วันที่ 13 พ.ย.63-กระทรวงต่างประเทศจีน แถลงแสดงความยินดีต่อ โจ ไบเดน - กมลา แฮร์ริส ว่าที่ประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ชี้ เคารพสิ่งที่ชาวอเมริกันเลือก นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงข่าวตอนหนึ่ง แสดงความยินดีต่อ โจ ไบเดน และ กมลา แฮร์ริส ว่าที่ประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งช้าเกือบหนึ่งสัปดาห์หลังจากไบเดน ได้รับการคาดหมาย ว่า จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ผลการนับคะแนนในบางรัฐยังไม่เสร็จสิ้นก็ตาม ซึ่งโฆษกจีนระบุว่า รัฐบาลปักกิ่ง "เคารพต่อการตัดสินเลือกของชาวอเมริกัน เราขอแสดงความยินดีต่อไบเดน และแฮร์ริส" สำหรับจีน ก่อนหน้านี้ได้สงวนท่าทีต่อการคว้าชัยชนะของไบเดนและแฮร์ริส ซึ่งต่างกับผู้นำชาติอื่นๆ ที่ต่างร่วมแสดงความยินดีเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังทราบผลเลือกตั้ง โดยช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนแสดงท่าทีเพียงว่า "รัฐบาลปักกิ่งทราบข่าวการเลือกตั้งตามที่สหรัฐฯ รายงาน" ขณะที่ชาติมหาอำนาจอื่นๆ อย่าง รัสเซียและเม็กซิโก ยังคงเป็นชาติที่สงวนท่าทีในการแสดงความยินดีต่อไบเดน ซึ่งกวาดคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งได้ถึง 279 เสียง มีคะแนนเหนือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้เพียง 217 เสียง แม้ว่าบางรัฐจะยังนับคะแนนไม่เสร็จสิ้น แต่ก็ไม่มีผลมากพอจะเปลี่ยนให้ทรัมป์พลิกกลับมาชนะได้ ทั้งนี้ ตลอด 4 ปีภายใต้การบริหารของทรัมป์ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีความตึงเครียดในทุกด้านโดยเฉพาะด้านการค้า ซึ่งล่าสุดรัฐบาลทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งในนามฝ่ายบริการ ห้ามนักลงทุนสหรัฐฯ เข้าซื้อหรือขายหุ้นของบริษัทจีน 31 แห่ง ที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าบริษัทจีนเหล่านี้มีส่วนช่วยพัฒนาและยกระดับความทันสมัยให้กับกองทัพและหน่วยงานข่าวกรองของจีน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยคำสั่งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. ปีหน้าเป็นต้นไป นับเป็นความกดดันล่าสุดของคณะบริหารทรัมป์ที่มีต่อรัฐบาลปักกิ่ง แม้เหลือช่วงเวลาการบริหารประเทศอีกไม่กี่เดือน