ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย กับการใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งเพจ Fda Thai ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โพสต์ระบุ ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) ไม่ใช่ยาแก้อักเสบ เป็นยาที่ใช้รักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่คนทั่วไปมักเรียกยาปฏิชีวนะว่า ยาแก้อักเสบ ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะการอักเสบ ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา เช่น หลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ คออักเสบจากเชื้อไวรัส ข้ออักเสบจากโรคเกาต์ อาการปวดข้อปวดกระดูก เป็นต้น การใช้ยาปฏิชีวนะไม่ถูกต้องเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการดื้อยา หรือเกิดเชื้อดื้อยา เชื้อดื้อยาคืออะไร ทุกครั้งที่เรากินยาปฏิชีวนะ เชื้อแบคทีเรียที่อ่อนแอจะตายไป ส่วนที่เหลือก็จะก้าวร้าวขึ้น ดุขึ้น มีการกลายพันธุ์ หรือผลิตลูกหลานให้ทนต่อยาปฏิชีวนะ เรียกว่า เชื้อดื้อยา แปลว่า ยาปฏิชีวนะชนิดนี้ใช้กับแบคทีเรีย เหล่านี้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว เมื่อเกิดเชื้อดื้อยา ทำให้เราต้องเปลี่ยนไปใช้ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ไปเรื่อยๆ ซึ่งยาเหล่านี้มักมีอันตรายมากกว่าและมีราคาแพงกว่ายาเดิม คนที่กินยาปฏิชีวนะบ่อยเกินไป เชื้อโรคก็เริ่มปรับตัว สู้กับยาได้ ต่อไปเวลาเจ็บป่วยก็ไม่มียาใดจัดการกับเชื้อโรคนั้นๆ ได้