหรียญรุ่นแรก
ประกอบพิธีปลุกเสกในพระวิหารหลวงพ่อพระมงคลบพิตร โดยมี หลวงพ่อพระมงคลบพิตร เป็นองค์ประธาน พร้อมนิมนต์สุดยอดพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นมาร่วมพิธีอธิษฐานจิต อาทิ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง หลวงพ่อชม วัดพุทไธศวรรย์ และพระญาณไตรโลกนาถ (ฉาย) วัดพนัญเชิง เป็นต้น จึงนับว่าเป็นเหรียญพระพุทธที่ทรงพุทธคุณและทรงคุณค่าเป็นที่นิยมสะสมอย่างสูงเหรียญหนึ่งของเมืองไทย และได้รับการยกย่องให้หนึ่งในเบญจภาคีที่สุดแห่งเหรียญพระพุทธ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน หาดูหาเช่าได้ยากยิ่ง
เนื้อหามวลสาร-พุทธลักษณะพิมพ์ทรง
มีการจัดสร้างเป็นเนื้อเงิน และเนื้อทองแดง โดยจำนวนการสร้างไม่มากนัก ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ หูเชื่อม ยกขอบเป็นเส้นลวดนูนทั้งหน้าและหลัง ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปจำลองพระมงคลบพิตร ประทับนั่ง ปางมารวิชัย เหนือแท่นอาสนะ โดยรอบมีอักษรไทยจารึกเรียงโค้งตามขอบเหรียญว่า “พระปฏิมากร มงคลบพิตร์ ศรีอยุธยา” ส่วนด้านหลัง ตรงกลางเป็น “ยันต์เฑาะว์” สะบัดยอดอย่างงดงาม บนพื้นเรียบยกขอบ เหรียญพระมงคลบพิตรรุ่นแรกนี้ เป็นเหรียญพระพุทธที่นิยมกันมาก ปัจจุบันหาได้ยากยิ่ง สนนราคาสูง
พุทธคุณ
พุทธคุณดีครอบจักรวาล ทั้งแคล้วคลาด ปลอดภัยจากภยันตรายนานัปการ และเสริมความเป็นสิริมงคล ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองครับผม