ความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นนักศึกษาวิชาทหาร หรือ รด. สามารถบันทึกคลิปวีดีโอ ขณะที่มีชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสามีภรรยากัน จอดรถจักรยานยนต์ริมถนนแล้วฝ่ายชายได้ลงมือตบตีกระชากฝ่ายหญิง ทั้งพยายามยื้อแย่งลูกน้อยวัยประมาณ 3 – 4 ขวบจนเด็กส่งเสียงร้องไห้ตลอดเวลา แต่พอนักศึกษาวิชาทหารพยายามจะเข้าไปช่วย ก็เห็นฝ่ายชายโชว์ปืนลักษณะขู่ห้ามเข้าไปยุ่ง ก่อนจะบังคับฝ่ายหญิงและเด็กขึ้นรถจักรยานยนต์หนีไป จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนสายโชคชัย-เดชอุดม ตรงข้ามกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 215 อ.นางรอง เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา
กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (5 พ.ย.63) นายสุพิชัย แอมรัมย์ หรือแอม อายุ 35ปี และ น.ส.ชมพูนุช แก้วปรือ หรือ ยุ้ย อายุ 30 ปี สองสามีภรรยาที่ปรากฏในคลิปได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง แล้ว ยอมรับมีปากเสียงทะเลาะและยื้อแย่งลูกกันจริง แต่ภรรยาไม่ได้ติดใจเอาเรื่อง ขณะที่ตำรวจก็ได้แจ้งผู้เป็นสามี 2 ข้อหา คือ ทะเลาะวิวาทย์ในที่สาธารณะ และเสพสารเสพติด โดยข้อหาทะเลาะวิวาทย์ในที่สาธารณะได้เปรียบเทียบปรับ 100 บาท ส่วนข้อหาเสพสารเสพติดก็ทำบันทึกประวัติและส่งเข้ารับการบำบัด
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินายสุพิชัย หรือแอม ผู้เป็นสามี เคยถูกจับกุมคดีเมาแล้วขับ และคดีลักทรัพย์ ส่วนผลจากการตรวจค้นที่บ้านนายสุพิชัย ก็ไม่พบอาวุธปืนแต่อย่างใด
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านทุ่งดอนแต้ว ต.นางรอง อ.นางรอง ซึ่งเป็นบ้านแม่ของ น.ส.ชมพูนุช หรือยุ้ย ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่ผ่านมาทั้งสองทะเลาะกันบ่อย แต่ไม่คิดว่าจะไปตบตียื้อแย่งลูกกันข้างถนนจนกลายเป็นข่าวแบบนี้
สอบถามนางเทียม แก้วปรือ อายุ 69 ปี และนายสำรอง แก้วปรือ ซึ่งเป็นแม่และลุงของน้องยุ้ง เล่าว่า ที่ผ่านมาทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อย บางครั้งก็ถึงขั้นลงไม้ลงไม้แต่ก็ไมได้หนักอะไร และยอมรับว่าฝ่ายชายจะพาเพื่อนมามั่วสุมดื่มเหล้ากันบ่อย ก็เคยตักเตือนหลายครั้ง รวมทั้งเรื่องก็ยาเสพติดด้วย ก็ไม่คิดว่าไปตบตียื้อแย้งลูกกับข้างถนน ก็รู้สึกตกใจและเสียใจ

