นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การยื่นญัตติต่อประธานรัฐสภาให้บรรจุเป็นวาระเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา เพื่อขอมติเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ คือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ให้ตั้งส.ส.ร.มายกร่างใหม่ทั้งฉบับ และร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ที่มีเนื้อหาทำนองเดียวกัน จะมีเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นว่า จากการตรวจรายชื่อของสมาชิกรัฐสภา จำนวน72คนที่ได้ลงชื่อในญัตตินั้น พบว่า มีรายชื่อของสมาชิกวุฒิสภา47คน และ ส.ส.สังกัดพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 25 คน ในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 47 คน ไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้สมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่ง ได้แสดงท่าทีต่อต้าน ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีธงที่ชัดเจนไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อริดรอนสิทธิ์ของสมาชิกวุฒิสภาในบางประเด็น แต่ที่แปลกใจมากที่สุด ก็คือรายชื่อของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐจำนวน 25 คน ที่ได้ลงชื่อในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.ฉบับของพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาลงชื่อร่วมกับสมาชิกวุฒิสภา ในญัตติเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความญัตติที่ตัวเองเคยลงชื่อมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่แน่ใจว่าการลงชื่อใน2ญัตติที่มีความขัดแย้งกัน จะมีผลประการใดหรือไม่ แต่เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงใจในฐานะสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล จึงอยากให้เพื่อน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้พิจารณาถอนชื่อออกจากญัตติฉบับยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความออกไปก่อน เพราะญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา256และการจัดตั้ง ส.ส.ร.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ จากฝ่ายกฎหมายและวิปรัฐบาลแล้วว่า ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแต่ประการใด จึงไม่มีเหตุผลใดต้องมาลงชื่อในญัตติร่วมกับสมาชิกวุฒิสภา เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีก อยากให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนได้แสดงจุดยืนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้สอดคล้องกับคำประกาศของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง เพราะถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญรับตีความตามญัตติที่ได้ยื่นแล้ว ก็อาจจะทำให้มีผลกระทบต่อการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ และอาจเป็นเงื่อนไขของกลุ่มคณะราษฎร 2563 กล่าวหารัฐบาลเล่นเกมยื้อเวลา ต่อลมหายใจให้กับรัฐบาลออกไปอีก จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งกำลังดำเนินการไปได้ด้วยดี และไม่อยากจะให้ฝ่ายใดเข้ามาขัดขวาง เหมือนคำพังเพยที่กล่าวว่า “หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด”