ชาวนาหลายหมู่บ้านใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เร่งจ้างรถเกี่ยวเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วมแม้จะยังไม่แก่สุกเต็มที่ หวั่นจมเสียหายหลังน้ำมูลหนุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเริ่มเอ่อท่วมนาข้าวของเกษตรกรเป็นบริเวณกว้าง เฉลี่ยตั้งแต่ 50 ซม.- 1 เมตร ชาวนาโอดต้นฤดูเจอแล้งพอใกล้เก็บเกี่ยวเจอน้ำท่วมส่งผลให้เมล็ดลีบ และได้ผลผลิตไม่เต็มที่ (11 พ.ย.63) ชาวนาหลายหมู่บ้านใน ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เร่งจ้างรถเกี่ยวเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อหนีน้ำท่วม แม้บางส่วนจะยังไม่แก่สุกเต็มที่ เพราะเกรงว่าหากปล่อยไว้จะถูกน้ำท่วมเสียหาย หลังมวลน้ำจาก จ.นครราชสีมา ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ปริมาณน้ำมูลหนุนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บางจุดเอ่อล้นตะลิ่งหลากเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับช่วงนี้มีลมแรงทำให้ต้นข้าวล้มรวงแช่น้ำ หากไม่รีบเกี่ยวรวงข้าวที่แช่น้ำก็จะเน่าเสียหาย ซึ่งชาวนา บอกว่า ปีนี้เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะช่วงต้นฤดูประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว จนมีสภาพแคระแกรนโตไม่เต็มที่ แต่พอช่วงข้าวออกรวงกลับเจอน้ำท่วมส่งผลให้ข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยวถูกน้ำท่วมซ้ำเติมอีก ทำให้ได้ผลผลิตไม่เต็มที่ จึงอยากวอนให้รัฐบาลช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการประกันราคาหรือชดเชยข้าวที่เสียหายด้วย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนชาวนา นายสากล ทองเหง่า อายุ 49 ปี เกษตรกรบ้านโนมะงา ต.สะแก อ.สตึก บอกว่า ช่วงนี้น้ำมูลมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องบางจุดเอ่อล้นตลิ่งท่วมนาข้าวเป็นบริเวณกว้างแล้ว จึงต้องลงทุนจ้างรถเกี่ยวเร่งเกี่ยวหนีน้ำแม้บางส่วนจะยังไม่สุกแก่เต็มที่ก็ตาม เพราะหากไม่เก็บเกี่ยวตอนนี้ข้าวที่แช่น้ำก็จะเน่าเสียหายทั้งหมด และหลังเก็บเกี่ยวแล้วก็ต้องนำมาตากเพื่อลดความชื้นก่อนจะนำไปขายเพราะบางโรงสีไม่รับซื้อข้าวสด ซึ่งนอกจากจะประสบปัญหาน้ำท่วมข้าวแล้ว ตอนนี้ราคาข้าวยังตกต่ำอีกด้วย จึงอยากวิงวอนให้รัฐบาลช่วยเหลือประกันราคาไม่ให้ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 15 – 16 บาทด้วย ส่วนข้าวที่เสียหายก็อยากให้ชดเชยให้เพื่อข้าวที่เกี่ยวหนีน้ำทันบางส่วนไปขายไม่ได้ แค่เก็บไว้กินในครัวเรือนเท่านั้น