ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ที่ต.บางปลา อ.เมืองสมุทรสาคร” นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และคณะฯ ร่วมออกพื้นที่เพื่อไปสำรวจตรวจสภาพประตูการระบายน้ำพันธุ์วงษ์ “ณ บริเวณคลองสี่วาพาสวัสดิ์” ต.บางปลา ลงติดตามงานป้องกันและแก้ไขเหตุปัญหาน้ำท่วม ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในแถบริมฝั่งคลอง ทั้งนี้สืบเนื่องประกอบกับส่วนหนึ่งเป็นช่วงระยะที่น้ำทะเลหนุนสูง ผนวกกับมีฝนตกค่อนข้างบ่อยและต่อเนื่อง
“โดยในการนี้มี น.ส.สุภัทรา ชัยเทวารัณย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดฯ นายอภิชาต โพธิ์ถนอม รองนายก อบจ. และตัวแทนสมาชิกสภาเทศบาลตำบล (ทต.) บางปลา มาร่วมสังเกตการณ์ ในฐานะผู้เกี่ยวข้องปัญหาการระบายน้ำ
ทั้งนี้เบื้องต้นจากการรับฟังรายงาน พบว่า ประตูระบายน้ำพันธุ์วงษ์นั้นได้อาศัยมีติดเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง สามารถสูบน้ำได้ 12 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (เครื่องละ 3 ลบ./ต่อวินาที) เพื่อไล่ลงสู่แม่น้ำท่าจีน”
นายวีระศักดิ์ ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า ล่าสุดจึงสั่งการไปยังหน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง ในเบื้องต้นเร่งจัดการ ดังนี้ 1. เรื่องประตูระบายน้ำปิด-เปิด มอบให้ชลประทาน หารือและรับข้อเสนอแนะจากผู้ใหญ่บ้าน เพื่อรับรู้ถึงรายละเอียดต่างๆ อาทิ ข้อเสนอแนะ ทั้งเรื่องอุปสรรค์และข้อมีติดขัด เพื่อจะได้พยายามดำเนินการให้มีประโยชน์มากที่สุด, 2. การสร้างเขื่อนให้ ผู้นำชุมชนได้ช่วย หมั่นสำรวจดูว่า สามารถทำได้ในส่วนใดบ้าง แค่ไหนในเบื้องต้น ตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ซึ่งอาจจะไม่ต้องทำเป็นการประหยัดงบ แต่ถ้าจำเป็นต้องทำก็รายงานเข้ามาว่า ตรงจุดไหน อย่างไรก็ตามให้สำรวจไปถึงปากคลองแนวลิขิต ฐานะเป็นหลักก่อน เพื่อทำให้ได้ประโยชน์สูงสุด ก่อนเสนอนายอำเภอฯนายวุฒิพงษ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาผู้ว่าฯสมุทรสาคร ได้ขอความอนุเคราะห์จากทางเจ้าหน้าที่ อบจ. ในการร่วมมาดำเนินงานด้วย, 3. ส่วนการขุดตะกอนดิน-โคลน แนะนำทางชลประทานจังหวัดฯ ทำหนังสือขอความเคราะห์ถึง อบจ.สมุทรสาคร พร้อมส่งสำเนาเรื่องไปยังที่จังหวัดด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการขอแรงจาก อบจ. อีกทางหนึ่ง ในการออกร่วมดำเนินการและการติดตามงานด้วย
“หากหลังช่วงฝนหยุดตกบ้างแล้ว หรือน้ำลดลงได้พอสมควร สั่งให้ ผญบ.หรือผู้ช่วย เร่งหาสำหรับทิ้งตะกอนของดินโคลน และ 4. มีเรื่องเรื่องทุ่น หรือตะข่ายที่สามารถใช้ดักขยะได้ โดยมี เทศบาลตำบลบางปลา ต้องทำเป็นตัวอย่างในเบื้องต้นให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน 1 จุด โดยให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ อย่างไรก็ตามถ้าได้ผลดีก็รีบแจ้งไปทางนายอำเภอเมืองฯ ทั้งนี้จะได้สั่งการลง ท้องถิ่น และท้องที่อื่นๆ ได้ปฏิบัติตามกันต่อไป”
“โดยในการนี้มี น.ส.สุภัทรา ชัยเทวารัณย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดฯ นายอภิชาต โพธิ์ถนอม รองนายก อบจ. และตัวแทนสมาชิกสภาเทศบาลตำบล (ทต.) บางปลา มาร่วมสังเกตการณ์ ในฐานะผู้เกี่ยวข้องปัญหาการระบายน้ำ
ทั้งนี้เบื้องต้นจากการรับฟังรายงาน พบว่า ประตูระบายน้ำพันธุ์วงษ์นั้นได้อาศัยมีติดเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง สามารถสูบน้ำได้ 12 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (เครื่องละ 3 ลบ./ต่อวินาที) เพื่อไล่ลงสู่แม่น้ำท่าจีน”
นายวีระศักดิ์ ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า ล่าสุดจึงสั่งการไปยังหน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง ในเบื้องต้นเร่งจัดการ ดังนี้ 1. เรื่องประตูระบายน้ำปิด-เปิด มอบให้ชลประทาน หารือและรับข้อเสนอแนะจากผู้ใหญ่บ้าน เพื่อรับรู้ถึงรายละเอียดต่างๆ อาทิ ข้อเสนอแนะ ทั้งเรื่องอุปสรรค์และข้อมีติดขัด เพื่อจะได้พยายามดำเนินการให้มีประโยชน์มากที่สุด, 2. การสร้างเขื่อนให้ ผู้นำชุมชนได้ช่วย หมั่นสำรวจดูว่า สามารถทำได้ในส่วนใดบ้าง แค่ไหนในเบื้องต้น ตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ซึ่งอาจจะไม่ต้องทำเป็นการประหยัดงบ แต่ถ้าจำเป็นต้องทำก็รายงานเข้ามาว่า ตรงจุดไหน อย่างไรก็ตามให้สำรวจไปถึงปากคลองแนวลิขิต ฐานะเป็นหลักก่อน เพื่อทำให้ได้ประโยชน์สูงสุด ก่อนเสนอนายอำเภอฯนายวุฒิพงษ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาผู้ว่าฯสมุทรสาคร ได้ขอความอนุเคราะห์จากทางเจ้าหน้าที่ อบจ. ในการร่วมมาดำเนินงานด้วย, 3. ส่วนการขุดตะกอนดิน-โคลน แนะนำทางชลประทานจังหวัดฯ ทำหนังสือขอความเคราะห์ถึง อบจ.สมุทรสาคร พร้อมส่งสำเนาเรื่องไปยังที่จังหวัดด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการขอแรงจาก อบจ. อีกทางหนึ่ง ในการออกร่วมดำเนินการและการติดตามงานด้วย
“หากหลังช่วงฝนหยุดตกบ้างแล้ว หรือน้ำลดลงได้พอสมควร สั่งให้ ผญบ.หรือผู้ช่วย เร่งหาสำหรับทิ้งตะกอนของดินโคลน และ 4. มีเรื่องเรื่องทุ่น หรือตะข่ายที่สามารถใช้ดักขยะได้ โดยมี เทศบาลตำบลบางปลา ต้องทำเป็นตัวอย่างในเบื้องต้นให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน 1 จุด โดยให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ อย่างไรก็ตามถ้าได้ผลดีก็รีบแจ้งไปทางนายอำเภอเมืองฯ ทั้งนี้จะได้สั่งการลง ท้องถิ่น และท้องที่อื่นๆ ได้ปฏิบัติตามกันต่อไป”