"คลัง"ถกสรุป"คนละครึ่ง"เฟส 2 สัปดาห์นี้ ยันมีงบประมาณเพียงพอ ไม่ตัดสิทธิผู้รับสิทธิเฟสแรกร่วมโครงการ เข้มร้านค้าทำผิดเจอดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่"ซูเปอร์โพล"เผย ปชช.ร้อยละ 89.3 ระบุคนละครึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 15 พ.ย.63 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้กระทรวงการคลังเตรียมหารือกับรมว.คลังในการวางกรอบแนวนโยบายโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 พร้อมดูแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้เป็นงบประมาณในการดำเนินโครงการ โดยยืนยันว่ามีงบประมาณในการดำเนินการอย่างแน่นอน ส่วนการลงทะเบียนสำหรับประชาชนจะอยู่ที่ 10 ล้านคน ขณะที่ร้านค้าสามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยไม่มีการจำกัดจำนวนร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ จึงอยากเชิญชวนให้ร้านค้าต่างๆเข้าร่วมโครงการนี้เพื่อกระตุ้นยอดขาย "เงินที่ใช้ในโครงการเฟส 2 เป็นเงินในส่วนของพระราชกำหนดเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูผลกระทบจากโรคโควิด-19 จำนวน 400,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือวงเงินที่นำมาใช้จ่ายประมาณ 200,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังต้องทำรายละเอียดเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เพื่อพิจารณารายละเอียดก่อน" ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟสแรกกระทรวงการคลังมีแนวทางเบื้องต้นว่า สามารถขอใช้สิทธิเฟส 2 ต่อได้ แต่มีเงื่อนไขคือ คนที่ได้รับสิทธิเฟสแรกต้องใช้จ่ายเงินที่ได้รับ 3,000 บาท ภายในวันที่ 31 ธ.ค.63 ให้ครบก่อน ซึ่งหากผู้ที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวไม่อยากร่วมโครงการเฟส 2 กระทรวงการคลัง จะมีปุ่มหรือข้อความให้ผู้ลงทะเบียนเฟสแรกยืนยันว่าจะเข้าร่วมมาตรการต่อหรือไม่ ซึ่งถ้าเข้าร่วมก็จะได้รับเงินในส่วนของเฟส 2 สำหรับกรณีการพบร้านค้าบางแห่งใช้โครงการเป็นโอกาสในการทำผิดวัตถุประสงค์ ทางกระทรวงการคลังได้มีการดำเนินคดีไปแล้วบางส่วน ขณะที่ระบบตรวจสอบของทางธนาคารกรุงไทย สามารถตรวจสอบระบบธุรกรรมได้ทั้งหมดหากเกิดสิ่งผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนและระงับการโอนเงินทันที และจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าลงตรวจสอบพื้นที่ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมาย วันเดียวกัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง คนละครึ่ง พึ่งได้ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,121 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 11 - 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา เมื่อถามถึงความเห็นเกี่ยวกับโครงการ คนละครึ่ง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.6 ระบุ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เจ้าของร้านค้า รายย่อย พึ่งได้ รองลงมาคือ ร้อยละ 90.6 ระบุ คนคิด ออกแบบโครงการ คนละครึ่ง เก่ง ร้อยละ 89.8 ระบุ เดินตลาดเห็นคนจับจ่ายใช้สอย มีความสุข รักประเทศไทย รักรัฐบาลมากขึ้น ร้อยละ 89.8 ระบุ โครงการคนละครึ่ง ทำประชาชนคุ้นเคยใช้แอพพลิเคชั่น และดิจิทัลมากขึ้น ร้อยละ 89.6 ระบุ รัฐบาลควรจัดยิ่งใหญ่อีกในช่วงปีใหม่ ขยายโอกาสให้ชาวบ้านและบริษัทร้านค้ามากขึ้น ร้อยละ 89.3 ระบุ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดความเดือดร้อน ประชาชนพึ่งได้ และร้อยละ 85.8 ระบุ ช่วยทำให้ประชาชนมีวินัยในการออมและใช้จ่ายเงิน