เมื่อวันที่ 11 พ.ย.เวลา 14.00 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณารายงานประจำปี2562 ของสถาบันพระปกเกล้า โดยมีนายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้รายงาน โดยมีส.ส.หลายคนอภิปรายเรียกร้องให้สถาบันพระปกเกล้า ออกมาชี้แจงความชัดเจนถึงแนวทางแก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศ อาทิ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีราย ชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า มีคนฝากคำถามมามากมาย รวมถึงส.ส.ในสภาว่า สถาบันพระปกเกล้าจะออกหลักสูตรการต้านรัฐประหารได้หรือไม่ ถ้าเป็นไปได้อยากให้สถาบันพระปกเกล้าช่วยตอบคำถามว่า ได้เสนอโมเดลอะไรในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม เพื่อตอบโจทย์ให้ประชาชนที่เสียภาษีได้รับทราบ ขณะที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งขณะนี้ อยากให้สถาบันพระปกเกล้าเล่าให้ฟังว่า จะมีวิธีสมานฉันท์อย่างไร ถ้าพูดข้างนอกไม่ได้ ก็ให้มาพูดในสภา สถานการณ์ขณะนี้สถาบันพระปกเกล้าที่เป็นหลักของประชาธิปไตยควรออกชี้นำ เป็นหลักในการแก้ปัญหา ไม่ให้ปัญหาไปกันใหญ่ ทุกวันนี้ตำรวจบ้าจี้ใช้วิธีไปอายัดตัวแบบเก่ากับเด็กๆที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้าต้องออกมายืนยันให้สังคมรับรู้ว่า วิธีการเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ทำเป็นนิ่งเฉย ด้านนายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ชี้แจงว่า ในส่วนของโมเดลการสร้างความปรองดองนั้น ทางสถาบันพระปกเกล้าได้หารือผู้ทรงคุณวุฒิ และได้เสนอรูปแบบคณะกรรมการสมานฉันท์ 2รูปแบบให้สภารับทราบคือ 1.คณะกรรมการ 7ฝ่าย ที่ควรตั้งทันที เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังจะเกิดขึ้น 2.โมเดลคณะกรรมการที่ปลอดจากฝ่ายการเมือง อาจเป็นผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้มีประสบการณ์การแก้ปัญหาความขัดแย้งขึ้นมา 1 ชุด มาทำงานระยะยาว เพื่อออกแบบระบบป้องกันและความระมัดระวัง ไม่ให้เกิดการขัดแย้งในอนาคตข้างหน้า ทั้งสองแบบนี้มีบทเรียนที่เราเคยทำงานศึกษาวิจัยอยู่ ขึ้นอยู่กับสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะเลือกรูปแบบอย่างไร การเก็บรวบรวมข้อมูลของสถาบันพระปกเกล้าในเรื่องนี้เราดำเนินการกันอยู่