“ยิ่งให้ ยิ่งได้” คติธรรมที่หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ให้ทุกคนทำความดีด้วยการให้
สี่องค์กร นาม“ชลประทาน” ซึ่งประกอบด้วย วัดชลประทานรังสฤษดิ์, กรมชลประทาน, โรงเรียนชลประทานวิทยา และโรงพยาบาลชลประทาน มีต้นกำเนิดมาจากสองนักคิดนักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ และหม่อมหลวงชูชาติ กำภู อดีตอธิบดีกรมชลประทาน
วัดชลประทานรังสฤษดิ์ เป็นผู้ให้ธรรมะ ให้จิตวิญญาณ
กรมชลประทาน ให้การพัฒนาและให้การจัดการด้านน้ำซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิต
โรงเรียนชลประทานวิทยา ให้การประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้
และโรงพยาบาลชลประทาน ให้การรักษาชีวิต ให้สุขภาพที่ดีแก่ประชาชนและผู้ด้อยโอกาส
ทั้ง 4 องค์กรได้พัฒนาและก้าวไปพร้อมๆ กัน โดย ให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน
แม้ปัจจุบันรพ.ชลประทาน เปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน และโอนย้ายไปสังกัดมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพิ่มภารกิจให้วิชาความรู้ ทำให้เพิ่มศักยภาพด้านรักษาพยาบาลมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ได้ประกาศเจตนารมณ์เป็นโรงพยาบาลคุณธรรม โรงพยาบาลแห่งการให้ที่มุ่งนำธรรมะสู่การปฏิบัติงาน ให้การรักษาแก่ทุกชนชั้นวรรณะ ทั้งผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ พระภิกษุสงฆ์ ภิกษุณี
ในปี 60 นี้ ครบ 10 ปี ที่หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุมรณภาพ ซึ่งได้กำหนดวันที่ 5 พ.ย.60 เป็นวันแห่งการสลายสรีระธาตุหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯพระราชทานเพลิงศพ
ทั้งนี้ โรงพยาบาลมุ่งมั่นจะดูแลรักษาและสร้างสุขภาพดีอย่างครบวงจร โดยจะมีอาคารผู้ป่วยใหม่ สูง 20 ชั้น และได้เชิญชวนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่
หนึ่งหยดน้ำใจ คือการต่อลมหายใจให้ผู้ด้อยโอกาส “ให้” เพื่อต่อชีวิต โดยร่วมสมทบทุนได้ที่บัญชี กองทุนพัฒนาโรงพยาบาลชลประทาน ธนาคารกรุงไทย สาขาปากเกร็ด เลขที่บัญชี 123-0-18982-3 สอบถาม 0-2 502-2345 ต่อ 1148 หรือ 0-2502-2376