เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นประธานพิธีมอบโล่ให้กับนายกำธร เกตุแก้ว พลเมืองดีที่พบวัตถุระเบิดที่ศูนย์การค้าไชน่าทาวน์ หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นผู้ที่กล้าหาญยอมเสี่ยงอันตราย
นายกำธร เปิดเผยว่า รู้ว่าเป็นระเบิด แต่คิดไว้ว่าถ้าจะตายก็ต้องตาย เพราะถ้ารอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ก็ไม่รู้ว่าจะระเบิดเมื่อใด ตนเลยรีบนำระเบิดใส่ถังน้ำ นำออกไปวางกลางลานจอดรถให้เร็วที่สุด ให้ไกลจากจุดที่มีชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวอยู่ ตอนวิ่งคิดอะไรไม่ออก คิดอย่างเดียวว่าจะระเบิดตอนไหน แต่ก็พร้อมจะตาย พอวางเรียบร้อยก็โล่งอก เนื่องจากระเบิดไม่ทำงาน เพราะก่อนตำรวจจะมาถึงใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง
อีกทั้งตนเป็นห่วงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่บริเวณนั้น ขอเจ้าของร้านอย่าบอกนักท่องเที่ยว เกรงว่าจะเกิดความแตกตื่น ยอมรับว่าช่วงถือระเบิดไปกลางลานว่าง ก็นึกถึงครอบครัว โดยเฉพาะลูกชายเพียงคนเดียวที่เป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่จ.นราธิวาส สิ่งที่ทำเพื่อให้ลูกได้เห็นว่าตนก็กล้าหาญเหมือนทหาร ถ้าจะตายก็ตายอย่างมีศักดิ์ศรี เกิดเป็นผู้ชายกล้า โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน จนทำให้ตนมีชื่อเสียงในวันนี้ และตนไม่ขอย้อนเวลากลับไปอีก
“เชื่อว่าสิ่งที่ทำให้รอดปลอดภัยในวันนั้นเพราะห้อยพระหลวงพ่อท่านคล้าย ใส่สายสิญจน์ ที่ติดตัวมานาน และฝากถึงคนในสังคมว่าคนเราต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก เหมือนหลวงพ่อท่านคล้าย ผมขอฝากไปยังผู้ก่อเหตุว่า อย่าทำอย่างนี้เลย คนในประเทศมีใครที่ไหนบ้างไม่รักประเทศ ไม่รักชาติ อย่าทำกับประเทศไทยอย่างนี้เลย ขอเถอะ จากใจของคนไทยคนหนึ่ง ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปกปักรักษา" นายกำธร กล่าว
นายกำธร เปิดเผยว่า รู้ว่าเป็นระเบิด แต่คิดไว้ว่าถ้าจะตายก็ต้องตาย เพราะถ้ารอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ก็ไม่รู้ว่าจะระเบิดเมื่อใด ตนเลยรีบนำระเบิดใส่ถังน้ำ นำออกไปวางกลางลานจอดรถให้เร็วที่สุด ให้ไกลจากจุดที่มีชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวอยู่ ตอนวิ่งคิดอะไรไม่ออก คิดอย่างเดียวว่าจะระเบิดตอนไหน แต่ก็พร้อมจะตาย พอวางเรียบร้อยก็โล่งอก เนื่องจากระเบิดไม่ทำงาน เพราะก่อนตำรวจจะมาถึงใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง
อีกทั้งตนเป็นห่วงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่บริเวณนั้น ขอเจ้าของร้านอย่าบอกนักท่องเที่ยว เกรงว่าจะเกิดความแตกตื่น ยอมรับว่าช่วงถือระเบิดไปกลางลานว่าง ก็นึกถึงครอบครัว โดยเฉพาะลูกชายเพียงคนเดียวที่เป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่จ.นราธิวาส สิ่งที่ทำเพื่อให้ลูกได้เห็นว่าตนก็กล้าหาญเหมือนทหาร ถ้าจะตายก็ตายอย่างมีศักดิ์ศรี เกิดเป็นผู้ชายกล้า โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน จนทำให้ตนมีชื่อเสียงในวันนี้ และตนไม่ขอย้อนเวลากลับไปอีก
“เชื่อว่าสิ่งที่ทำให้รอดปลอดภัยในวันนั้นเพราะห้อยพระหลวงพ่อท่านคล้าย ใส่สายสิญจน์ ที่ติดตัวมานาน และฝากถึงคนในสังคมว่าคนเราต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก เหมือนหลวงพ่อท่านคล้าย ผมขอฝากไปยังผู้ก่อเหตุว่า อย่าทำอย่างนี้เลย คนในประเทศมีใครที่ไหนบ้างไม่รักประเทศ ไม่รักชาติ อย่าทำกับประเทศไทยอย่างนี้เลย ขอเถอะ จากใจของคนไทยคนหนึ่ง ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปกปักรักษา" นายกำธร กล่าว