ปลุกฟื้นคืนความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรในวันครบรอบการจัดงานนมัสการองค์พระ 130 ปี สมศักดิ์ศรีพระดังระดับโลก ดั่งความตั้งใจของผู้ร่วมในขบวนที่ต้องการมีส่วนร่วมอุทิศตนถวายแด่องค์หลวงพ่อในรอบปีที่มีเพียง 1 ครั้ง หลังจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถูกผู้ว่าฯ หลายยุค พับเก็บไว้ให้เหลือเล็กเป็นเพียงงานฉบับกระเป๋ามานานนับสิบปี
วันที่ 28 ต.ค.63 เวลา 07.29 น. ที่บริเวณลานด้านหน้าพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประกอบพิธีกล่าวเปิดงานพร้อมปล่อยขบวนแห่ทางบก หลวงพ่อโสธรองค์จำลอง เนื่องในงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปี จ.ฉะเชิงเทรา หรืองานกลางเดือน 12 ซึ่งมีการจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน เป็นปีที่ 130 แล้ว
หลังกล่าวเปิดงานได้มีพิธีเจิมองค์พระปิดทองเบิกเนตรห่มสไบองค์จำลอง ซึ่งถูกนำมาประดิษฐานไว้บนรถนำขบวนแห่ เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนออกไปตามเส้นทาง มุ่งหน้าเข้าไปยังในชุมชน และตลาดเก่าภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อให้ประชาชนได้ตั้งโต๊ะเครื่องบูชาสักการะ ขอพร จนถึงยังหน้าบ้านชานเรือน ร้านค้าของตนเองเพื่อเป็นสิริมงคลตามประเพณีท้องถิ่นดั้งเดิม
ซึ่งในปีนี้ นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ได้มีการรื้อฟื้นริ้วขบวนประกอบขบวนแห่องค์หลวงพ่อโสธรให้มีความยิ่งใหญ่อลังการเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าในทุกๆ ปี ที่ถูกจัดอย่างเงียบเหงาซบเซามาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีทั้งริ้วขบวนจากชุมชน สถานศึกษา และหน่วยงานองค์กรต่างๆ เข้าร่วม
ขณะที่ผู้เข้าร่วมในขบวนล้วนต่างตั้งใจ ตกแต่งประดับริ้วขบวน และแต่งกายอย่างสวยงามมาเข้าร่วม ประกอบบารมีขององค์หลวงพ่อให้เกิดความยิ่งมากขึ้น ถึงเกือบ 30 ริ้วขบวน โดยในแต่ละขบวนต่างมีการแสดงประจำ หรือมีการประดับตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ เพื่อบ่งชี้และเล่าเรื่องถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ประวัติความเป็นมาของชุมชน รวมถึงการประกอบอาชีพการงานอย่างหลากหลายและมีความสวยงาม
โดยที่ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มุ่งเน้นให้เป็นไปในรูปแบบของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย หรือเน้นให้ผู้ร่วมขบวนแต่งกายด้วยผ้าไทยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีบางขบวนได้นำปลาช่อนประดิษฐ์ขนาดใหญ่ มาประกอบขบวนเพื่อบ่งชี้ถึงเรื่องเล่าในตำนานของเมืองแปดริ้ว มาประกอบในขบวนแห่ และมีวิธีการประดิษฐ์นำเสนอขึ้นมาให้ปลาช่อนขยับได้อย่างสร้างสรรค์
สำหรับการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีของ จ.ฉะเชิงเทรา ในปีนี้ได้มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 ต.ค.63 - 8 พ.ย.63 รวม 12 วัน 12 คืน ที่บริเวณวัดโสธรวรารามวรวิหาร และบริเวณศาลากลางจังหวัด และถือเป็นปีที่ 130 แล้ว ที่มีการจัดงานขึ้นมาอย่างต่อเนื่องไม่เคยขาดหาย หลังจากเมื่อปี พ.ศ.2433 ชาว จ.ฉะเชิงเทรา มีความเชื่อว่า หลวงพ่อโสธรได้แสดงถึงบุญญาภินิหารในความศักดิ์สิทธิ์
ที่ได้ช่วยให้ประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รอดพ้นจากการเกิดโรคระบาดไข้ทรพิษ หรือ โรคฝีดาษ ที่เกิดการระบาดอย่างหนักในพื้นที่ ด้วยการจัดงานสมโภชน์และแห่องค์หลวงพ่อโสธรทั้งทางบกและทางน้ำมาโดยตลอดในทุกๆ ปี ในช่วงกลางเดือน 12 อย่างไม่เคยขาดหาย จึงถือเป็นงานประเพณีที่จัดต่อเนื่องสืบทอดกันมา โดยที่ประชาชนขาว จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งสองฝั่งลำน้ำบางปะกง และ 2 ฝั่งข้างทางที่ขบวนหลวงพ่อโสธรแห่ผ่านนั้น
ต่างแสดงความนอบน้อมกราบไหว้บูชา ตั้งเครื่องสูงถวายด้วยความรำลึกถึงบุญญาภินิหารในครั้งนั้นมาโดยตลอด และถือเป็นงานประเพณีที่ส่งเสริมด้านท่องเที่ยวของทางจังหวัดในทุกๆ ปี โดยที่ในปีนี้ได้เริ่มพิธีการขึ้นเมื่อเวลา 04.19 ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ที่หน้าศาลากลางจังหวัด
เวลา 05.09 น. ประกอบพิธีบวงสรวงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา เวลา 05.49 น. ประกอบพิธีบวงสรวงศาลปู่ท้าวมหาพรหม บริเวณสี่แยก ถ.มหาจักรพรรดิ์ เวลา 06.09 น. ประกอบพิธีบวงสรวงหลวงพ่อโสธร ที่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ เวลา 07.29 น. ประกอบพิธีจุดธูปเทียนบูชาหลวงพ่อโสธร และเวลา 07.45 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวเปิดงานนมัสการหลวงพ่อโสธร พร้อมปล่อยขบวนแห่ออกจากบริเวณด้านหน้าพรอุโบสถตามลำดับ
ซึ่งในการจัดงานปีนี้ ได้มีเอกชนรายใหญ่จำนวน 2 ราย มาเข้าร่วมให้การสนับสนุนการจัดงานให้มีความยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้นกว่าในทุกๆ ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ และโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทคซิตี้ ใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยที่ผู้มาท่องเที่ยวชมภายในบริเวณงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือบัตรผ่านประตูแต่อย่างใด
หลังกล่าวเปิดงานได้มีพิธีเจิมองค์พระปิดทองเบิกเนตรห่มสไบองค์จำลอง ซึ่งถูกนำมาประดิษฐานไว้บนรถนำขบวนแห่ เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนออกไปตามเส้นทาง มุ่งหน้าเข้าไปยังในชุมชน และตลาดเก่าภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อให้ประชาชนได้ตั้งโต๊ะเครื่องบูชาสักการะ ขอพร จนถึงยังหน้าบ้านชานเรือน ร้านค้าของตนเองเพื่อเป็นสิริมงคลตามประเพณีท้องถิ่นดั้งเดิม
ซึ่งในปีนี้ นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ได้มีการรื้อฟื้นริ้วขบวนประกอบขบวนแห่องค์หลวงพ่อโสธรให้มีความยิ่งใหญ่อลังการเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าในทุกๆ ปี ที่ถูกจัดอย่างเงียบเหงาซบเซามาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีทั้งริ้วขบวนจากชุมชน สถานศึกษา และหน่วยงานองค์กรต่างๆ เข้าร่วม
ขณะที่ผู้เข้าร่วมในขบวนล้วนต่างตั้งใจ ตกแต่งประดับริ้วขบวน และแต่งกายอย่างสวยงามมาเข้าร่วม ประกอบบารมีขององค์หลวงพ่อให้เกิดความยิ่งมากขึ้น ถึงเกือบ 30 ริ้วขบวน โดยในแต่ละขบวนต่างมีการแสดงประจำ หรือมีการประดับตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ เพื่อบ่งชี้และเล่าเรื่องถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ประวัติความเป็นมาของชุมชน รวมถึงการประกอบอาชีพการงานอย่างหลากหลายและมีความสวยงาม
โดยที่ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มุ่งเน้นให้เป็นไปในรูปแบบของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย หรือเน้นให้ผู้ร่วมขบวนแต่งกายด้วยผ้าไทยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีบางขบวนได้นำปลาช่อนประดิษฐ์ขนาดใหญ่ มาประกอบขบวนเพื่อบ่งชี้ถึงเรื่องเล่าในตำนานของเมืองแปดริ้ว มาประกอบในขบวนแห่ และมีวิธีการประดิษฐ์นำเสนอขึ้นมาให้ปลาช่อนขยับได้อย่างสร้างสรรค์
สำหรับการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีของ จ.ฉะเชิงเทรา ในปีนี้ได้มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 ต.ค.63 - 8 พ.ย.63 รวม 12 วัน 12 คืน ที่บริเวณวัดโสธรวรารามวรวิหาร และบริเวณศาลากลางจังหวัด และถือเป็นปีที่ 130 แล้ว ที่มีการจัดงานขึ้นมาอย่างต่อเนื่องไม่เคยขาดหาย หลังจากเมื่อปี พ.ศ.2433 ชาว จ.ฉะเชิงเทรา มีความเชื่อว่า หลวงพ่อโสธรได้แสดงถึงบุญญาภินิหารในความศักดิ์สิทธิ์
ที่ได้ช่วยให้ประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รอดพ้นจากการเกิดโรคระบาดไข้ทรพิษ หรือ โรคฝีดาษ ที่เกิดการระบาดอย่างหนักในพื้นที่ ด้วยการจัดงานสมโภชน์และแห่องค์หลวงพ่อโสธรทั้งทางบกและทางน้ำมาโดยตลอดในทุกๆ ปี ในช่วงกลางเดือน 12 อย่างไม่เคยขาดหาย จึงถือเป็นงานประเพณีที่จัดต่อเนื่องสืบทอดกันมา โดยที่ประชาชนขาว จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งสองฝั่งลำน้ำบางปะกง และ 2 ฝั่งข้างทางที่ขบวนหลวงพ่อโสธรแห่ผ่านนั้น
ต่างแสดงความนอบน้อมกราบไหว้บูชา ตั้งเครื่องสูงถวายด้วยความรำลึกถึงบุญญาภินิหารในครั้งนั้นมาโดยตลอด และถือเป็นงานประเพณีที่ส่งเสริมด้านท่องเที่ยวของทางจังหวัดในทุกๆ ปี โดยที่ในปีนี้ได้เริ่มพิธีการขึ้นเมื่อเวลา 04.19 ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ที่หน้าศาลากลางจังหวัด
เวลา 05.09 น. ประกอบพิธีบวงสรวงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา เวลา 05.49 น. ประกอบพิธีบวงสรวงศาลปู่ท้าวมหาพรหม บริเวณสี่แยก ถ.มหาจักรพรรดิ์ เวลา 06.09 น. ประกอบพิธีบวงสรวงหลวงพ่อโสธร ที่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ เวลา 07.29 น. ประกอบพิธีจุดธูปเทียนบูชาหลวงพ่อโสธร และเวลา 07.45 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวเปิดงานนมัสการหลวงพ่อโสธร พร้อมปล่อยขบวนแห่ออกจากบริเวณด้านหน้าพรอุโบสถตามลำดับ
ซึ่งในการจัดงานปีนี้ ได้มีเอกชนรายใหญ่จำนวน 2 ราย มาเข้าร่วมให้การสนับสนุนการจัดงานให้มีความยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้นกว่าในทุกๆ ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ และโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทคซิตี้ ใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยที่ผู้มาท่องเที่ยวชมภายในบริเวณงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือบัตรผ่านประตูแต่อย่างใด