คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย การแข่งขันเลือกตั้งระหว่าง “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์”กับ “อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน” แบบมาราธอนกำลังเข้มข้นกว่าการเลือกตั้งทุกๆครั้งเท่าที่ผ่านมา โดยทั้งคนอเมริกันและนานาประเทศต่างก็จับจ้องเฝ้าดูผลการเลือกตั้งอย่างตื่นเต้น เพราะมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อผู้คนทั่วทุกมุมโลก อนึ่งผมใคร่ขอเกริ่นออกตัวเอาไว้ก่อนว่า การแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯตัดสินกันที่คะแนนอิเล็กโทรัลโหวต ซึ่งมีทั้งหมด 538 คะแนน โดยมาจากจำนวนสมาชิกผู้แทนราษฎรทั่วสหรัฐฯ 435 คน บวกด้วยคะแนนของเมืองหลวงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อีก 3 คะแนน ที่จะต้องนำไปบวกรวมกับจำนวนวุฒิสมาชิกอีก 100 เสียง ทั้งนี้การชี้ขาดในการเลือกตั้งจึงอยู่ที่ผู้แข่งขันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องได้รับคะแนนอิเล็กโทรัล 270 เสียง หรือเกินกว่าครึ่งของคะแนนอิเล็กโทรัลทั้งหมด 538 เสียงนั่นเองและผมขอย้ำว่าคะแนนป๊อปพิวล่าไม่ใช่เป็นตัวชี้ขาด ผมขอเล่าให้ฟังถึงบรรยากาศการนับคะแนนเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน2020 (บ้านเราที่เมืองไทยเป็นวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2020)ในช่วงต้นๆที่การนับคะแนนเริ่มขึ้น สถานโทรทัศน์ในสหรัฐฯทุกๆช่องต่างทยอยรายงานผลคืบหน้า ณ รัฐฟลอริด้า โดยวินาทีแรกคู่แข่งทั้งสองมีคะแนนสูสีคู่คี่กันมาโดยตลอด สำหรับประธานาธิบดีทรัมป์นั้นเขาจะแพ้ในรัฐนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะหากเขาเกิดพ่ายแพ้ละก็ โอกาสที่เขาจะได้ไปต่อต้องปิดประตูล๊อคตายในทันที!!! และถึงแม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะเกิดที่กรุงนิวยอร์กก็ตาม แต่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเขาจึงได้ย้ายสำมะโนครัวไปที่รัฐฟลอริด้า เมื่อเดือนตุลาคมปีกลาย และอย่าลืมว่าคะแนนอิเล็กโทรัลของรัฐฟลอริดามีถึง 29 คะแนน ซึ่งรัฐนี้มีประชากรมากเป็นอันดับสามของสหรัฐฯ และในท้ายที่สุดของการนับคะแนนปรากฏว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับชัยชนะในรัฐนี้ถือเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่มอบให้กับเขาเลยทีเดียว สำหรับรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีอาณาเขตติดกับรัฐฟลอริดา โดยมีคะแนนอิเล็กโทรัล 16 คะแนน ซึ่งโจ ไบเดน คาดหวังจะได้รับชัยชนะ แต่กลับต้องพบกับความผิดหวัง เพราะประธานาธิบดีทรัมป์สามารถเก็บคะแนนในรัฐนี้ไปได้แต่อาจจะมีการนับคะแนนใหม่ก็ได้ ส่วนรัฐเพนซิลเวเนียที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งโจ ไบเดน เกิดที่นั่น และมีคะแนนอิเล็กโทรัล 20 คะแนน โดยที่ผ่านมาทั้งประธานาธิบดีทรัมป์และโจ ไบเดนต่างก็มุ่งใช้เวลารณรงค์หาเสียงในรัฐนี้มากทีเดียว สำหรับโจ ไบเดนแล้วนั้น เขาได้ใช้เวลาในวันสุดท้ายทุ่มเทปักหลักหาเสียงที่นั่นอย่างตั้งอกตั้งใจ อย่างไรก็ตามสำหรับรัฐเพนซิลเวเนียนี้ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์เอบีซียังมีบัตรลงคะแนนที่ส่งทางไปรษณีย์และยังไม่ได้นับอีกกว่าสามล้านใบ ฉะนั้นเราอาจจะได้รับทราบผลของรัฐนี้ในอีกหลายวัน แต่อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาแถลงเมื่อคืนวันที่ 4 พฤศจิกายนที่เพิ่งผ่านมานี้ว่า ควรจะหยุดนับบัตรลงคะแนนสามล้านใบนี้ลง โดยเขาต้องการจะขอพึ่งศาลสูงสุดของสหรัฐฯแต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากอดีตผู้ว่าฯคริส คริสตี พันธมิตรคนสนิทของประธานาธิบดีทรัมป์เองที่ร่วมออกรายการ สถานีโทรทัศน์ ABC รวมทั้งบรรดาสื่อต่างๆในทันที ทั้งนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้วางหมากจัดเตรียมทนายความเอาไว้หลายร้อยคน เพื่อให้เข้ามาช่วยทางข้อกฎหมายเรียกร้องไม่ให้มีการนับคะแนนของบัตรดังกล่าว ซึ่งอาจจะเป็นประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมกับการเลือกตั้งที่รัฐฟลอริด้าระหว่าง จอร์จ ดับเบิลยู.บุช กับอัล กอร์ เมื่อปี 2000 โดยครั้งนั้นศาลสูงสุดของสหรัฐฯได้ตัดสินชี้ขาด 5 ต่อ 4 โดยผู้พิพากษาค่ายอนุรักษ์นิยมคุมเสียงข้างมากให้ยอร์จ ดับเบิลยู. บุชเป็นฝ่ายชนะ!!! สำหรับรัฐนิวยอร์ก ซึ่งมีอาณาเขตติดกับรัฐเพนซิลเวเนีย และมีคะแนนอิเล็กโทรัล 29 คะแนน โดยเป็นรัฐที่ประธานาธิบดีทรัมป์เกิด และพักอยู่ที่นั่นมาตลอดทั้งชีวิต แต่ท้ายที่สุดกลับปรากฏว่า โจ ไบเดน ได้รับชัยชนะไปอย่างขาดลอย ส่วนรัฐโอไฮโอซึ่งมีคะแนนอิเล็กโทรัล 18 คะแนน โดยถือเป็นรัฐที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯแทบทุกคนในอดีตที่ผ่านมาจะต้องกำชัยชนะในรัฐนี้ และขณะที่มีการนับคะแนนกันอยู่นั้น ปรากฏว่าคะแนนสูสีคู่คี่หายใจรดต้นคอผลัดกันนำผลัดกันตามมาโดยตลอด แต่ท้ายที่สุดปรากฏว่าประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนนำลิ่ว รัฐอิลลินอยส์เป็นรัฐที่อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา เคยสร้างอนาคตทางการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศในรัฐนี้ โดยเขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสองปี ก่อนที่ลงเลือกตั้งและชนะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี โดยในรัฐอิลลินอยส์นี้โจ ไบเดน ชนะเก็บคะแนนอิเล็กโทรัลไป 20 คะแนน สำหรับรัฐมิชิแกนมีคะแนนอิเล็กโทรัล 11 คะแนน โดยสำนักหยั่งเสียงต่างคาดกันว่าโจ ไบเดน จะได้รับชัยชนะอย่างขาดลอยในรัฐนี้ แต่ผิดคาดหมุนกลับตาลปัตร แต่ในรัฐนี้อาจจะมีการนับคะแนนอีกครั้งเพราะมีบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์อีกหลายหมื่นบัตรที่ยังไม่นับ!!! นอกเหนือจากจำนวนรัฐที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บคะแนนตามรัฐเล็กๆตอนกลางของสหรัฐฯไปแทบทั้งหมด เนื่องจากรัฐเหล่านั้นเป็นฐานเสียงทางการเมืองของพรรครีพับลิกันมาตลอด ส่วนโจ ไบเดน ก็ได้กวาดคะแนนอิเล็กโทรัลตามรัฐต่างๆทางซีกฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือไปแทบทั้งหมด รวมไปถึงทางซีกฝั่งฟากตะวันตกอีกด้วยเช่นกัน ดังนั้นผลของการนับคะแนนจนถึงเวลา 18.00 ของวันพุธที่ผ่านมานี้ ปรากฏว่าคะแนนอิเล็กโทรัลของประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ที่ 213 คะแนน ส่วนอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีคะแนนอิเล็กโทรัลอยู่ที่ 225 คะแนน โดยทั้งคู่ต่างก็ยังไม่ได้รับคะแนนอิเล็กโทรัลถึง 270 คะแนนกันเลย ซึ่งคะแนน 270 คะแนนดังกล่าวถือเป็นคะแนนชี้ขาดที่ผู้ชนะจะต้องได้รับ!!! ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ประธานาธิบดีทรัมป์สร้างความตื่นเต้นในแต่ละวันเป็นอย่างสูง โดยเขาได้ออกเดินทางไปยังหลายๆรัฐด้วยกัน เพราะเขาตระหนักดีว่าทีมของเขากำลังประสบกับปัญหาขาดแคลนทางด้านเม็ดเงิน เขาจึงจำต้องหาทางออกโดยการใช้สื่อเป็นอาวุธในทางอ้อม!!! อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าแม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะขาดเม็ดเงิน แต่ทว่าโดยทั่วไปแล้วคนอเมริกันต่างให้ความชื่นชมดาราคนดัง ซึ่งทรัมป์ก็เป็นนักบันเทิงที่ประสบความสำเร็จทางวงการโทรทัศน์มาแล้วอย่างยาวนาน และถึงแม้ว่าเขาจะออกมาแสดงความไม่น่ารักด้านโจมตีสื่อ โจมตีเกย์หรือคู่รักร่วมเพศ โจมตีเพศหญิง โจมตีชนชาวเม็กซิกัน แต่ก็น่าแปลกที่เขากลับได้รับความชื่นชมจากผู้ที่เขาเคยเอ่ยปากกล่าวโจมตีด้วยซ้ำไป ทั้งนี้จะเห็นได้อีกเช่นกันว่าประธานาธิบดีทรัมป์เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงมาก โดยเขาแสดงท่าทีออกนอกหน้าเสมอมาว่าไม่ชอบนักการเมืองอาชีพแถมยังพูดซ้ำๆอยู่เสมอๆว่าเขาจะไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของใครเหมือนกับนักการเมืองทั่วไป และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยอมเปิดเผยหลักฐานการเสียภาษีเหมือนดั่งนักการเมืองคนอื่นๆ แต่กลับปรากฏว่าคนอเมริกันรับได้ กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นการแข่งขันเลือกตั้งระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2020 ที่เพิ่งผ่านมานี้ นับเป็นการแข่งขันแบบมาราธอนเพราะยังไม่เสร็จสิ้นและยังมีคะแนนในอีกหลายๆรัฐที่ส่งทางไปรษณีย์และคงจะต้องใช้เวลานับกันอีกหลายวัน ฉะนั้นดูเหมือนว่าพวกเราคงจะต้องตั้งหน้าตั้งตาคอยลุ้นรอฟังผลการนับคะแนนกันต่อไป ทำให้ยังไม่ทราบผลสรุปเลยว่า ใครคือประธาธิบดีของสหรัฐฯคนต่อไปและบรรดาสำนักหยั่งเสียงหลายๆสำนักจะโดนหักปากกาเซียนเพราะดันพากันวิเคราะห์แบบผิดโผหรือไม่อย่างไรละครับ