เมื่อวันที่ 13 พ.ย.63 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาท่ามกลางอากาศในตอนกลางคืนที่เริ่มหนาวเย็นบนภูเขา ยอดดอย หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงปากะญอ ได้มีชาวบ้านกะเหรี่ยง- ปากะญอ ที่บ้านซอระแตะ หมู่ที่ 4 ตำบลช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก กว่า 200 คน ส่วนใหญ่สวมเสื้อกันหนาวเกือบทั้งหมด บางคนต้องสวมใส่หมวกไหมพรมและถุงมือกันหนาว บางคนต้องห่มผ้าห่ม ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรพบพระ อ.พบพระ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับรถดูดส้วมของผู้ประกอบการแห่งหนึ่งได้นำสิ่งปฏิกูลไปทิ้งในเขตป่าชุมชน ซึ่งติดกับแหล่งน้ำ และเป็นป่าต้นน้ำที่ชาวบ้านใช้อุปโภค-บริโภค เป็นประจำวัน ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ และได้รับความเดือดร้อน วิตกว่า การนำสิ่งปฏิกูลไปทิ้งยังป่าชุมชน จะส่งผลต่อสุขภาพของชาวบ้าน เพราะใช้น้ำที่ไปจากป่าชุมชนเป็นน้ำประปาหมู่บ้านดื่มมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อผู้ประกอบการ ให้มาเจรจากับชาวบ้านก่อน เพื่อหาทางประนีประนอมกัน
ชาวบ้านรายหนึ่งแจ้งว่า ชาวบ้านทราบมานานแล้วว่า รถดูดส้วมคันหนึ่ง มักเอาสิ่งปฏิกูลไปทิ้งป่าชุมชนแต่จับไม่ได้ และมาคราวนี้จับได้ทราบว่า เป็นรถยนต์ของผู้ประกอบการรายหนึ่ง ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ รีบดำเนินการตามกฎหมาย และแก้ไข เพราะป่าชุมชนไม่ใช่ที่ทิ้งสิ่งปฏิกูล
ล่าสุด ทางผู้ประกอบการได้เจรจากับชาวบ้าน จ่ายเงินชดใช้ จำนวน 10,000 บาท และจะไม่นำสิ่งปฏิกูลไปทิ้งอีก ส่วนข้อกฎหมาย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บ้านซอระแตะ หมู่ที่ 4 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก นั้นอยู่บนดอย ซึ่งขณะนี้สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็น ชาวบ้านได้สวมใส่เสื้อกันหนาว หมวกไหมพรมเพื่อใส่กันหนาว บางคนถึงกับต้องห่มผ้าห่ม เนื่องจากขณะนี้อุณหภูมิลดลงลงอย่างรวดเร็ว
ชาวบ้านรายหนึ่งแจ้งว่า ชาวบ้านทราบมานานแล้วว่า รถดูดส้วมคันหนึ่ง มักเอาสิ่งปฏิกูลไปทิ้งป่าชุมชนแต่จับไม่ได้ และมาคราวนี้จับได้ทราบว่า เป็นรถยนต์ของผู้ประกอบการรายหนึ่ง ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ รีบดำเนินการตามกฎหมาย และแก้ไข เพราะป่าชุมชนไม่ใช่ที่ทิ้งสิ่งปฏิกูล
ล่าสุด ทางผู้ประกอบการได้เจรจากับชาวบ้าน จ่ายเงินชดใช้ จำนวน 10,000 บาท และจะไม่นำสิ่งปฏิกูลไปทิ้งอีก ส่วนข้อกฎหมาย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บ้านซอระแตะ หมู่ที่ 4 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก นั้นอยู่บนดอย ซึ่งขณะนี้สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็น ชาวบ้านได้สวมใส่เสื้อกันหนาว หมวกไหมพรมเพื่อใส่กันหนาว บางคนถึงกับต้องห่มผ้าห่ม เนื่องจากขณะนี้อุณหภูมิลดลงลงอย่างรวดเร็ว