ชาวราชบุรีจากหลายอำเภอกว่า 1,000 คน เดินทางมารวมตัวที่หน้าศาลากลางจังหวัด ราชบุรี เพื่อยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชบุรี เรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินคดีกับบุคคลที่จาบจ้วงสถาบัน
เวลา 10.00 น. ( 26 ต.ค. 63 ) ประชาชนทั้ง 10 อำเภอของจังหวัดราชบุรี มีทั้งกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มพลังมวลชน กลุ่ม อสม. จ.ราชบุรี กลุ่มจิตอาสาสมัครต่าง ๆ สวมเสื้อเหลืองกว่า 1,000 คน รวมตัวที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัด โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ หุตะจิตต์ ราษฎร ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง เป็นตัวแทนเพื่อยื่นหนังสือผ่านนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับบุคคลที่จาบจ้วงดูหมิ่น มุ่งหวังสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในเนื้อหาสำคัญของเอกสาน มีข้อความกล่าวถึงพระมหากษัตริย์ไทยทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยาวนานกว่า 700 ปี จากพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ที่ทรงช่วยสร้างความเจริญรุ่งเรือง ทรงแก้ปัญหาวิกฤตช่วยให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความร่มเย็นเป็นสุขพ้นจากความทุกข์เข็ญ โดย จ.ราชบุรีทุกพระองค์ได้เสด็จทรงเยี่ยมราษฎร พระราชทานความช่วยเหลือด้านต่างๆมากมาย จึงเป็นหน้าที่สำคัญของประชาชนชาวราชบุรี ที่จะเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยความจงรักภักดี และปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพ เมื่อมีกลุ่มบุคคลหรือมีผู้ใดได้กระทำให้สถาบันหลักของชาติสั่นคลอน
นายเอกสิทธิ์ จันทร์สนิท อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9849 หมู่ 2 ต.พงสวาย อ.เมือง เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้มาปกป้องสถาบันของพ่อหลวง ทุกสิ่งทุกอย่างทำเพื่อ “พ่อ” และก็ต้องรักลูกของ “พ่อ” เป็นวันที่ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสถาบันของพ่อ รักพ่อที่สุดไม่มีวันลืม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวของตนเองได้รับพระราชทานบ้านจากพ่อ มีบ้านอยู่ ชีวิตนี้จึงลืมพระองค์ท่านไม่ได้ ช่วงนั้นลำบากมากไม่มีบ้านอยู่ อาหารกินก็จะไม่มี แต่ด้วยสายพระเนตรของพระองค์ได้มอบบ้านพระราชทานเทิดไท้องค์ราชัน ให้เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว ตอนนี้ลูกสองคนที่พิการก็อยู่สุขสบาย ด้วยพระบารมีของพระองค์ โดยครอบครัวมีลูกชาย 2 คน ร่างกายพิการ และพูดไม่ได้ ได้พยายามไปหาบ้านเช่า ทุกเดือนเงินจ่ายค่าเช่าก็ไม่มี แต่ต่อมาได้รับพระราชทานความช่วยเหลือจากพระองค์ ลูก ๆ ได้รับความดูแลจากหน่วยงานของรัฐรวมทั้งเอกชนทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น วันนี้ตั้งใจจะทำทุกอย่างแม้แต่ชีวิตก็จะมอบให้พระองค์ได้
อย่างไรก็ตามหลังจากได้มีการอ่านสาส์นเสร็จแล้วมีการเปิดเพลงสดุดีจอมราชา ประชาชนที่มาวันนี้ได้โบกธงชาติ นำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ชูไว้เหนือศีรษะ พร้อมเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ จากนั้นได้นำสาส์นยื่นแก่ นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งได้กล่าวของคุณประชาชนที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน โดยจะนำสาส์นยื่นให้ส่วนกลางเพื่อส่งถึงพลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป
เวลา 10.00 น. ( 26 ต.ค. 63 ) ประชาชนทั้ง 10 อำเภอของจังหวัดราชบุรี มีทั้งกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มพลังมวลชน กลุ่ม อสม. จ.ราชบุรี กลุ่มจิตอาสาสมัครต่าง ๆ สวมเสื้อเหลืองกว่า 1,000 คน รวมตัวที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัด โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ หุตะจิตต์ ราษฎร ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง เป็นตัวแทนเพื่อยื่นหนังสือผ่านนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับบุคคลที่จาบจ้วงดูหมิ่น มุ่งหวังสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในเนื้อหาสำคัญของเอกสาน มีข้อความกล่าวถึงพระมหากษัตริย์ไทยทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยาวนานกว่า 700 ปี จากพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ที่ทรงช่วยสร้างความเจริญรุ่งเรือง ทรงแก้ปัญหาวิกฤตช่วยให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความร่มเย็นเป็นสุขพ้นจากความทุกข์เข็ญ โดย จ.ราชบุรีทุกพระองค์ได้เสด็จทรงเยี่ยมราษฎร พระราชทานความช่วยเหลือด้านต่างๆมากมาย จึงเป็นหน้าที่สำคัญของประชาชนชาวราชบุรี ที่จะเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยความจงรักภักดี และปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพ เมื่อมีกลุ่มบุคคลหรือมีผู้ใดได้กระทำให้สถาบันหลักของชาติสั่นคลอน
นายเอกสิทธิ์ จันทร์สนิท อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9849 หมู่ 2 ต.พงสวาย อ.เมือง เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้มาปกป้องสถาบันของพ่อหลวง ทุกสิ่งทุกอย่างทำเพื่อ “พ่อ” และก็ต้องรักลูกของ “พ่อ” เป็นวันที่ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสถาบันของพ่อ รักพ่อที่สุดไม่มีวันลืม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวของตนเองได้รับพระราชทานบ้านจากพ่อ มีบ้านอยู่ ชีวิตนี้จึงลืมพระองค์ท่านไม่ได้ ช่วงนั้นลำบากมากไม่มีบ้านอยู่ อาหารกินก็จะไม่มี แต่ด้วยสายพระเนตรของพระองค์ได้มอบบ้านพระราชทานเทิดไท้องค์ราชัน ให้เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว ตอนนี้ลูกสองคนที่พิการก็อยู่สุขสบาย ด้วยพระบารมีของพระองค์ โดยครอบครัวมีลูกชาย 2 คน ร่างกายพิการ และพูดไม่ได้ ได้พยายามไปหาบ้านเช่า ทุกเดือนเงินจ่ายค่าเช่าก็ไม่มี แต่ต่อมาได้รับพระราชทานความช่วยเหลือจากพระองค์ ลูก ๆ ได้รับความดูแลจากหน่วยงานของรัฐรวมทั้งเอกชนทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น วันนี้ตั้งใจจะทำทุกอย่างแม้แต่ชีวิตก็จะมอบให้พระองค์ได้
อย่างไรก็ตามหลังจากได้มีการอ่านสาส์นเสร็จแล้วมีการเปิดเพลงสดุดีจอมราชา ประชาชนที่มาวันนี้ได้โบกธงชาติ นำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ชูไว้เหนือศีรษะ พร้อมเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ จากนั้นได้นำสาส์นยื่นแก่ นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งได้กล่าวของคุณประชาชนที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน โดยจะนำสาส์นยื่นให้ส่วนกลางเพื่อส่งถึงพลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป