บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (BA) ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาสที่ 3 ปี 2563 โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 903 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ 86.5 และมีผลขาดทุนเท่ากับ 1,585.1 ล้านบาท นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ว่า “รายได้รวมของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 903 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 86.5 ขาดทุน 1,585.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้ภาครัฐต้องออกมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ สายการบินจึงได้เน้นการทำการบินภายในประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้บริษัทได้กลับมาทำการบินในเส้นทาง กรุงเทพฯ-สมุย,กรุงเทพฯ-เชียงใหม่,กรุงเทพฯ-สุโขทัย, กรุงเทพฯ-ลำปาง,กรุงเทพฯ-ภูเก็ต และสมุย-ภูเก็ต โดยได้บริหารจัดการเส้นทางบินและจำนวนเที่ยวบินให้เหมาะสมกับความต้องการเดินทาง ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 8,196.4 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 60.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ของธุรกิจสายการบินและธุรกิจสนามบิน ปรับตัวลดลง 65.9 และ 64.9 ตามลำดับ เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารลดลงร้อยละ 65.1 โดยเฉพาะผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งลดลงร้อยละ 74.3 ในขณะที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน และกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ปรับตัวลดลงร้อยละ 54.8 ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 4,918 ล้านบาท เป็นผลขาดทุนส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท เท่ากับ 4,882.5 ล้านบาท และมีผลขาดทุนต่อหุ้นเท่ากับ 2.37 บาท ขณะที่ด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้มีผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) และส่งผลให้มีการทำการบินในประเทศเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด (BAC) จึงมีจำนวนอาหารที่ผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 196 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 แต่ยังคงต่ำกว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ร้อยละ 97 นอกจากนี้บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด (BFS Ground) มีจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 33 จากไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 แต่ลดลงจากช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 63 และในส่วนของบริษัทดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก้ จำกัด (WFS-PG-Cargo) มีน้ำหนักของสินค้าที่ให้บริการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 28 ของไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 แต่ลดลงจากไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ร้อยละ 7 สำหรับธุรกิจการลงทุน บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ได้ดำเนินการส่งแผนแม่บทการดำเนินงานต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เพื่อกำหนดตำแหน่งและจุดเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่สำคัญในโครงการเมื่อเดือนสิงหาคม 2563